“นี่มันเรื่องอะไรกัน” ฟินนิคถามอย่างใจเย็นที่สุด เขาไม่สงสัยว่าในซองจดหมายมีอะไร เขาเพียงแต่โยนคำถามใส่ฟาเบียน
หากเพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง ฟาเบียนจึงทำได้แค่เพียงตอบออกไปอย่างไม่มั่นใจนัก “ได้ยินมาว่าอามีผู้หญิงเหรอ”
เขาตั้งใจตอบออกไปด้วยท่าทีสบาย ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาตกใจมากตอนที่ได้ยินมันครั้งแรก
เขารู้ว่าอาฟินนิคไม่เคยแสดงออกว่าสนใจผู้หญิง มาร์ค พ่อของเขายังคงสงสัยในอุบัติเหตุเมื่อสิบปีก่อน ที่ไม่ใช่แค่พรากขาทั้งสองข้างของอาไป แต่มันยังพรากความสามารถบนเตียงของเขาไปด้วย
จนกระทั่งการแต่งงานของอาฟินนิคที่ทำให้พวกเขารู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด แต่สิ่งที่ทำให้ฟาเบียนตกใจมากกว่าคือการที่อาฟินนิคมีอะไรเกี่ยวข้องกับวิเวียนอีกด้วย
ฟินนิคเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ฟาเบียนตอบกลับมา “หลานรู้เรื่องของอาดีจังเลยนะ”
ถึงแม้มันจะเป็นเพียงคำพูดธรรมดาแต่น้ำเสียงของฟินนิคกลับต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ฟาเบียนเหงื่อแตกด้วยความกลัวเมื่อเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดัน
“แค่บังเอิญน่ะครับ” ฟาเบียนฝืนยิ้มออกมา “ก่อนหน้านี้คุณฮาร์คหุ้นส่วนทางธุรกิจของผมมาเล่าให้ผมฟังว่าเขาไปทำให้ผู้หญิงของอาไม่พอใจเข้า”
เมื่อฟาเบียนพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองคิว ดวงตาของฟินนิคก็ฉายแววเย็นชาออกมา “แล้วยังไง”
ฟินนิคเดาได้แล้วว่าที่ฟาเบียนมาหาเขาวันนี้ก็เพื่อที่จะคุยเรื่องของวิเวียน
แม้ว่าฟินนิคจะไม่เคยมีเจตนาที่จะปิดบังเรื่องความสัมพันธ์ของเขาจากฟาเบียน แต่ฟาเบียนกลับดูเหมือนจะเข้าใจผิดคิดว่าวิเวียนคือเมียน้อยของเขา
“คือ… ” ฟาเบียนเริ่มเหงื่อออกแต่เขาก็แข็งใจและพูดต่อ “ผู้หญิงคนนั้นทำงานอยู่ที่บริษัทนิตยสารของผม และผมบังเอิญได้รู้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับเธอมาซึ่งผมคิดว่าอาควรรู้”
ในขณะที่พูด สายตาของเขาก็จ้องไปยังซองจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะ
ในซองจดหมายนั่นมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับวิเวียน
ฟินนิคเอื้อมมือไปเปิดซองจดหมายหลังจากที่ใช้เวลาไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่
แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่อยู่ภายในซองจดหมาย แววตาอาฆาตก็ฉายขึ้นในดวงตาของฟินนิค
ฟาเบียนคอยสังเกตสีหน้าของฟินนิคอยู่ตลอดและเขาไม่แปลกใจเลยที่เห็นสีหน้าของฟินนิคเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าหล่อนจะเป็นเพียงเมียน้อยของอาฟินนิค แต่มันก็ชัดเจนแล้วว่าหล่อนสำคัญกับเขา ไม่เช่นนั้นอาคงไม่ทำแบบนั้นกับคุณฮาร์ค
พอพูดถึงเรื่องนั้นแล้ว วิเวียนช่างเป็นผู้หญิงที่น่าประทับใจจริง ๆ เมื่อก่อนหล่อนทำให้ฉันหลงหัวปักหัวปำ มาตอนนี้หล่อนยังสามารถลวงอาฟินนิคผู้ที่ไม่เคยสนใจผู้หญิงมาก่อนได้อีกด้วย
แต่หลังจากที่ฉันเผยธาตุแท้ของหล่อนในวันนี้ หล่อนจะไม่มีทางได้เสแสร้งอีกต่อไป
ฟาเบียนเต็มไปด้วยแรงปรารถนาที่จะแก้แค้น เพียงเพราะเขาไม่อยากยอมรับว่าจริง ๆ แล้ว เขาแค่ไม่อยากเห็นวิเวียนและอาฟินนิคมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อกัน
ตุ้บ
ฟินนิคเขวี้ยงซองจดหมายลงบนโต๊ะหลังจากเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน เขาหันไปรอบ ๆ และถามบริกร “มีไฟแช็กหรือเปล่า”
ฟาเบียนงุนงง
ไฟแช็กเหรอ
แต่อาฟินนิคไม่ได้สูบสักหน่อย
บริกรรีบยื่นไฟแช็กให้กับฟินนิค ก่อนฟาเบียนจะได้ทำอะไร ฟินนิคก็จุดไฟแช็กและเผาซองจดหมาย
“อาฟินนิค อาทำอะไร” ฟาเบียนตกใจและพยายามที่จะห้าม แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา สายตาของเขาก็ประสานเข้ากับดวงตาอันเย็นชาของฟินนิค
ทันใดนั้น เขารู้สึกสันหลังเย็นวาบ
ช่างเป็นสายตาที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้
“ทำไมล่ะ ไม่ใช่แค่อยากให้อาดูหรอกเหรอ” รอยยิ้มเยือกเย็นผุดขึ้นบนริมฝีปากของฟินนิคในขณะที่น้ำเสียงเองก็เย็นชาไม่แพ้กัน “ตอนนี้อาได้ดูแล้วและมันคงไม่มีปัญหาอะไรถ้าอาจะเผามันใช่ไหม”
น่าขำสิ้นดี
แม้ว่ารูปจะไม่เห็นเรือนร่างอะไรมากมาย แต่เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ดังนั้นจะไม่มีใครได้เห็นเธอแบบนั้นอีก
ฟาเบียนมองฟินนิค เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากกลืนน้ำลายและพยักหน้า “ไม่มีครับ”
ซองจดหมายที่มีรูปปิดผนึกอยู่ภายในถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
ฟินนิคโยนไฟแช็กไปด้านข้างและเอนหลังพิงอาของตัวเอง สายตาแสนเย็นชามองจ้องไปที่ฟาเบียนราวกับกำลังสอบปากคำ “บอกอามาสิ ว่าใครให้รูปนี้มา”
ฟาเบียนเงยหน้าขึ้นอย่างฉงนใจ เขามองไปที่ฟินนิค เขาแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “อาฟินนิค อาไม่อยากรู้เหรอว่าเธอถ่ายรูปกับใครหรือทำไมมันถึงได้มีรูปแบบนี้”
ฟาเบียนทำหน้าไม่พอใจ ในขณะที่ฟินนิคตอบกลับด้วยน้ำเสียงเข้ม “ทำไมอาต้องถามด้วยล่ะ ในเมื่ออารู้ดีว่าผู้หญิงของอาเป็นคนยังไง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม