ตอนแรกวิเวียนอยากแวะบ้านตระกูลนอร์ตันเพื่อเยี่ยมแลร์รี่ แต่ก็เปลี่ยนใจในวินาทีต่อมา แลร์รี่อาจลำบากถ้ามีคนเห็นเธออยู่ที่นั่น
แม้จะคิดถึงลูกใจจะขาด วิเวียนก็ได้แต่ข่มใจและมุ่งหน้ากลับบ้าน
ระหว่างนั้น ฟินนิคตั้งใจทำงานทันทีหลังเข้าออฟฟิศ เขาหยุดพักครู่หนึ่งและดูนาฬิกาข้อมือ ถึงเวลานัดแล้ว
เขาพลิกเอกสารที่เชสส่งมาให้เพื่อตรวจสอบเวลาและสถานที่นัดหมายอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน เชสก็แน่ใจว่าฟินนิคต้องมาตามนัดแน่ เพราะนี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้พลิกสถานการณ์
เชสมีความชื่นชอบในทรัพยากรของฟินเนอร์กรุ๊ปและรู้สึกยินดีหากจะได้เป็นเจ้าของ
ดังนั้นจึงเป็นความสัมพันธ์ที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
ครั้งแรกที่ฟินนิคได้รู้แผนการของเชส เขารับไม่ได้ แต่หลังจากครุ่นคิดและไตร่ตรองอยู่นานก็พบว่ามันเป็นทางออกทางเดียวของเขา
ถึงจะต้องสูญเสียฟินเนอร์กรุ๊ปไป แต่ทุกอย่างจะเติบโตและเดินหน้าต่อได้ด้วยการทุ่มเทเสียสละอย่างแท้จริงเท่านั้น
ฟินนิคดูนาฬิกาข้อมือและเห็นว่าใกล้สายแล้ว จึงรีบเก็บข้าวของและออกไปยังจุดนัดพบ
ทันที่สตาร์ทรถก็มีสายเข้า
“ฮัลโหล นั่นใครครับ?”
“นี่ตำรวจ ผมกำลังพูดกับคุณฟินนิคใช่ไหม?”
“ใช่ครับ” ฟินนิคอึ้งและงงกับการติดต่อที่ไม่คาดคิด
ตำรวจ? ใครใส่ร้ายป้ายสีเราอีกหรือเปล่า? เราจะต้องกลับเข้าคุกไหม?
เห็นชัดว่าความระแวงของฟินนิคไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักมากพอ เขาแค่กลัวการถูกจับเข้าคุกอีกรอบ
“ผมโทรมาเรื่องที่คุณแจ้งความเกี่ยวกับอีฟเวลิน ทางเราพบเบาะแสใหม่ที่บ่งชี้ว่าอีฟเวลินปรากฏตัวอยู่แถวชาโดว์ฮิลล์”
หลังฟินนิคพ้นคุก เขาฟ้องกลับอีฟเวลินทันทีในข้อหาหมิ่นประมาทและมีพฤติกรรมไม่ชอบด้วยกฏหมาย
ตำรวจสืบเสาะเรื่องราวของเธอและพบว่าข้อกล่าวหาของฟินนิคมีมูล พวกเขาจึงเริ่มสะกดรอยตาม
แต่อีฟเวลินระมัดระวังตัวมาก ตำรวจยังไม่พบว่าเธอก่ออาชญากรรมอีกเลย
แต่ความอดทนของพวกเขาก็เป็นผลเมื่อพบอีฟเวลินที่บริเวณใกล้ชาโดว์ฮิลล์
“ทราบแล้วครับ ขอบคุณที่แจ้งมา ช่วยจับตาดูเธอต่อไปนะครับ”
ตอนนั้นฟินนิคกังวลมาก จึงขอร้องให้ทางตำรวจแจ้งความคืบหน้าหากพบอะไร
แต่ไม่นานเขาก็ลืมเรื่องอีฟเวลิน จึงรู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายอย่างมากที่รักษาสัญญา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...