แคสเปี้ยนร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่ถูกแลร์รี่ดึงหูเพื่อเอาเขาออกมาจากใต้โต๊ะ
“โอ หูจะหลุดแล้ว ปล่อยผม หัวหน้า” แคสเปี้ยนขอร้อง
เมื่อเห็นแบบนั้นทุกคนก็หัวเราะออกมาดังลั่น
หลังจากเก็บของแล้วพวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่สุสานสาธารณะในเกาะพิลแลร์
ขณะเดินทางพวกเขาไม่ได้พูดคุยหรือเล่นมุกตลกกันเหมือนวันก่อนพร้อมกับก้มหน้าลงอย่างเงียบๆ ด้วยสีหน้าเศร้าหมองและหมกมุ่นอยู่ในความคิดของตนเอง
เมื่อพวกเขาถึงใจกลางสุสาน โจอันก็เห็นหลุมฝังศพของเพื่อนแลร์รี่ที่เสียชีวิตทั้งสามคนและรู้สึกหดหู่ใจเช่นเดียวกัน
บนแผ่นหินจารึกมีรูปถ่ายใบหน้าที่อ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวาของทั้งสามคน ซึ่งแสดงถึงความอุตสาหะและความเข้มงวดที่เป็นเอกลักษณ์ของทหาร
ทั้งสามมองมายังชายที่ยืนอยู่หน้าหลุมศพของตนและเคยเป็นคนที่สนิทกันมากที่สุด
เมื่อมองดูหลุมศพทั้งสามโจอันรู้สึกอึ้งไป ขณะที่แลร์รี่และเพื่อนของเขามีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาแล้ว
หลุมศพของพวกเขาว่างเปล่า เพราะแลร์รี่และคนอื่นๆ รอดจากความตายในคราวนั้นได้อย่างหวุดหวิด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถพาร่างของทั้งสามคนกลับมาได้
เรื่องที่ไม่สามารถนำศพของทั้งสามกลับมาได้ ทำให้แลร์รี่และคนอื่นที่เหลือเสียใจอย่างมาก
แลร์รี่และคนอื่นๆ ยืนอยู่หน้าหลุมศพพร้อมกับโค้งคำนับ ขณะนึกถึงช่วงเวลาที่พวกเขาทั้งแปดคนอยู่ด้วยกันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป
ในเวลาเพียงไม่กี่ปีพวกเขาก็ถูกพรากจากกันไปตลอดกาล แม้หลังจากผ่านไปหลายปีพวกเขายังคงคิดว่ามันยากที่จะยอมรับความจริงนี้
ไปสู่ที่ชอบที่ชอบเถอะเพื่อน! พวกเราจะใช้ชีวิตแทนเอง!
เมื่อมองดูชายที่กำลังยืนอยู่หน้าหลุมศพที่เหมือนดั่งเด็กน้อยที่ยังยอมรับความจริงไม่ได้ โจอันก็ร้องไห้ออกมา
หลังจากเงียบกันอยู่พักใหญ่ลีออนก็เอ่ยขึ้น “หัวหน้าอากาศเริ่มหนาวแล้วและโจอันก็กำลังท้อง ผมคิดว่าเฮกเตอร์กับคนอื่นคงซาบซึ้งที่เรามาเยี่ยมในวันนี้ เรากลับกันเลยไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...