ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าฟินนิคนั้นสง่างามแค่ไหนหรือมีความเก่งกาจสามารถเพียงใด แต่เธอก็ยังนึกดูแคลนเขาเพราะสำหรับเธอ เขาเป็นแค่คนพิการเท่านั้น
แต่มาตอนนี้ที่เธอได้เห็นเขาด้วยตาของตัวเองเธอก็รู้ได้ว่าฟินนิคช่างเป็นผู้ชายที่แตกต่าง
เธอคิดมาตลอดว่าฟาเบียนเป็นคนพิเศษที่สุดที่เธอเคยพบมา แต่เมื่อเทียบกับฟินนิคแล้วฟาเบียนก็ดูธรรมดาไปทันที
แม้จะสวมชุดสูทสีดําเรียบๆ แต่ฟินนิคยังดูแตกต่างจากคนอื่น ทุกคนรู้สึกได้ถึงความเคร่งขรึมและความสง่าผ่าเผยที่เขามี ภายในตัวตนของเขาคือความสง่างามและสัมผัสได้ถึงความเร้าใจ
แอชลีย์ถึงกับตะลึงจังงังเมื่อเธอมองไปที่เขา
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฟินนิคนั้นเป็นคนพิการนั่งอยู่บนอาแอชลีย์คงรู้สึกว่าความพยายามของเธอในการคบหากับฟาเบียนในที่สุดนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ
เมื่อฟินนิคแนะนำวิเวียนแก่ทุกคนเรียบร้อยแล้วคนรับใช้ก็เริ่มทยอยนำอาหารค่ำมาเสิร์ฟ
แม้จะมีอาหารหลากหลายชนิดและหน้าตาน่ากินมากมายอยู่ตรงหน้าแต่วิเวียนยังคงรู้สึกเกร็งและตักเฉพาะอาหารที่อยู่ใกล้เธอที่สุดเท่านั้น
เมื่อฟินนิคสังเกตเห็นความเกร็งของวิเวียน เขาจึงตักของโปรดของวิเวียนมาใส่ในจานให้เธอ
การกระทำเล็กๆ ที่ปรากฎต่อสายตาทุกคนเหมือนคลื่นส่งไปกระทบอารมณ์ของคนทั้งโต๊ะ
ผู้เฒ่านอร์ตันรู้สึกประหลาดใจมากและหลังจากนั้นสายตาที่มองวิเวียนก็เปลี่ยนไป
มาร์คเองก็มีสีหน้าคล้ำลงแต่ไม่มีใครรู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่
ในที่สุดฟาเบียนก็เป็นคนที่อดรนทนไม่ไหวก่อนใคร
เมื่อเขาเห็นว่าคู่รักฟินนิคและวิเวียนแสดงความรักออกมาแค่ไหนเขาก็รู้สึกถึงความโกรธภายในตัวเขาที่กระหน่ำโหมไหม้เหมือนไฟนรก
สายตาของเขาวาววับไปด้วยเพลิงโทสะ โดยไม่คาดคิดเขาก็พูดเยาะๆ ออกมา “ดูเหมือนว่าอาฟินนิคจะชอบเอาอกเอาใจอาวิเวียนนะครับ"
มือของวิเวียนชะงักกึกทันทีที่เธอได้ยินคําพูดของเขา
ฟาเบียนคิดจะทำอะไร
ฟินนิคเหลือบมองฟาเบียนตาด้วยหางตาอย่างสบายๆ "แล้วมันผิดปกติตรงไหนที่ฉันจะเอาใจภรรยาของฉัน"
เพราะคำตอบนั้นไฟในดวงตาของฟาเบียนก็ลุกโชนมากขึ้น เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงเหน็บแนมอย่างเห็นได้ชัด "ไม่มีอะไรผิดปกติกับการเอาใจเธอหรอกครับ ผมแค่กลัวว่าคนอย่างอาวิเวียนไม่สมควรได้รับการปฎิบัติแบบนี้"
คําพูดของเขาเหมือนโยนระเบิดไปกลางโต๊ะ ทุกคนที่โต๊ะหลักเงียบกริบและมีสีหน้าเคร่งเครียด
วิเวียนเองก็หน้าซีดด้วยความตกใจ
ขณะที่สีหน้าของฟินนิคตอนนี้ไม่มีอะไรเยียบเย็นเท่า "ฟาเบียน นายพยายามจะบอกอะไร"
"ผมไม่ได้พยายามที่จะบอกอะไรหรอกครับอา" อารมณ์ของฟาเบียนดูเหมือนจะดีขึ้นเมื่อเขาเห็นว่าเขาทําให้ฟินนิคโกรธได้ "ก็แค่ผมบังเอิญเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับอาวิเวียน ผมก็เลยรู้เรื่องที่เธอทำในสมัยนั้นสองสามอย่าง"
เมื่อผู้เฒ่านอร์ตันเห็นว่าฟาเบียนกำลังทำให้ทุกคนสงสัยใคร่รู้เขาก็เป็นคนแรกที่หมดความอดทน
เขากระแทกช้อนส้อมลงบนโต๊ะและออกคำสั่ง "ถ้าแกมีอะไรจะบอกก็รีบคายมันออกมา อย่าพูดไปเรื่อยเปื่อย แกทําให้ฉันรําคาญ"
ก่อนหน้านี้วิเวียนเคยได้ยินเรื่องผู้เฒ่านอร์ตันที่เคยเป็นทหารที่รับใช้ประเทศชาติมาอย่างโชกโชน หลังจากที่เขาออกจากกองทัพก็เข้าสู่แวดวงธุรกิจ ด้วยสติปัญญาและไหวพริบเมื่อทําธุรกิจเขาจึงตั้งหลักปักฐานในซันไชน์ซิตี้อย่างรวดเร็ว
ด้วยความเป็นทหารในจิตวิญญาณ เขาจึงไม่ชอบเสียเวลากับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และเกลียดเมื่อมีใครพยายามเล่นตุกติก
ฟาเบียนหน้าซีดเมื่อโดนคุณปู่ทวดดุ เขาจึงรีบเสริมว่า "คุณปู่ทวดครับตามที่ผมรู้มาวิเวียนขายศักดิ์ศรีของเธอตอนเธอกําลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ดังนั้นผมไม่คิดว่าคนที่มีเบื้องหลังน่าสงสัยแบบนี้สมควรที่จะเป็นสมาชิกของตระกูลนอร์ตัน"
ใบหน้าของวิเวียนแทบจะไร้สีเลือดเมื่อเธอได้ยินคําพูดของฟาเบียน
เธอไม่ได้พยายามอธิบายแก้ตัวใดๆ แต่เธอโกรธ สิ่งที่เธอทําคือจ้องเขม็งไปที่ฟาเบียนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ
เมื่อเขาพูดจบฟาเบียนรู้สึกว่าไฟที่โหมกระหน่ำในตัวเขาเมื่อครู่ก่อนได้สลายไป เขาแค่ต้องการเย้ยหยันวิเวียนเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นใบหน้าที่ซีดเซียวและดวงตาเจิดจ้าคู่หนึ่งจ้องมองเขา
มีอะไรอยู่ในสายตาคู่นั้น
บางคนอาจบอกว่ามันเป็นสายตาของการตักเตือนแต่ความเป็นจริงมันเป็นสายตาของความเหลือเชื่อมากกว่า
พริบตานั้นเขารู้สึกว่าการจ้องมองของเธอเหมือนเข็มแทงทะลุผ่านหัวใจของเขาทําให้เขารู้สึกตกตะลึง
เขาเสียใจกับการกระทําหุนหันพลันแล่นของเขาในทันที เมื่อเขากําลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมาเขาได้ยินใครบางคนจากโต๊ะถัดไปอุทานด้วยความตกใจ
"พระเจ้าช่วย นั่นมันอะไรกัน"
เมื่อเสียงร้องตะโกนดังขึ้นทําให้ทุกคนหันเหความสนใจออกไป แขกทุคนเงยหน้าขึ้นและทันใดนั้นก็เห็นหน้าจอขนาดใหญ่สว่างขึ้นตรงหน้า
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือสิ่งที่แสดงบนหน้าจอ
มีภาพสองสามภาพที่กําลังแสดงอยู่
เมื่อเธอเห็นภาพเหล่านั้น วิเวียนก็ตัวแข็งทื่อเหมือนถูกฟ้าผ่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม