ฟินนิคหัวเราะให้กับท่าทีที่เงอะงะของวิเวียน
และในตอนนั้นเองที่วิเวียนได้สติกลับคืนมา เธอรีบหุบปากและลุกขึ้นยืนทันที
แต่เมื่อเธอลุกขึ้นยืน ฟินนิคก็จับมือของเธอเอาไว้แล้วดึงเธอเข้ามากอด
วิเวียนทรุดตัวลงบนตักของเขา แต่ก่อนที่เธอจะได้โวยวายอะไรออกไป ฟินนิคก็จับคางของเธอเอาไว้แล้วกดริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากของเธอ คำพูดของเธอถูกกลืนหายไป
จูบในครั้งนี้แตกต่างจากจูบที่อ่อนโยนก่อนหน้านี้ เพราะจูบในครั้งนี้ให้ความรู้สึกของการบังคับและการอยากครอบครอง
เขาแยกริมฝีปากของเธอออกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะลุกล้ำเข้าไปในโพรงปากของเธอและทำเครื่องหมายเอาไว้ ในขณะเดียวกันเขาก็จับตัวของเธอเอาไว้แน่นราวกับว่าเขาอยากที่จะผูกมัดเธอเอาไว้กับเขา
ราวกับเวลาหยุดลง เมื่อฟินนิคผละริมฝีปากออกจากวิเวียน เขามองไปยังหญิงสาวที่ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อราวกับผลแอปเปิ้ลสุกในอ้อมแขน ฟินนิคหัวใจละลาย เขาเอ่ยกระซิบข้างใบหูของเธอ “วิเวียน ขอบคุณที่เชื่อในตัวผม”
และขอบคุณที่โผล่เข้ามาในชีวิตที่มืดมัวและสิ้นหวังของฉัน
...
วิเวียนใช้เวลาครึ่งเดือนในการพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน เธอรู้สึกผิดเมื่อถูกตามให้กลับไปทำงานที่นิตยสารแกลมมอร์
และเพราะเธอลางานนานเกินไป เธอจึงกลัวว่าจะถูกไล่ออก
เมื่อวิเวียนกลับมาทำงานที่บริษัทนิตยสารหลังจากที่หยุดไปนาน ทุกคนในที่ทำงานล้วนเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของเธอ พนักงานส่วนใหญ่รู้แล้วว่าข่าวลือในอดีตของเธอนั้นล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะงั้นพวกเขาจึงเข้าหาเธอมากกว่าปกติ
และแน่นอนว่ายกเว้นแชนนอน
เมื่อแชนนอนเห็นวิเวียน เธอก็รีบเอ่ยทักทายด้วยความอิจฉาริษยาทันที “โอ้ ที่รัก เจ้าหญิงวิเวียนทรงกลับมาทำงานได้แล้วเหรอเพคะ ฉันก็คิดว่าคนที่ดันหลังเธออยู่จะมีอิทธิพลมากจนเธอสามารถหาเงินได้เพียงแค่นอนอยู่บนเตียงเฉยๆ ทั้งวันซะอีก”
มีแต่ความขุ่นเคืองที่ปรากฏอยู่ในแววตาของแชนนอนเมื่อเธอมองมายังวิเวียน
ตอนที่เธอเจอกับแอชลีย์ที่ห้างเมื่อวันก่อน เธอคิดว่าเธอสามารถทำลายวิเวียนได้จากการช่วยเหลือของแอชลีย์ แต่เธอไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ แอชลีย์ถึงได้รีบร้อนออกไปหลังจากที่เธอเริ่มพูดถึงวิเวียนและแอชลีย์ก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวอะไรอีกเลยหลังจากนั้น
หญิงสาวเหล่านี้ล้วนสิ้นหวังอย่างแท้จริง
แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะจัดการวิเวียนได้ด้วยตัวคนเดียว เธอเลยทำได้แค่เพียงเห่าเท่านั้น
ในทางกลับกัน วิเวียนไม่ได้สนใจแชนนอนเลยสักนิด เช่นเดียวกันกับคนอื่น ๆ
ซาร่าจับแขนของวิเวียนเอาไว้แล้วเอ่ยบอกอย่างตื่นเต้น “วิเวียน เธอรู้อะไรไหม โรงงานนรกที่พวกเราเปิดโปงกันไปก่อนหน้านี้ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายแล้ว และคนงานที่นั่นเองก็ได้รับเงินค่าจ้างคืนกันหมดแล้วด้วย”
“จริงเหรอ” วิเวียนรู้สึกดีใจมากที่ได้ยินแบบนั้น
ทุกวันนี้คนงานถูกเอารัดเอาเปรียบ และมีน้อยมากที่คนงานจะเบิกเงินค่าจ้างได้ถ้าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่เดือดร้อนจริง ๆ
“จริงสิ ทุกคนชมเรากันใหญ่เลย พวกเขาบอกให้พวกเรารับเครดิตเรื่องโรงงานนรกนั่น และเพราะแบบนั้นพวกเราเลยได้รับรางวัลกันด้วยแหละ” ซาร่าเอ่ยบอกอย่างตื่นเต้นพลางหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาและเปิดผลการค้นหาของเธอให้วิเวียนดู “รางวัลการช่วยเหลือสังคม ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่รางวัลที่ใหญ่โตอะไร แต่มันก็เพิ่มชื่อเสียงให้กับนิตยสารแกลมมอร์ แม้แต่ชาวเน็ตบนทวิตเตอร์ยังบอกว่าพวกเราเป็นสื่อบันเทิงที่มีมโนธรรมมากที่สุดเลย”
วิเวียนประหลาดใจ
ที่จริงแล้วบริษัทนิตยสารไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับการที่คนงานได้รับเงินค่าจ้างคืนเลย แต่ความนิยมที่เพิ่มขึ้นจะช่วยดึงดูดสปอนเซอร์ให้เข้ามาและช่วยเพิ่มยอดขายให้กับนิตยสารของพวกเขาด้วย
“นี่มันดีมากเลย” วิเวียนเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม
“ใช่ไหมล่ะ หัวหน้าบรรณาธิการบอกว่าคืนนี้เขาจะเลี้ยงด้วยแหละ เธอต้องมาให้ได้นะคราวนี้ พวกเราขอไม่รับคำปฏิเสธ” ซาร่ายกยิ้มกว้าง
วิเวียนเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “เขากลับมาทำงานแล้วเหรอ”
“ใช่ หัวหน้าบรรณาธิการลาหยุดวันเดียวกันกับเธอเลย” ซาร่าคิดอะไรบางอย่างแล้วเอ่ยต่อ “แต่เขากลับมาทำงานเร็วกว่าเธอสัปดาห์หนึ่ง”
สีหน้างุนงงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของวิเวียน
ฟาเบียนบาดเจ็บหนักกว่าฉันอีก ทำไมเขาถึงได้กลับมาทำงานเร็วขนาดนี้
แต่ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรต่อ ซาร่าก็ดึงแขนของเธอแล้วเอ่ยบอก “วิเวียน คืนนี้เธอต้องมาให้ได้นะ”
วิเวียนรู้ดีว่าเธอมักจะโดดงานเลี้ยงสังสรรค์ของบริษัทอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้มีคนจำนวนมากเข้าร่วมด้วย เพราะงั้นมันคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เธอจึงได้เอ่ยตอบตกลงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม