หลังจากอ่านไดอารี่ของแม่แล้ว เธอก็รับรู้ได้ว่าเฟลิเซียอาจเป็นคนที่ฆ่าแม่ของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นไดอารี่ของแม่ก็พูดถึงเฟลิเซียว่าเธอบังคับให้แม่กินยาบางอย่าง เป็นไปได้ไหมว่า...
ฮันน่าสูดหายใจเข้าอย่างแรง ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ
เฟลิเซียกับยาเหล่านั้นอาจมีส่วนในการตายของแม่แน่ๆ ใช่ ฮันน่าคิดอย่างนั้นหลังจากวางไดอารี่ลงบนโต๊ะ
ครู่ต่อมาเธอก็พึมพำกับตัวเองว่า “ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ ไม่ ฉันต้องสืบหาให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันปล่อยให้แม่ตายแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเฟลิเซียทำอะไรกับแม่ ฉันต้องทำให้แน่ใจว่าเธอจะต้องถูกลงโทษ”
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ฮันน่าก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องนอนของเธอ หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อย ฮันน่าก็พยักหน้าให้กำลังใจกับตัวเอง เธอพร้อมที่จะไปที่เบย์คีพเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับเบื้องหลังการตายของแม่เธอ
ฮันน่าเป็นคนที่มีความเด็ดขาด หลังจากจัดกระเป๋าเดินทาง เธอไปดูรูปถ่ายของแม่ วางแผนจะพูดคุยกับรูปถ่ายของแม่ก่อนออกเดินทางไปเบย์คีพ
ก่อนที่คำพูดเพียงไม่กี่คำจะจบลง ฮันน่าก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูอย่างเร่งรีบ ฮันน่างงกับเสียงเคาะอยู่พักใหญ่ ฉันไม่รู้จักกับเพื่อนบ้านเลยสักคน แล้วใครกันมาเคาะประตูเอาป่านนี้นะ?
ฮันน่าส่ายหัวแล้วคิดว่า "อาจจะมีคนต้องการยืมอะไรบางอย่าง"
คิดอย่างนั้นแล้วฮันน่าจึงเดินไปที่ประตู เนื่องจากบ้านที่เธออยู่นั้นเป็นบ้านไม้แบบเก่า ประตูก็เป็นแบบประตูไม้ที่ไม่มีช่องให้มองลอดออกไป
ทันทีที่ฮันน่าเปิดประตูออก ชายคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาและกอดเธอไว้แน่น “ฮันน่า คุณจริงๆ ด้วย! ผมคิดว่าจะไม่ได้เจอคุณอีกแล้ว”
ฟาเบียนนั่นเองที่มาหาฮันน่า
ฮันน่าอ้าปากค้าง เธอคิดว่าเธอเห็นภาพหลอนไปเอง ฟาเบียน? ฟาเบียนมาหาฉันเหรอเนี่ย?
เขาอยู่ที่นี่จริงๆ
อ้อมกอดของเขายังคงอบอุ่นเหมือนเคยและเธอก็อยากจะซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขาอยู่อย่างนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม