แม่จะคิดอย่างไรนะถ้าแม่รู้ว่าฉันแต่งงานกับอาของฟาเบียนและเขาก็เป็นถึงลูกชายของตระกูลนอร์ตัน
ช่างมันเถอะ ฉันไม่ควรมาคิดเรื่องนี้เอาตอนนี้
วิเวียนกำลังจะออกไปเอามื้อเที่ยงให้แม่ของเธอ แต่ทันใดนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เธอชะงักไปเล็กน้อย
แม่ไม่ค่อยมีคนรู้จักในเมืองซันไชน์มากนักแล้วใครกันที่มา
เธอเปิดประตูออกและเห็นฟินนิคกับโนอาห์ยืนอยู่ข้างหน้าห้อง คนด้านหน้ายังคงนั่งอยู่ในอา ในขณะที่คนด้านหลังมีตะกร้าผลไม้และกล่องข้าวอยู่ในมือ
“ฟินนิคเหรอ” วิเวียนเอ่ยถามด้วยอาการงุนงง
“วิเวียน ใครมาเหรอลูก” ราเชลเอ่ยถาม
เธอหันไปมองแม่ของเธอด้วยสีหน้ามึนงงเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของแม่อย่างไร
ฟินนิคเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเขาได้ยินเสียงที่ดังลอดออกมาจากข้างใน เขาเอ่ยเริ่มบทสนทนา “สวัสดีครับคุณนายวิลเลี่ยม ผมมาเยี่ยมคุณครับ”
วิเวียนหน้าแดงก่ำเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เธอเปิดประตูเพื่อให้ชายทั้งสองได้เข้ามาในห้อง
ฟินนิคค่อย ๆ ดันอาตรงไปยังเตียงด้วยตนเอง และเมื่อเขาเห็นราเชลมองมาที่เขาด้วยความประหลาดใจ เขาก็ส่งยิ้มให้เธอและแนะนำตัวเอง “คุณนายวิลเลี่ยม ผมชื่อฟินนิค นอร์ตันนะครับ ผมควรได้มาเยี่ยมคุณเร็วกว่านี้แต่วิเวียนก็เอาแต่บอกว่าคุณไม่สบาย”
ราเชลมองไปที่ฟินนิคและหันไปมองวิเวียนที่หน้าแดงระเรื่อ เธอเข้าใจได้ในทันที “อ่า คุณต้องเป็นสามีของวิเวียนแน่เลย คือคุณค่อนข้างต่างจากที่ฉันคิดเอาไว้…”
ชายหนุ่มยกยิ้มบางเบาและส่งสัญญาณให้โนอาห์เอากล่องข้าวและผลไม้ไปวางไว้บนโต๊ะ “คุณนายวิลเลี่ยม ได้ทานมื้อกลางวันหรือยังครับ พอดีผมเตรียมอาหารทำเองมาฝากด้วย”
วิเวียนรีบเดินไปเปิดกล่องข้าวดู ข้างในนั้นเป็นอาหารที่มอลลี่ทำอย่างประณีตและเต็มไปด้วยสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการ เธอเริ่มป้อนอาหารให้แม่อย่างระมัดระวัง
หลังจากอยู่ในอาการโคม่ามาสองปี ราเชลไม่ค่อยมีอาการอยากอาหารมากนัก เธอทานไปเพียงสองสามคำก็รู้สึกอิ่ม แต่ความสงสัยของเธอไม่มีขีดจำกัด เธอมองสำรวจฟินนิคอยู่ชั่วครู่ก่อนเอ่ยถาม “คุณชื่อฟินนิคใช่ไหม คุณทำงานอะไรพอบอกได้หรือเปล่า”
“แม่!” วิเวียนขึ้นเสียงใส่แม่ของเธอราวกับกำลังดุ
“ลูกรัก แม่ก็แค่เป็นห่วง เพราะการแต่งงานถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญในชีวิตและลูกก็แต่งงานก่อนที่แม่จะตื่นขึ้นมา” ราเชลบ่นออกมาเบา ๆ
“ไม่เป็นไรวิเวียน” ฟินนิคแสดงออกอย่างใจเย็นและมั่นใจซึ่งแตกต่างจากความกระอักกระอ่วนของวิเวียน “คุณนายวิลเลี่ยม นี่เป็นนามบัตรของผมครับ”
ราเชลรับนามบัตรมาดูและเมื่อเห็นคำว่า ‘ประธานฝ่ายบริหาร’ และ ‘ผู้ถือหุ้น’ ตัวของเธอก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที
“บริษัทฟินเนอร์… ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย” เธอเอ่ยถามต่อ “แล้วพ่อแม่ของคุณล่ะ พวกท่านทำงานอะไร”
ถึงตอนนี้วิเวียนที่ยืนตื่นกลัวอยู่ข้าง ๆ อยากที่จะเข้าไปห้ามแม่ของเธอเสียจริง แต่ฟินนิคก็เริ่มตอบกลับ “พวกท่านไม่อยู่แล้วครับ แต่ปู่ของผมคือซามูเอล นอร์ตัน”
“ซามูเอล นอร์ตันเหรอ คุณหมายถึงประมุขของตระกูลนอร์ตันใช่ไหม” ราเชลถาม เธอดูตกใจมาก
ฟินเนอร์กรุ๊ปเป็นบริษัทใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อน นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเธอถึงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ทุกคนในเมืองซันไชน์รู้ดีว่าซามูเอล นอร์ตันคือใคร
“ใช่ครับ” เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะปกปิดเรื่องนี้จากเธอเลย
“งั้น… คุณก็เป็น… บุตรชาย… ของตระกูลนอร์ตันใช่ไหม” ราเชลพูดติดอ่างในขณะที่เธอพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว
ฟินนิคพยักหน้า
หน้าของราเชลซีดเผือดลงอย่างรวดเร็วในขณะที่เธอพูดอะไรไม่ออก
“ฟินนิคคะ” วิเวียนรู้ดีว่าแม่ของเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงหันไปพูดกับสามีของเธอ “ฟินนิคคะ ฉันอยากกลับบ้านไปอาบน้ำ คุณพาฉันกลับบ้านหน่อยได้ไหม คุณไปรอฉันที่รถได้หรือเปล่า”
เขาพยักหน้ารับและเอ่ยกับราเชล “คุณนายวิลเลี่ยมครับ เอาไว้วันพรุ่งนี้ผมจะมาใหม่ เชิญพักผ่อนให้สบายนะครับ”
ราเชลพยักหน้าแม้ยังคงตะลึงไม่หายยามที่เธอมองดูฟินนิคออกจากห้องไป
ทันทีที่เขาออกจากห้องไป เธอก็หันกลับมามองลูกสาวของเธอทันที เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาแต่แน่วแน่ “วิเวียน ลูกอยู่กับเขาไม่ได้ ไปหย่าให้เร็วที่สุดซะ”
วิเวียนถอยไปเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินสิ่งที่แม่ของเธอบอก เธอมองแม่อย่างไม่อยากจะเชื่อและเอ่ยถาม “แม่ แม่กำลังพูดเรื่องอะไร”
“แม่บอกว่าลูกอยู่กับเขาไม่ได้” เธอจับมือลูกสาวของเธอเอาไว้และเอ่ยร้องขอ “ดูแม่สิว่าทุกวันนี้เป็นอย่างไร ลูกไม่ได้เรียนรู้เลยเหรอว่าการแต่งงานกับคนรวยหน่ะมันจะเป็นยังไง ลูกจะรู้ได้อย่างไรว่าเขารักลูกจริงหรือเปล่า เขาอาจจะเป็นแบบพ่อของลูกและเล่นกับความรู้สึกของลูกเพียงเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม