“นายก็เหมือนกัน ออกไป!”
แคสเปี้ยนเตะรายงานที่อยู่บนพื้นออกไป ขณะที่เลขาเพิ่งจากไปอย่างเร่งรีบ มีรอยเท้าเต็มไปหมด เมื่อเขาเห็นแลร์รี่ฝังตัวเองอยู่ในห้องทำงาน ความรู้สึกผิดของแคสเปี้ยนทวีความรุนแรงมากขึ้นพอๆ กับต้องต่อสู้กับอารมณ์ของตัวเอง
“หัวหน้า ทำไมต้องทรมานตัวเองด้วยล่ะครับ” เมื่อรู้สึกผิด แคสเปี้ยนจึงลดเสียงลง
“หลังจากผ่านอะไรมากมายในช่วงหลายปีมานี้ ทำไมคุณถึงปล่อยให้เรื่องจิ๊บจ๊อย มารบกวนคุณจนแทบไม่ได้สติแบบนี้ล่ะ?”
แลร์รี่กระแอมในลำคอ “จิ๊บจ๊อยเหรอ?” ฟังดูแล้วเหมือนกับว่าเขาเจ็บปวดใจมาก “แคสเปี้ยน ถ้านายถูกคนที่นายรักโกหกถึงสองครั้งสองครา นายจะยังคิดว่าจะยังยืนอยู่ตรงนี้และบอกฉันอย่างใจเย็นว่า นี่เป็นเพียงเรื่องจิ๊บจ๊อยได้มั้ย”
เมื่อแคสเปี้ยนยังคงนิ่งเงียบ แลร์รี่จึงถามต่อไปว่า “นายรู้เรื่องนี้มาสักพักแล้วใช่มั้ย?”
เขาหมุนปากกาหมึกซึมในมือไปมา “เมื่อก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันขอให้นายไปสืบเรื่องอะไร นายก็จะแจ้งให้ฉันรู้ผลทันที แต่ครั้งนี้นายกลับไม่แจ้งข่าวอะไรเลย”
“หลังจากคิดทบทวนความเป็นไปได้ทั้งหมดแล้วนะ แคสเปี้ยน ประกอบกับความจริงที่ว่าเราเป็นสหายที่เผชิญกับความตายมาด้วยกัน ฉันก็รู้ว่ามีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นแหละ ที่จะทำให้นายตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ และเหตุผลนั้นก็คือ โจอัน”
แคสเปี้ยนกลืนน้ำลายราวกับว่ามีอะไรบางอย่างขวางคอเขาอยู่ แลร์รี่เป็นคนที่มองเขาทะลุปรุโปร่ง ไม่จำเป็นต้องให้เขาแก้ต่างเลยด้วยซ้ำ
แล้วตอนนั้น แลร์รี่ก็สงบลง ขณะที่เขาวางปากกาหมึกซึมกลับลงบนโต๊ะ เมื่อก้าวข้ามเอกสารที่เขาขว้างปาออกไปก่อนหน้านี้ เขาก็เดินไปหาแคสเปี้ยน พอได้มองดูรอยแผลเป็นเก่าที่แคสเปี้ยนได้มาระหว่างการฝึกเมื่อหลายปีก่อน เขาก็ปรารภว่า “ฉันจะไม่ทำให้นายลำบากใจ แต่บอกฉันมาว่า ใช่ หรือไม่ใช่”
บรรยากาศในออฟฟิศยังคงตึงเครียด ความเงียบของแคสเปี้ยนทำให้แลร์รี่รู้สึกราวกับว่าโลกของเขาพังทลายลง
แลร์รี่ละสายตาจากรอยแผลเป็นเก่าของแคสเปี้ยน และก้าวไปรอบๆ เขาตบไหล่ของอีกฝ่ายก่อนจะเดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม