วิเวียนไม่รู้จะตอบอย่างไร สิ่งที่เธอรู้ตอนนี้มีเพียงความรู้สึกหมดแรงที่มันถาโถมเข้ามา เธอปัดมือของฟินนิคออกแล้วลุกเดินออกจากห้องอาหารไป
ฟินนิคมองตามหลังเธอแต่เขาไม่ได้ไล่ตามเธอไป
ตลอดทั้งคืนฟินนิคไม่ได้กลับไปที่ห้องนอนใหญ่ มีเพียงวิเวียนที่ถูกทิ้งให้นอนไม่หลับอยู่คนเดียวภายในห้อง
ฟินนิคออกจากบ้านไปแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น เขาออกไปในตอนที่วิเวียนเพิ่งตื่น
หลังจากที่ทานมื้อเช้าคนเดียว เธอก็ออกไปทำงาน แต่เมื่อเธอเพิ่งได้นั่งลงที่โต๊ะทำงานของเธอ เธอก็เห็นฟาเบียนเดินออกมาจากห้องทำงานของเขา
วิเวียนขมวดคิ้วและลุกขึ้นยืน เธอตั้งใจว่าจะหนีไปซ่อนตัวในห้องน้ำเพื่อหลบเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงกับเขา เธอไม่อยากให้ฟาเบียนต่อว่าเธอต่อหน้าทุกคน
“วิเวียน ช่วงบ่ายเธอว่างใช่ไหม งั้นเธอตามฉันไปสัมภาษณ์ที่ฟินเนอร์กรุ๊ปด้วย”
ที่ฟินเนอร์กรุ๊ปเหรอ
วิเวียนตัวแข็งทื่อ และเมื่อเธอหันกลับมา เธอก็เห็นฟาเบียนมองมาที่เธออย่างไร้ความรู้สึก
“คุณนอร์ตันคะ” เธอพยายามทำให้ตัวเองดูนิ่งอย่างที่สุด “วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย คุณให้คนอื่นไปแทนได้ไหมคะ”
“ไม่ได้” ฟาเบียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ “นี่เป็นการสัมภาษณ์ครั้งที่สองกับท่านประธานของฟินเนอร์กรุ๊ป ครั้งที่แล้วเธอเป็นคนสัมภาษณ์เขา อย่างน้อย ๆ เขาก็รู้จักเธอแล้ว และมันคงดีกว่าถ้าครั้งนี้มีเธอไปด้วย”
วิเวียนขมวดคิ้ว
ให้สัมภาษณ์ฟินนิคกับฟาเบียนเนี่ยนะ
ฉันคงเป็นบ้าแน่ ๆ ถ้าฉันทำ
“แต่ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายจริง ๆ ฉันกลัวว่าฉันจะไปเป็นตัวถ่วงมากกว่า ซาร่ากับคนอื่น ๆ ก็อยู่ที่การสัมภาษณ์ครั้งก่อนเหมือนกัน มันคงไม่ต่างกันหากคุณจะขอให้พวกเขาตามไปแทน”
“วิเวียน” ฟาเบียนเริ่มหมดความอดทน น้ำเสียงของเขาเริ่มแข็งขึ้น “เธออยากโดนไล่ออกเหรอ”
ในบริษัทนิตยสาร นอกเหนือจากห้องทำงานของหัวหน้าบรรณาธิการแล้ว ทุกคนก็นั่งทำงานอยู่ในห้องเดียวกัน
พนักงานทุกคนต่างเงียบเมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างฟาเบียนกับวิเวียน พวกเขาคอยมองดูอยู่
ห่าง ๆ ในขณะที่สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลก ๆ รอบ ๆ ตัวของทั้งสองคน
วิเวียนมองไปที่ฟาเบียนและเอ่ยอย่างโอนอ่อน “ตกลงค่ะ คุณนอร์ตัน”
“ถ้างั้นก็อย่าช้า เพราะพวกเราจะไปกันเดี๋ยวนี้” ฟาเบียนออกคำสั่งอย่างเฉยชาแล้วเดินนำออกไป ในขณะที่วิเวียนเดินตามไปอย่างช้า ๆ
หลังจากที่วิเวียนและฟาเบียนเดินออกไป บริษัทนิตยสารก็เกิดความโกลาหลขึ้น
“พระเจ้า มันเกิดอะไรขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างวิเวียนกับคุณนอร์ตันดูไม่ค่อยดีเลย ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเขาจะชอบวิเวียนซะอีก”
“เธอจะบ้าเหรอ เธอต้องตาบอดไปแล้วแน่ ๆ ที่คิดว่าคุณนอร์ตันไม่ชอบวิเวียน ถ้าเขาไม่ชอบเธอ แล้วเขาจะเอาเธอไปงานสัมภาษณ์ใหญ่ด้วยทำไม”
“เหรอ แต่มันดูเหมือนพวกเขาทะเลาะกันเลย”
“พวกเขาไม่ได้ทะเลาะกัน มันก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าวิเวียนใส่อารมณ์ใส่คุณนอร์ตัน”
พนักงานส่วนใหญ่ในบริษัทนิตยสารล้วนเป็นผู้หญิงที่รักการซุบซิบ วิเวียนเพิ่งเข้ามาทำงานที่บริษัทเมื่อสองปีก่อน แต่ผลงานของเธอก็ออกมาดีอยู่เสมอ อันที่จริง เธอทำงานออกมาได้ดีกว่านักข่าวที่มีประสบการณ์สามถึงสี่ปีของที่ดีซะอีก ส่วนหนึ่งอาจเพราะวิเวียนกล้าที่จะรับงานต่าง ๆ โดยที่ไม่สนว่าจะเหนื่อยแค่ไหน
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้น
ก่อนหน้านี้ มีใครบางคนแพร่ข่าวลือในบริษัทว่าวิเวียนทำอย่างไรเพื่อให้ได้เข้าไปพัวพันกับเหล่าคนร่ำรวย และตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหัวหน้าบรรณาธิการก็ค่อนข้างคลุมเครือ ทุกคนเลยยิ่งมั่นใจในข่าวลือมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม วิเวียนไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเธอได้กลายมาเป็นหัวข้อในบทสนทนาของทุกคน เธอทำเพียงแค่เข้าไปนั่งในรถของฟาเบียนที่มุ่งหน้าไปยังฟินเนอร์กรุ๊ป
“ฟาเบียน” เมื่อในรถเหลือเพียงพวกเขาสองคน เธอก็ไม่สามารถที่จะทนได้อีกต่อไป “นายพยายามจะทำอะไรกันแน่”
“อะไร เธอกลัวเหรอ” ฟาเบียนเย้ยหยันอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ว่าเขาเป็นเสี่ยเลี้ยงของเธอรึไง ถ้าแค่นี้เธอก็กลัวแล้ว แล้วเธอไปเอาความกล้าจากที่ไหนมาเป็นเมียน้อยชาวบ้านมาทำลายครอบครัวคนอื่นเขา”
วิเวียนพบว่าฟาเบียนไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง เธอจึงไม่อยากต่อบทสนทนาและหันมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง
ในที่สุด รถยนต์ก็แล่นเข้ามาจอดที่ตึกของฟินเนอร์กรุ๊ป วิเวียนเดินตามฟาเบียนเข้าไปในบริษัทและหลังจากนั้นเลขาก็นำทางพวกเขาไปยังห้องทำงานของฟินนิค
ห้องทำงานถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น ชายหนุ่มนั่งอยู่บนอาข้างหน้าหน้าต่างบานใหญ่สไตล์ฝรั่งเศส แสงแดดสีทองที่ส่องพาดผ่านร่างกายของเขานั้นยิ่งทำให้ชายหนุ่มดูเปล่งประกาย
“อาฟินนิค” ฟาเบียนเอ่ยทักทายในขณะที่เขาเดินเข้าไปหาพร้อมกับวิเวียน “ขอโทษสำหรับการสัมภาษณ์ที่กะทันหันนี้นะครับ ผมไม่ได้มารบกวนงานของอาใช่ไหม”
ฟินนิคหันกลับมาอย่างช้า ๆ ด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่นิ่งเรียบ “ไม่เป็นไร ก็แค่การสัมภาษณ์เท่านั้นเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม