ความรักสีคราม นิยาย บท 875

“คุณมีชื่อเสียงพอตัวในฐานะคนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ ผมประทับใจนะ” เชสรินไวน์ให้ตัวเองและชูแก้วให้ฟินนิค

ฟินนิคจึงรินไวน์ให้ตัวเองอย่างมีมารยาทและสบตากับเชส

ทั้งคู่ดื่มให้กันรวดเดียวหมดแก้ว

“คุณเชส มาคุยธุรกิจกันเถอะ”

ฟินนิคร้อนรนเล็กน้อยเพราะพะวงกับวิเวียนที่อยู่บ้านคนเดียว เขาอยากบรรลุข้อตกลงสำคัญนั้นด้วยวิธีการที่รวดเร็วที่สุดเพื่อจะได้กลับบ้าน

ถ้าเขาเป็นคนคุมเกม คงจะตัดทุกอย่างที่ไร้สาระและไม่จำเป็นออกไปแล้วตรงเข้าประเด็นทันที

โชคร้ายที่เขารู้ว่าในโลกของธุรกิจต้องมีพิธีรีตองเสมอ นั่นคือเหตุผลที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงงานสังคมเท่าที่จะทำได้

อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขาเกลียดงานสังคมก็คืองานพวกนั้นจะต้องมีบรรดาผู้หญิงอยู่ด้วยตลอด

ซึ่งโดยปกติเขาจะไม่ไปร่วมงานเพราะไม่อยากให้วิเวียนคิดมาก

“ได้ ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ เราก็เลิกอ้อมค้อมกันดีกว่า”

เชสรู้แล้วว่าคู่เจรจาไม่ใช่คนประเภทชอบเข้าสังคม

…..

ในเวลาเดียวกัน วิเวียนกำลังขมีขมันปรุงซุปตามสูตรที่เพิ่งเรียนมา แทบจะรอชิมพร้อมกับฟินนิคไม่ไหว

การเจรจาเป็นไปอย่างรวบรัดแต่มีประสิทธิภาพ ทั้งสองฝ่ายได้ในสิ่งที่ต้องการ

พวกเขาตกลงกันว่าจะเซ็นสัญญาในงานแถลงข่าวที่จะมีขึ้นในอีกสามวัน

แต่ถึงอย่างนั้น การได้เห็นสิ่งที่ตัวเองลงทุนลงแรงมาหลายปีตกไปอยู่ในมือคนอื่นก็ทำให้ฟินนิคอดเสียความรู้สึกไม่ได้

แต่ล่วงเลยมาขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่มีทางเลือก

“นี่คุณ ทำไมยังไม่กลับล่ะคะ?” วิเวียนที่ดูร้อนรนโทรมาถาม

“เราเพิ่งคุยกันเสร็จ ผมจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้แหละ” ตอนแรกฟินนิคตั้งใจจะไปเดินเตร่บนถนนสักพักเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนกลับบ้าน

เขาหวังว่าจะไม่พาอารมณ์บูดๆ กลับไปจนเผลอตะโกนใส่วิเวียนอีก แต่ในเมื่อเธอโทรมา ก็ดูเหมือนเขาจะต้องมุ่งหน้ากลับบ้านเลย

วิเวียนรับคำอย่างร่าเริง “ได้ค่ะ ฉันจะรอคุณ”

หลังจากวางสาย ฟินนิคขมวดคิ้วอย่างทุกข์ใจ แต่ไม่ช้าก็ละทิ้งทุกอย่างแล้วขับรถตรงกลับบ้าน

ระหว่างนั้น ที่บ้านตระกูลนอร์ตันเป็นเวลาน้ำชา แลร์รี่อยู่กับซามูเอลในสวน ทั้งสงบสุขและรื่นรมย์

ชีวิตที่สมบูรณ์แบบนี้มีข้อเสียอย่างเดียวคือพ่อแม่ของเขาไม่ได้อยู่ด้วย

ซามูเอลรู้อยู่เต็มอก แต่ก็เบาใจที่เหลนของเขาดูจะมีความคิดอ่านลึกซึ้งกว่าเด็กทั่วไป แต่นั่นก็ทำให้เขาอยากดูแลเด็กชายให้ดีกว่านี้

“แลร์รี่ ทวดจะเล่าอะไรให้ฟัง” ซามูเอลมองแลร์รี่อย่างอ่อนโยน

“ตกลงฮะ” แลร์รี่พยักหน้าและสบตาซามูเอลด้วยความอยากรู้

เท่าที่เด็กชายสัมผัส คุณทวดไม่ค่อยเล่านิทานและดูเป็นคนที่เอาจริงเอาจังอยู่เสมอ

นั่นทำให้เขาออกจะอึดอัดเวลาอยู่ใกล้ซามูเอลและไม่อาจบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปตามตรงได้

ซามูเอลก็รู้ดี แต่เลือกจะปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น เขาคิดว่าในที่สุดแลร์รี่จะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาเอง และถึงตอนนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะดีขึ้น

“นานมาแล้ว ทวดอยู่ระหว่างการพักผ่อนในวันหยุดและเห็นเด็กสองคนคุยกัน พวกเขาดูจะกำลังถกเถียงเรื่องอะไรสักอย่าง ทวดเลยเข้าไปถามเหตุผล แต่ทั้งคู่ไม่สนใจและเถียงกันต่อ ทวดจึงอยู่ฟัง กลายเป็นว่าพวกเขากำลังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าควรดูแลพ่อแม่หรือไม่เมื่อพ่อแม่แก่ตัวลง เด็กคนที่คัดค้านได้พูดบางอย่างที่ฟังดูแย่มาก ถึงทวดจะนั่งอยู่ด้วย ทั้งสองคนก็ไม่ออมคำพูดเลย ดูเหมือนประเด็นนี้จะเป็นการบ้านของพวกเขา”

ซามูเอลเล่าจบก็มองหน้าเหลน เห็นอีกฝ่ายครุ่นคิดหนัก พยายามหาความหมายของเรื่องเล่า

สองสามนาทีต่อมา แลร์รี่ดูจะพอเข้าใจ คุณทวดกำลังสอนบทเรียนเรื่องความรับผิดชอบให้เรา ความรับผิดชอบของครูคือการสั่งการบ้าน ซึ่งเมื่อเราพยายามทำจนเสร็จ ก็ถือเป็นการเติมเต็มความรับผิดชอบในฐานะนักเรียน และในเวลาที่เราจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ เราจะไม่หยุดเพียงเพราะใครคนหนึ่ง

เรื่องเล่านี้ช่างเหมือนฟินนิคกับวิเวียนที่กำลังมุ่งมั่นกับการทำหน้าที่ของพวกเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม