สีหน้าของวิเวียนค่อย ๆ ซีดลง “แม่ หนูทำแบบนั้นไม่ได้ พวกเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว”
“แล้วยังไง บางทีเขาอาจแค่อยากได้ภรรยาในนามก็ได้” ราเชลอาจอยู่ในอาการโคม่านานสองปีแต่เธอไม่ได้โง่ “ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมเขาถึงต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงธรรมดา ๆ แบบลูกด้วยในเมื่อเขามีสิทธิ์เลือกมากมาย”
วิเวียนพูดไม่ออก
แม่ของเธอพูดถูก เมื่อแต่งงานกันวิเวียนก็เข้าใจได้ในทันทีว่าฟินนิคต้องการเพียงภรรยาในนามเท่านั้น แต่ราเชลไม่รู้ว่าเธอก็แต่งงานกับเขาเพื่อสิทธิสวัสดิการในเมืองซันไชน์เหมือนกัน การแต่งงานนี้ถือเป็นการได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายและเพราะแบบนั้นจึงไม่ควรมีใครไปวิจารณ์การเลือกของอีกคน
“แม่คะ” เธอบอกความจริงกับแม่ “ฟินนิคดูแลหนูดี”
เธอพูดออกมาจากใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้คำว่าเพื่อนสนิทไม่ได้ แต่ฟินนิคก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขามักจะปรากฏตัวขึ้นเสมอในยามที่เธอต้องการความช่วยเหลือ เหมือนกันกับครั้งนี้ที่เขาเข้ามาช่วยเหลือในยามที่แม่ของเธอต้องเข้ารับการผ่าตัด
“วิเวียน ทำไมลูกถึงได้โง่แบบนี้ พวกผู้ชายมาทำดีด้วยก็แค่เพราะอยากที่จะสนุกด้วยเท่านั้น” เห็นได้ชัดว่าราเชลเป็นห่วงลูกสาวของเธอมาก “แม่ไม่ใช่ตัวอย่างที่ยังมีชีวิตอยู่หรอกเหรอ แม่แค่อยากให้ลูกใช้ชีวิตแบบธรรมดาและมีความสุข… แม่กลัวเหลือเกินว่าลูกจะเดินตามรอยเท้าของแม่และถูกทอดทิ้งไปตลอดชีวิต”
เธอเริ่มสะอื้นในขณะที่พูด
วิเวียนรู้สึกเจ็บปวดแทนแม่ของเธอ เธอดึงแม่เข้ามากอดแล้วเอ่ย “แม่คะ แม่เพิ่งผ่าตัดมาเพราะงั้นแม่ห้ามร้องไห้สิ หนูจะเล่าความจริงให้ฟัง ที่จริงแล้วหนูแต่งงานกับเขาก็เพื่อสิทธิพลเมืองและประกันสุขภาพ หนูไม่ได้มีความรู้สึกอะไรให้เขาเลย”
“ลูกพูดจริงเหรอ” ราเชลหยุดสะอื้นเมื่อเธอได้ยินแบบนี้และมองไปที่ลูกสาวชองเธอ
“แน่นอนสิคะ” วิเวียนมองราเชลแล้วเอ่ยต่อ “แม่คะ แม่ไม่รู้จักหนูเหรอ แม่ดูไม่ออกเหรอว่าหนูชอบหรือไม่ชอบใคร”
อันที่จริงราเชลเลี้ยงดูเธอมาเพียงลำพังและพวกเขาก็มีกันอยู่แค่สองคน ไม่จำเป็นต้องพูดว่าเธอรู้จักลูกสาวของเธอดีขนาดไหน มันชัดเจนเวลาที่วิเวียนชอบใครสักคนเหมือนกับเมื่อตอนนั้นในตอนที่เธอคบกับฟาเบียน
ในที่สุดราเชลก็ดูกังวลน้อยลง แต่เธอก็ยังคงเอ่ยแนะนำลูกสาวของเธอ “แต่ลูกต้องสัญญากับแม่นะว่าลูกจะหย่าถ้าหากว่าลูกมีโอกาส”
ความจริงแล้ววิเวียนไม่เคยคิดที่จะหย่ากับฟินนิคเลย เธอไม่สนว่าพวกเขาจะแต่งงานกันเพราะอะไรและเธอไม่สนตัวตนของเขา ตอนนี้พวกเขาแต่งงานกันแล้ว ดังนั้นเธอจะไม่เป็นคนเริ่มเรื่องการหย่าร้างเว้นแต่ว่าฟินนิคจะต้องการแบบนั้น
แต่ในตอนนี้ที่เธอเห็นแม่ของเธอขอร้องเธอ เธอจึงเปลี่ยนใจและยอมตกลง “ได้ค่ะ หนูสัญญาค่ะแม่”
ราเชลถอนหายใจอย่างโล่งอกแต่เธอก็อดที่จะรู้สึกเสียใจไม่ได้ “วิเวียน ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของแม่เอง ถึงลูกจะหย่าแล้ว แต่มันก็คงยากที่จะหาผู้ชายดี ๆ มาแต่งงานด้วยอีกครั้ง”
วิเวียนกระพริบตาสองสามครั้งก่อนที่เธอจะกอดแม่ของเธออีกครั้ง “แม่คะ ไม่เป็นไร แม่มีความสุขหนูก็มีความสุข”
หลังจากที่เธอกล่อมแม่ของเธอนอนแล้ว เธอจึงมาเก็บของและเตรียมที่จะออกจากห้องแต่ในขณะนั้นเธอก็หันไปเห็นแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
นี่น่าจะเป็นของฟินนิคนะ หรือว่าเขาจะลืมเอามันกลับไปด้วย
เธอหยิบแฟ้มใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องพักไป
ในขณะเดียวกัน อาของฟินนิคก็ถูกย้ายขึ้นมาบนรถ โนอาห์ที่นั่งอยู่ตรงเบาะข้างคนขับจึงเอ่ยถามขึ้น “คุณนอร์ตันครับ ทำไมคุณถึงไปนานจัง ผมคิดว่าคุณกลับไปเอาแฟ้มซะอีก”
ฟินนิคยังคงเงียบ
โนอาห์หันไปมองด้วยความสงสัย แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงสีหน้าที่เย็นชาของฟินนิคเท่านั้น และทันใดนั้นเองเขาก็เหงื่อออกด้วยความกลัว
เกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้คุณนอร์ตันยังอารมณ์ดีอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาถึงได้อารมณ์เปลี่ยนไปหลังจากที่เขาไปเอาเอกสารล่ะ พระเจ้า ตอนนี้ให้เขาฆ่าใครสักคนยังได้เลย
สิบนาทีถัดมา วิเวียนก็ขึ้นมาบนรถ เธอหยิบแฟ้มออกมายื่นให้เขา “ฟินนิค คุณลืมนี่เอาไว้ที่ห้องพักใช่ไหม”
เขาไม่ได้รับแฟ้มมาจากเธอ เขาเพียงหันไปหาเธอและมองเข้าไปในดวงตา ไม่มีใครบอกได้ว่าเขากำลังรู้สึกอะไร
แขนของเธอขนลุกซู่ในขณะที่เธอเอ่ยอย่างระมัดระวัง “ฟินนิค”
เขายังคงจ้องไปที่ผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังหวาดกลัว และคำพูดของเธอก็ดังเข้ามาในหูของเขาอีกครั้ง เขาได้ยินมันในตอนที่เขากลับไปเอาแฟ้ม
หนูแต่งงานกับเขาก็เพื่อสิทธิพลเมืองและประกันสุขภาพ หนูไม่ได้มีความรู้สึกอะไรให้เขาเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม