เขากำหนังสือพิมพ์ในมือแน่นขึ้นทันที
วิเวียนเหรอ
หึ
ดูอาวรณ์เหลือเกินนะ
แล้วเขารู้ได้อย่างไรว่าวิเวียนต้องการเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล
วิเวียนบอกเขาอย่างนั้นเหรอ
ฟินนิครู้สึกเลือดขึ้นหน้าเมื่อความคิดนั้นแล่นผ่านหัว
เธอไม่ยอมบอกฉัน แต่ว่าบอกฟาเบียนเนี่ยนะ
ในขณะเดียวกัน วิเวียนที่ทำสปาเก็ตตี้เสร็จพอดีก็เดินถือจานออกมาจากห้องครัวและเอ่ยบอก “ได้เวลามื้อเที่ยงแล้วค่ะ”
เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของฟินนิคในขณะที่เธอพยายามถอดผ้ากันเปื้อนออก แต่เธอก็ไม่สามารถถอดมันออกได้สักทีเนื่องจากปมที่เธอผูกเอาไว้ด้านหลังพันกันยุ่งเหยิงไปหมด
ฟินนิคมองไปที่วิเวียนที่กำลังพยายามถอดผ้ากันเปื้อน เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นจากโซฟาและเดินไปหาเธอ เขาจับมือของเธอเอาไว้แล้วเอ่ยบอก “ฉันทำให้”
การที่เขามายืนอยู่ตรงนี้ช่างเหนือความคาดหมาย ในยามที่เขาพูด ไอร้อนที่ออกมาจากปากของเขาเป่ารดต้นคอของเธอและนั่นก็ทำให้แก้มของเธอแดงขึ้น เธอรีบดึงมือออกจากการกอบกุมแล้วเอ่ยขอบคุณ
ฟินนิคยังคงเงียบในขณะที่เขาช่วยเธอแก้ปมผ้ากันเปื้อน แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะไม่เข้าข้าง เมื่อความพยายามก่อนหน้านี้ของวิเวียนกลับกลายเป็นผูกเงื่อนตายขึ้นมาแทน
“อ่า…” วิเวียนรู้สึกประหม่าเมื่อชายหนุ่มยืนอยู่ใกล้เธอ เธอจึงเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองด้วยคำถาม “ก่อนหน้านี้ใครส่งมาเหรอคะ”
มือของฟินนิคหยุดนิ่งไปชั่วขณะ แต่เขาก็รีบเอ่ยตอบ “ฟาเบียนหน่ะ”
คราวนี้เป็นวิเวียนเองที่นิ่งไป
“เธอจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าเขาส่งอะไรมา” ฟินนิคเอ่ยต่อเมื่อเห็นว่าเธอยังคงเงียบ
เธอกลืนน้ำลายและหัวเราะออกมาอย่างประชดประชัน “ก็คงจะเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันขายหน้าล่ะมั้ง”
“ไม่ใช่” ในที่สุดฟินนิคก็แก้ปมออกและถอดผ้ากันเปื้อนออกให้เธอ “เขาบอกว่าจะให้เธอยืมเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่”
วิเวียนตาเบิกโพลงและหันกลับไปหาฟินนิค “เขารู้ได้อย่างไร…”
วิเวียนอยากถามฟาเบียนว่าเขารู้เรื่องอาการป่วยของแม่เธอได้อย่างไร แต่เมื่อเธอหันหลังกลับมาพบกับแววตาอันเยือกเย็นของฟินนิคที่จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว
วิเวียนก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“ฟินนิค…” ปฏิกิริยาของเขาทำให้วิเวียนรู้บางอย่าง เธอเอ่ยถามเขาเสียงสั่น “คุณก็รู้เรื่องแม่ของฉันเหมือนกันใช่ไหม”
เขาพยักหน้าและมองเธอ
เพราะเธอเตรียมอาหารอย่างสุดกำลังอยู่ในห้องครัว เธอจึงมีหยาดเหงื่อไหลอาบอยู่บนหน้าผากและที่หน้าม้าของเธออีกนิดหน่อย ฟินนิคยกมือขึ้นทัดปอยผมให้เธอพร้อมทั้งเอ่ยตอบ “ใช่ ฉันรู้เรื่องแม่ของเธอแล้ว”
วิเวียนตัวสั่น
เธอก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ฟินนิคเป็นผู้ชายที่ไม่ธรรมดา เขาคอยจับตาดูทุกสิ่งอยู่เสมอรวมถึงเรื่องของเธอด้วย
“เธอโกรธเหรอ” ฟินนิคขมวดคิ้วเมื่อเขาสังเกตเห็นท่าทีที่ยังคงเงียบของวิเวียน
“เปล่าค่ะ” เธอส่ายหน้าและทำหน้าเซื่องซึม “ฉันแค่คิดว่าคุณคงไม่ค่อยไว้ใจคนรอบข้างเพราะว่าคุณมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียง”
เหมือนกับที่ฟาเบียนจงใจปกปิดสถานะที่แท้จริงของเขาในตอนนั้น เพราะงั้นมันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฟินนิคจะสืบเรื่องของฉัน
ฟินนิครู้สึกเจ็บกับน้ำเสียงของเธอ
เขาไม่เคยคิดที่จะตั้งแง่กับเธอเลย ความจริงแล้ว เขาไม่เคยสืบเรื่องอะไรของเธอเลยนอกซะจากตรวจดูภูมิหลังของเธอตอนก่อนที่เราจะแต่งงานกันเพียงเท่านั้น ในครั้งนี้ เขาก็ได้รู้โดยบังเอิญจากการที่เขาให้สืบหาข้อมูลของเรื่องเมื่อสองปีก่อน
“วิเวียน” ฟินนิครู้สึกร้อนใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขากำลังจะพูดต่อแต่เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมาซะก่อน
“ฉันขอรับสายนะคะ” วิเวียนไม่อยากที่จะต่อบทสนทนา เสียงโทรศัพท์ช่วยชีวิตของเธอเอาไว้พอดี เธอรีบหยิบโทรศัพท์และเดินถอยห่างออกจากเขาไปยังห้องนั่งเล่น
เมื่อเห็นชื่อของคนที่โทรเข้ามา หัวใจของวิเวียนก็เต้นแรงขึ้นทันที เธอรีบกดรับสาย “สวัสดีค่ะ คุณหมอโจนส์ คือเรื่องเงิน… ฉันจะรีบเอาไปจ่ายให้นะคะ เพราะงั้นคุณช่วย…”
ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อ เสียงตื่นตระหนกของคุณหมอก็ดังออกมาจากปลายสาย “คุณวิลเลี่ยม แม่ของคุณจู่ ๆ ก็อาการทรุดลง เธอต้องได้รับการผ่าตัดเดี๋ยวนี้ ฉันอยากให้คุณมาที่โรงพยาบาลและเซ็นเอกสารพร้อมทั้งจ่ายเงินค่าผ่าตัดหน่อยได้ไหมคะ ทางเราจะได้ย้ายเธอเข้าห้องผ่าตัดโดยเร็วที่สุด”
วิเวียนรู้สึกเหมือนโลกของเธอพังทลาย เธอหน้าซีดเผือด
และในวินาทีต่อมา เธอก็เสียสติและรีบวิ่งออกไปจากคฤหาสน์
“วิเวียน!” ฟินนิครีบวิ่งตามเธอและจับแขนของเธอเอาไว้ “เกิดอะไรขึ้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม