“จะให้ผมเชื่อใจคุณได้ยังไง เมื่อแคสเปี้ยนเห็นคุณแอบออกไปข้างนอกกับหมอนั่นกับตา เพียงเพื่อไม่ให้เรามีเรื่องกินแหนงแคลงใจกัน เขาก็เลือกที่จะไม่บอกความจริงกับผม”
แลร์รี่กล่าวเสริมอีกว่า “ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมคุณถึงอยากกลับไปเรียนที่วิทยาลัยเนอร์ฮาเวน เพราะจะเป็นที่คุณสามารถใช้เวลาร่วมกับเขาได้ ทำไมคุณไม่บอกผมว่าวันนั้นคุณกำลังกินข้าวกับเขา? ทำไมคุณไม่บอกผมว่าเขาอยู่ที่วิทยาลัยเนอร์ฮาเวนด้วย? ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ทำไมมีแต่คนพูดลับหลังคุณล่ะ? โจอัน บอกมาสิ! อธิบายให้ผมฟังหน่อยสิ!”
เมื่อเธอคิดว่าแบกโลกทั้งใบอยู่ ความเจ็บปวดที่เข่าก็ทำให้เธอนึกถึงอย่างอื่น ดูเหมือนมันกำลังเยาะเย้ยการเลือกผู้ชายที่เธอเสียสละทุกอย่างเพื่อรัก นอกจากนี้ยังเป็นการเตือนสติด้วยว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝันร้าย แต่เป็นเรื่องจริง
โจอันกำแขนเสื้อเอาไว้เพื่อเป็นการปลอบใจตัวเองจากภายในใจ เธอตอบด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกว่า “ในเมื่อมีคำตอบอยู่แล้ว ทำไมคุณต้องมาถามฉันด้วยล่ะ”
แลร์รี่หัวเราะเสียงดัง มันเป็นคำพูดที่คมมากจนดูเหมือนแทงทะลุหัวใจทั้งสองคน เขาประกาศด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “คุณยอมรับแล้ว โจอัน! คุณยอมรับแล้ว!”
“แลร์รี่ ตั้งแต่เรากลับมาคบกัน ฉันไม่เคยคาดหวังว่าเราทั้งคู่จะแตกสลายแบบนี้ ในใจฉันคิดว่าเราผ่านทุกอย่างมาได้แล้ว แต่ฉันคิดผิด ดูเหมือนเราไม่ได้อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน คุณเชื่อใจตัวเองมากกว่าที่คุณเชื่อใจฉัน”
โจอันกัดฟัน พยุงตัวเองลุกขึ้นโดยมีเก้าอี้รองรับ ขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้มของเธอแม้เธอจะพยายามหยุดยั้งมันอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม เธอเม้มริมฝีปาก “ไว้เราสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะ เราควร...พักสักหน่อย”
ในที่สุดเธอก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าในวันนั้นเธอออกจากบ้านอย่างไร
ความเจ็บปวดของเธอค่อยๆ เล็ดลอดออกมาจากหัวใจ และฉีกทึ้งทุกอณูในร่างกายของเธออย่างรวดเร็วจนมึนชา
ก่อนที่เรื่องจะไปถึงหูของฟินนิคและวิเวียน เธอก็ตัดสินใจไปที่นั่นก่อน บังเอิญทั้งสองไม่อยู่บ้าน มีเพียงพี่เลี้ยงเด็กคอยดูแลเลสลีอยู่ที่นั่น
เมื่อพี่เลี้ยงเด็กเห็นโจอัน เธอก็ทักทายอย่างอบอุ่นและชวนให้ไปพบเลสลี ดังนั้น โจอันจึงเข้าไปใกล้ๆ อย่างระมัดระวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม