ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา วิเวียนเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริง แต่เธอก็รู้สึกว่าจำเป็นจะต้องยืนยันความจริงด้วยตัวเอง
ถึงแม้จะเป็นข่าวทั่วหน้าหนังสือพิมพ์แต่เธอก็ไม่เชื่อ ในฐานะคนเขียนข่าว เธอรู้ดีว่าบรรณาธิการบางคนก็บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อให้สาธารณชนหันมาสนใจ
โดยปกติแล้วพวกเขาจะแก้ข่าวเพื่อประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น เพราะงั้นเธอจึงตัดสินใจออกมาครั้งนี้
หลังจากเดินเข้าไปในบริษัท เธอแนบหูกับประตูห้องทำงานของฟินนิคเพื่อดักฟังบทสนทนา
วิเวียนแปลกใจที่ไม่มีการสนทนาใดๆ ขึ้นมาเลยจึงก้าวไปข้างหน้าเพราะคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ไม่รู้ว่าออกแรงมากเกินไปหรือประตูปิดไม่สนิทจึงทำให้เธอหกคะเมนเข้าไปในห้องทำงานของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“อ่า...” จิตใจเธอว้าวุ่นไปหมดเมื่อเห็นเขา
เธอบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
อีกด้านหนึ่ง ฟินนิคดูไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวของเธอ เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลจากชั้นวางแล้วเริ่มทำแผลให้เธอ
มีเลือดซึมออกมาจากแผลบนขาของวิเวียน เขารู้ว่ามันสำคัญมากที่จะต้องรีบทำแผลให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดแผลเป็นได้
ฟินนิคพาวิเวียนไปที่โซฟาแล้ววางขาเธอไว้บนตักเขาก่อนจะฆ่าเชื้อตรงแผล
เธอพยายามขยับตัวออกห่างเพราะความเจ็บปวดที่รู้สึกอยู่แต่เขากลับยั้งเธอไว้
หลังจากทำให้เธอขยับตัวไม่ได้แล้ว เขาก็ก้มหน้าลงทำแผลให้เธอต่อ เมื่อได้เห็นใบหน้าด้านข้างของเขา น้ำตาของเธอก็ไหลลงมาอาบแก้ม
ในเมื่อเขาเลือกหันหลังให้กับฉันแล้วไปมีชู้กับผู้หญิงคนอื่น ทำไมถึงต้องดูแลฉันอย่างอ่อนโยนแบบนี้ด้วย?
คิดแบบนี้ ความรู้สึกสะเทือนใจก็ถาโถมเข้ามา
เมื่อเห็นน้ำตาที่ร่วงลงมากระทบขา เขาจึงรู้ว่าเธอคงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
เขาวางของลงข้างกายแล้วเช็ดน้ำตาให้เธอก่อนจะเอานิ้วเข้าปาก
การกระทำนั้นทำให้เธอประหลาดใจเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงอยากจะลิ้มรสน้ำตาของเธอ
ทำไมเขาอบอุ่นจัง?
เขาแอบมองผู้หญิงที่กำลังตกใจอยู่ก่อนจะเริ่มทำแผลต่อ
เมื่อพันแผลเรียบร้อยแล้ว เขาก็ปล่อยให้เธอขยับขาออกจากตัว
เขาเช็ดน้ำตาที่นองหน้าของเธอจนแห้งแล้วถามว่า “คุณร้องไห้ทำไม?”
เธอเสมองไปทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของเขาก่อนจะตอบว่า “ไม่มีอะไรค่ะ”
ความจริงแล้วเธอไม่สามารถเก็บซ่อนอารมณ์ของตัวเองได้อีกตั้งแต่วินาทีที่เขาทำแผลให้
จิตใจของเธอว้าวุ่นไปหมดจากการกระทำของเขา
ตอนแรกวิเวียนตั้งใจไว้ว่าจะจากไปหลังจากยืนยันแล้วว่าฟินนิคคบกับเล็กซี่จริง
ทว่าสถานการณ์ตอนนี้ทำเอาเธอคิดอะไรไม่ออก
ฉันควรจะไปดีไหม? เกิดอะไรขึ้นระหว่างฟินนิคกับเล็กซี่?
เธอมีคำถามนับไม่ถ้วนอยู่ในใจแต่ไม่มีใครสามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้เลย แล้วเธอก็ไม่อยากถามชายตรงหน้าตรงๆ เพราะกลัวจะถูกหลอก
“ถึงเวลาต้องเปลี่ยนประตูแล้วนะคะ”
เมื่อวิเวียนรู้สึกเสียวแปลบจากบาดแผลบนใบหน้า เธอก็นึกเสียดายที่พยายามจะแอบฟังบทสนทนาของฟินนิค
“ถึงเวลาต้องหาพนักงานสักสองสามคนมาแทนคนปัจจุบันเหมือนกัน”
เธอจำได้ว่าไม่มีใครพยายามเข้ามาขวางทางเธอตอนที่กำลังขึ้นมาชั้นบนเลย ที่สำคัญคือดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเธอพยายามจะดักฟังประธานบริษัทตรงหน้าห้องทำงานของเขาด้วย
เธอรู้สึกอยากจะหัวเราะเยาะเขากับพนักงานที่ไร้ความสามารถ แต่ก่อนจะทันได้พูดอะไร คำตอบของเขาก็ทำเอาเธอพูดไม่ออก
“ถ้าไม่ใช่เพราะผม คุณคิดว่าจะขึ้นมาได้โดยไม่มีใครมาขวางเลยหรือ? ปกติแล้วจะไม่มีใครเข้าใกล้ห้องทำงานผมได้ถ้าผมไม่อนุญาต”
“ค...คุณหมายความว่าไง?”
หมายความว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในแผนของเขาหรือ? เพราะเขาฉันก็เลยได้อิสรภาพคืนมางั้นหรือ?
ดูจากท่าทีของวิเวียนแล้ว ฟินนิคก็รู้ว่าเธอคงเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกันได้แล้ว
เขาจึงพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับในสมมติฐานที่เธอคิดไว้
วิเวียนยังมีคำถามเหลืออยู่ข้อหนึ่ง เธอจึงถามออกมา “คุณรู้ได้ไงว่าฉันจะมาที่นี่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม