วิเวียนรู้สึกตกใจมากเมื่อเธอรู้สึกว่าเหตุการณ์ของฟินนิคฟังดูคล้ายกับเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นกับเธออย่างน่าขนลุก
แต่เธอก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้มากนัก เพราะเธอกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่เขากำลังจะเล่าต่อ
ตอนนั้นฟินนิคหนีออกมาได้ยังไง เขาทิ้งอีฟเวลินไว้จริง ๆ น่ะเหรอ
ในขณะที่ฟินนิคมองป้ายหลุมศพ เขาก็เอ่ยต่อ “เมื่อผมได้สติคืนมา ผมก็เห็นว่าตัวเองถูกแก้มัดแล้ว และผมหาอีฟเวลินไม่เจอ”
เรื่องที่ได้ยินทำให้วิเวียนตกใจ
ฉันคิดมาตลอดว่าฟินนิคแก้มัดตัวเองได้ยังไง แต่กลับกลายเป็นว่ามีใครบางคนแก้มัดให้เขาก่อนแล้ว
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคืออีฟเวลินหายตัวไปได้ยังไงกัน
วิเวียนไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอจึงเอ่ยถาม “คุณแน่ใจเหรอ”
ฟินนิคหรี่ตามองวิเวียนแล้วเอ่ยตอบ “คุณก็ไม่เชื่อผมเหมือนกันเหรอ”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจคุณ” เธอรีบเอ่ยบอก ก็แค่ทุกอย่างมันฟังดูประหลาดไปสำหรับเธอ และเมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าเขาใช้คำว่า ‘เหมือนกัน’ เธอก็เอ่ยถามต่อ “เดี๋ยวนะ มีคนอื่นที่ไม่เชื่อเรื่องของคุณอีกเหรอ”
“มีสิ” ฟินนิคเอ่ยบอกในขณะที่มองต่ำลง “ผมเล่าให้ทุกคนฟังหลังจากที่หนีออกมาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ไม่มีใครเชื่อผมเลยสักคน แม้แต่ตำรวจยังมองว่าผมแต่งเรื่องขึ้น เพราะงั้นพวกเขาเลยหยุดสืบสวนคดีของผมหลังจากนั้นไม่นาน”
วิเวียนนิ่งอึ้งไป
เธอไม่คิดว่านี่จะเป็น ‘ความจริง’ ที่เธอค้นหามาตลอด
เธออยากจะเชื่อในสิ่งที่ฟินนิคบอกเธอจริง ๆ ว่าเขาไม่ได้ทอดทิ้งแฟนของเขาในตอนนั้น และในตอนที่วิเวียนกำลังคิดหาเหตุผลดี ๆ มาอธิบายอยู่นั้น เธอก็เอ่ยขึ้น “เป็นไปได้ไหมว่าอีฟเวลินอาจจะออกไปเองแล้วหรือไม่ก็มีใครบางคนพาเธอออกไป”
ฟินนิคตอบกลับคำถามของเธอ “ตอนที่ผมได้สติคืนมาและรู้ว่าอีฟเวลินไม่อยู่แล้ว ผมก็ค้นหาเธอจนทั่วโกดังแต่ก็ไม่เจอ และเพราะข้อมือของผมถูกแก้มัด มันเลยมีความเป็นไปได้เพียงสองอย่างที่ผมคิดออกในตอนนั้น คือเธอออกไปเองแล้วหรือไม่ก็มีใครบางคนพาเธอออกไปหลังจากที่แก้มัดให้ผม แต่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ก็บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“ทำไมล่ะคะ” วิเวียนเอ่ยถาม
“ระหว่างการชันสูตรศพของเธอ พวกเขาพบว่าเธอถูกมัดเอาไว้ด้วยเชือกและผลการตรวจดีเอ็นเอก็ยืนยันว่าศพนั่นคืออีฟเวลินจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นมีดที่ถูกพบอยู่ในที่เกิดเหตุคือมีดเล่มเดียวกันกับที่ใช้ตัดเชือกที่มัดข้อมือของผม และบนมือของผมก็มีรอยมีดบาด” ฟินนิคเอ่ยต่อ
วิเวียนรู้สึกประหลาดใจมากกว่าเดิม
ทุกหลักฐานในที่เกิดเหตุบ่งชี้ว่าฟินนิคเป็นคนตัดเชือกด้วยตัวเองและหนีออกมาเพียงคนเดียว โดยที่ไม่ได้คิดที่จะช่วยเหลืออีฟเวลินเลย
แต่เขาจดจำเรื่องราวได้
สัญชาตญาณอาจจะบอกให้ฟินนิคแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เขาทำไป
“นั่นคือเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตอนนั้น” ฟินนิคเอ่ยสรุป เขาหันกลับมามองวิเวียนแล้วเอ่ยถาม “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีอยู่สองแบบ แบบแรกคือแบบที่อยู่ในความทรงจำของผม และอีกแบบคือแบบที่อิงจากการสืบสวน คุณเชื่อแบบไหนมากกว่ากันวิเวียน”
วิเวียนรู้สึกประหลาดใจจนตั้งตัวไม่ทันเมื่อเธอได้ยินคำถามนั้นของฟินนิค
เธอมองเข้าไปในดวงตาสีเข้มที่น่าค้นหาของเขา และดูเหมือนว่ามันกำลังร้องขอความเห็นใจจากเธอ
เมื่อเธอมองเข้าไปในแววตาของเขา หัวใจของเธอก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา เธอเอ่ยบอกเขาเสียงเบา “ฉันเชื่อคุณค่ะ”
แววตาของฟินนิคเป็นประกายขึ้นมาเมื่อได้ยินคำตอบ ริมฝีปากของเขายกขึ้นก่อนเอ่ยบอก “ไม่รู้ว่าคุณหมายความตามที่พูดจริง ๆ หรือเปล่า แต่ผมดีใจนะที่ได้ยินแบบนั้น”
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น วิเวียนก็คุกเข่าลงให้เธออยู่ในระดับเดียวกันกับฟินนิคที่นั่งอยู่บนวีลแชร์
เธอจับมือของเขาเอาไว้แล้วเอ่ยบอกอย่างจริงจัง “ฉันหมายความตามที่พูดจริง ๆ ฉันเชื่อคุณเหมือนกับที่คุณเลือกที่จะเชื่อฉันในตอนนั้น ไม่ว่าหลักฐานมันจะบ่งชี้ว่าอะไร แต่ฉันก็เลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่คุณพูด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม