ร้านอาหารทั่วไปราคาอาหารต่อจานยังไม่กี่ร้อยเท่านั้น วิเวียนคิดไม่ออกเลยว่าเธอต้องทำอาหารกี่ร้อยมื้อจึงจะจ่ายหนี้ของเธอหมด
”จานละร้อย” วิเวียนตอบแบบระมัดระวัง”
ฟินนิครู้สึกอึ้งและประหลาดใจกับความจริงจังของวิเวียนและเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว “ตกลงตามนั้น จานละร้อยก็จานละร้อย”
”แล้วคุณชอบกินอาหารแบบไหน”
”ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฟินนิคตอบช้าๆ “คุณทำอะไรก็ได้ที่คุณทำอร่อยที่สุด ผมกินได้หมด”
”ไม่ได้สิ แบบนั้นมันเอาเปรียบคุณชัดๆ” วิเวียนคิดว่าเธอต้องทำตามใจลูกค้าหากว่าเธอคิดราคาอาหารมื้อละหกร้อยตามที่คำนวณ “ฉันรู้จักเมนูอาหารน้อยมาก เอางี้ดีกว่าพรุ่งนนี้ฉันจะหาสูตรอาหารมาให้คุณดู แล้วเรามาลองทำอาหารพวกนั้นกินกัน”
”ตามใจคุณเลย” ฟินนิคอมยิ้ม
วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แต่ฟินนิคก็ยังมีประชุมตอนเช้า เขาออกจากบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น
เมื่อวิเวียนตื่นเธอไล่หาสูตรอาหารในอินเทอร์เน็ตได้มาสองสามสูตรและเริ่มลองทำอาหารตามนั้น
จากการสังเกตภายในไม่กี่วันเธอก็รู้ได้ว่าฟินนิคชอบอาหารรสจัด เธอจึงลองทำเนื้อผัดพริก ปีกไก่เผ็ดและเต้าหู้ย่างซอสศรีราชา
หลังจากพยายามทำอาหารจนเหงื่อตกตลอดบ่าย ในที่สุดวิเวียนก็ทำผัดพริกเนื้อเสร็จ เธอถ่ายรูปอาหารและส่งไปให้ฟินนิคดูทางวอทแอปเพื่อถามว่าเขาชอบอาหารจานนี้หรือเปล่า
ภายในห้องประชุมของฟินเนอร์กรุ๊ป
ผู้จัดการแต่ละแผนกผลัดกันรายงานผลงานของตัวเอง
“นั่นเป็นสรุปผลประกอบการของเราสําหรับไตรมาสนี้” ชายวัยกลางคนเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากขณะที่เขาพูดในลําคอว่า “คุณพอใจไหมครับคุณนอร์ตัน”
นิ้วเรียวของฟินนิคพลิกดูเอกสารในมือ สีหน้าเยือกเย็น “คุณคิดว่าผมจะพอใจกับผลงานแบบนี้จริงๆ เหรอ”
ทุกคนยืนเหงื่อแตกพลั่ก
“มะ...มีปัญหาตรงไหนครับ"
“ทุกอย่าง” ฟินนิคกระชากเสียง ก่อนจะโยนเอกสารกลับไปให้พนักงาน เขาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “ไปทำมาใหม่”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที
นี่คือฟินนิค นอร์ตัน ความพิการของเขาไม่ใช่อุปสรรคในอาชีพการงานของเขา ทักษะการตัดสินใจที่เฉียบคมและวิจารณญาณที่ถูกต้องของเขาคือสิ่งที่เปลี่ยนเป็นขุมพลัง
“ครับคุณนอร์ตัน” ชายวัยกลางคนตัวสั่นและกลับไปนั่งพร้อมเอกสารในมือ ขณะที่ผู้จัดการคนต่อไปกําลังจะเข้ามารายงานโทรศัพท์ของใครสักคนก็ดังขึ้น
บี๊บ
เสียงแหลมปรี๊ดของสัญญาณข้อความเข้าดังขึ้นทําลายความเงียบสงบของห้อง
ใบหน้าของทุกคนขาวซีดเหมือนกระดาษ ต่างมองตากันเลิ่กลั่กด้วยความวิตก
ใครกันที่กล้าไม่ปิดเสียงโทรศัพท์ระหว่างการประชุม
ในขณะที่ทุกคนยังคงพยายามอ่านสีหน้าของกันและกัน ฟินนิคเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองที่สว่างวาบขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ
ข้อความจากวอทแอปที่เข้ามาเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมานั้นมาจากวิเวียน เธอส่งภาพมาสองสามภาพ
ฟินนิคปัดหน้าจอเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ เขาเห็นอาหารสองสามอย่างที่วิเวียนทําและมีข้อความจากเธอ
อันไหนที่คุณอยากกิน
ตอนท้ายของประโยคเป็นอีโมจิแปลกๆ
ตอนนี้ทุกคนต่างรู้แล้วว่าโทรศัพท์ที่ส่งเสียงบี๊บก่อนหน้านี้เป็นของฟินนิคและไม่ใช่ใครอื่น
เหล่าพนักงานมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อสายตา
ฟินนิคเป็นคนบ้างานและเขาใช้โทรศัพท์เพื่อการทํางานเท่านั้นแต่ทุกคนต้องทิ้งความคิดนี้ไปเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้กําลังอ่านวอทส์แอปในที่ประชุม
ก่อนที่ทุกคนจะหายประหลาดใจมีบางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นอีก
ริมฝีปากบางของฟินนิคฉีกกว้างขึ้น
ทุกคนจับจ้องรอยยิ้มเล็กๆ ของฟินนิคและรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจ
เจ้านายเสือยิ้มยากกำลังยิ้มอย่างสดชื่น
หลายคนในห้องอยู่กับฟินนิคตั้งแต่วันที่ก่อตั้งฟินเนอร์กรุ๊ป แต่ไม่เคยเห็นเจ้านายยิ้มเลยสักครั้ง
ขณะเดียวกันวิเวียนยังยุ่งอยู่กับการทําอาหารในครัว เธอไม่รู้เลยว่าภาพที่เธอส่งไปจะทำให้คนในฟินเนอร์กรุ๊ปแตกตื่นกันมากแค่ไหน หลังจากพลิกดูหนังสือสูตรอาหารสองสามเล่มโทรศัพท์ของเธอก็ส่งสียงเตือน
เธอรีบหยิบโทรศัพท์มาดูและอ่านข้อความจากฟินนิค “ทั้งหมดนั่นเลย”
วิเวียนคิดในใจ “ชิ คนโลภมาก” วิเวียนเบ้ปากและกินปีกไก่ชิ้นสุดท้ายที่เธอทําไว้กินเอง ส่วนของฟินนิคเธอจะทําให้อีกชุดทีหลัง
ตกเย็นเมื่อฟินนิคกลับถึงบ้านเขาได้รับการต้อนรับด้วยอาหารอร่อยๆ มากมาย เขาแอบมองเข้าไปในห้องครัวและเห็นหญิงสาวที่ดูชดช้อยยังคงวุ่นวายอยู่กับตัวเอง
มันเป็นฉากธรรมดาในบ้านเรือนทั่วไป แต่สําหรับฟินนิคเขารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม