ในขณะที่วิเวียนกำลังกังวลอย่างหนัก เธอก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำแหบแห้งดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง จากนั้นเธอก็ถูกอุ้มขึ้นมาจากพื้นและก่อนที่เธอจะได้คิดอะไร เธอก็ถูกวางลงบนตักของฟินนิค
“ฟินนิค…” วิเวียนเอ่ยอย่างตกใจ
เมื่อฟินนิคเห็นใบหน้าที่ขาวซีดและร่างกายที่เย็นเฉียบของเธอ เขาก็รู้สึกเหมือนมีเข็มนับพันเล่มแทงเข้ามาที่ใจของเขา เขาเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้เธอและเอ่ยอย่างหนักแน่น “ไม่ต้องกังวลไป ฉันจะอยู่ตรงนี้กับเธอเอง”
แม้มันจะเป็นคำพูดที่เรียบง่ายแต่มันกลับให้ความรู้สึกที่หนักแน่นและทำให้หัวใจของวิเวียนอบอุ่นขึ้นมาได้ และเพราะคำพูดที่หนักแน่นของเขา เธอจึงค่อย ๆ สงบลง
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างมาก คราวนี้เธอไม่ได้ตอบโต้กลับและทำเพียงพยักหน้าให้อย่างเงียบ ๆ ด้วยกำลังที่เธอเหลืออยู่ เธอขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขาและมองไปที่ป้าย “ห้องผ่าตัดกำลังใช้งาน” ที่ด้านบนของประตู
ในขณะที่เธอนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ฟินนิคก็ได้กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ และทันใดนั้นเองหัวใจที่เหมือนจะเย็นชาของเขาก็ค่อย ๆ ละลายลงหลังจากที่มันถูกแช่แข็งมานานหลายปี
หลังจากนั้นไม่นาน ไฟที่อยู่เหนือประตูก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
ทันทีที่เห็นแบบนั้น วิเวียนก็รีบกระโดดลงจากตักของฟินนิคและพุ่งตรงไปที่ประตู หมอและพยาบาลหลายคนออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยท่าทางหมดแรง
“หมอคะ มะ… แม่ของฉัน” วิเวียนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอต้องพูดอะไรในตอนนั้น
หมอมองมาที่เธอและยิ้มในขณะที่เอ่ยแจ้ง “ยินดีด้วยนะคะคุณวิลเลี่ยม การผ่าตัดประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี เดี๋ยววันพรุ่งนี้แม่ของคุณก็ฟื้นแล้วค่ะ”
แม่จะฟื้นเหรอ
ทันใดนั้นความเครียดที่ถูกสะสมมาของเธอก็ถูกคลายลงและเริ่มรู้สึกโล่งใจมากขึ้น เธออยากจะขอบคุณหมอจากใจจริง แต่ทันใดนั้นขาของเธอก็หมดแรงและทรุดตัวลง
แต่ยังไม่ทันที่ร่างกายของเธอจะได้สัมผัสกับพื้นแข็ง ๆ เย็น ๆ เธอก็รู้สึกได้ถึงหน้าอกที่กำยำและแข็งแรง
เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของฟินนิค
มันเป็นเขา เขาที่เข้ามารับเธอได้ทันเวลาด้วยอาของเขา
สีหน้าที่ปกติเคยดูเย็นชาของเขาเองก็หายไป เหลือแต่เพียงรอยยิ้มน้อย ๆ บนใบหน้าของเขาในยามที่เขาลูบผมของเธอเบา ๆ “นี่เป็นข่าวดีนะ” เขาเอ่ยย้ำ
คำพูดง่าย ๆ พวกนั้นกลับทำให้วิเวียนร้องไห้ออกมาทันที เธอกลั้นมันเอาไว้นานเกินไป
เธอระบายความรู้สึกของตัวเองออกมาและยืดแขนขึ้นไปโอบรอบลำคอของฟินนิคในขณะที่เธอก็สะอื้นด้วยไปความดีใจ “ใช่ เป็นข่าวดี เป็นข่าวดีมากด้วย”
ระหว่างมื้ออาหารเย็น ฟินนิคได้รับโทรศัพท์จากที่ทำงานสองสามสาย
วิเวียนรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่กับเธอมาตลอดทั้งวันและเธอรู้สึกผิด เธอมองเขาและเอ่ย “ทำไมคุณไม่กลับไปทำงานล่ะ ฉันจะอยู่เฝ้าแม่ที่นี่แหละ”
ฟินนิคหันมามองเธอ และด้วยความที่เธอรีบกินก่อนหน้านี้จึงทำให้ที่มุมปากของเธอมีซอสสปาเก็ตตี้ติดอยู่ ด้วยสัญชาตญาณ ฟินนิคก็เอื้อมมือไปเช็ดมันออกให้เธอ
“งั้นฉันไปก่อนนะแล้วฉันจะมาใหม่วันพรุ่งนี้” เขาเอ่ยบอกเสียงทุ้มต่ำ “ถ้าเธอต้องการอะไรก็บอกฉัน”
วิเวียนพยักหน้าแต่เธอก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อฟินนิคไม่ยอมลุกออกไปสักที “มีอะไรหรือเปล่าคะ”
เขามองเธออย่างจงใจและยกนิ้วที่เขาเคยเช็ดปากให้เธอก่อนหน้านี้ขึ้นมาเลียทำความสะอาด “เปล่า แค่คิดว่าเธอดูจริงจังจังเลยนะตอนที่พยักหน้า”
วิเวียนมองการกระทำของเขา สมองของเธอว่างเปล่าและเธอไม่แม้แต่จะได้ยินในสิ่งที่เขาพูด
มะ… มันไม่มากไปหน่อยเหรอ
ถ้าเป็นคนอื่นทำแบบนี้ ฉันคงพูดว่ามันไม่สะอาด แต่ทำไมพอเป็นเขาทำแล้วมันกลับ… ดูเซ็กซี่ นิ้วเรียวยาวของเขา… กับริมฝีปากบางเฉียบนั่น
“ห้ะ อะไรนะคะ ดูจริงจังเหรอ” แก้มของเธอขึ้นสีแดงอีกครั้งเมื่อเธอพยายามมองไปทางอื่นและยิงคำถามใส่เขาแบบส่ง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม