พูดให้ชัดเจน ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง
ฟางเฉิงหล่างเดินออกไปสองสามก้าว แล้วหันกลับไปมองประตูถ้ำที่ปิดสนิท จากนั้นก็เดินจากไปอย่างเงียบ ๆ
......
ฟางเฉิงหล่างชักกระบี่เพื่อข่มขู่เท่านั้น มิได้คิดจะทำร้ายอวี๋จาวจริง ๆ ดังนั้นอวี๋จาวจึงเพียงแค่บาดเจ็บเล็กน้อย
เมื่อใส่ยาที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ วันถัดมาบาดแผลก็เกือบหายดีแล้ว เหลือเพียงรอยสีแดงจาง ๆ
เมื่อคืนนางเอาแต่ครุ่นคิดถึงการพบปะกับผู้อาวุโสกู่ จนลืมฟางเฉิงหล่างไปนานแล้ว
ในที่สุดฟ้าก็สว่าง นางเตรียมไปหอคัมภีร์ด้วยความตื่นเต้นดีใจ พอเปิดประตูกลับพบกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
"เหอะ ๆ อวี๋เสี่ยวจาว ในที่สุดก็จับเจ้าได้ สองสามวันนี้เจ้ายุ่งอะไรอยู่ ทำตัวลึกลับซับซ้อน ข้าตามหาเจ้าตั้งหลายวัน แต่ก็ไม่เห็นเงาของเจ้าเลย"
ชายหนุ่มมีหน้าตาคมคาย ผิวขาวผุดผ่อง ดวงตาสุกใส ลักยิ้มคู่หนึ่งเดี๋ยวปรากฏเดี๋ยวหายไป
คนผู้นี้ก็คือซูหมิง ศิษย์พี่สามของอวี๋จาวนั่นเอง
ทันทีที่อวี๋จาวพบเขา ก็เดาได้ว่าเขามาทำไมโดยไม่ต้องคิด
นางกล่าวอย่างราบเรียบ "ไม่ให้ยืม"
ก่อนที่ศิษย์พี่สามซูหมิงจะกราบเข้านิกายเต๋าทั้งห้า เขาเป็นองค์ชายของแคว้นหนึ่ง ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดิบดีมาตั้งแต่ยังเล็ก ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขากลายเป็นคนใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักการประหยัดยับยั้งชั่งใจ
เบี้ยเลี้ยงที่นิกายเต๋าทั้งห้ามอบให้ศิษย์สายตรงคือหินวิญญาณชั้นกลางสิบก้อน ยาเสริมพลังห้าเม็ด
ใจป้ำเช่นนี้ หายากนักในโลกบำเพ็ญเซียน แต่ก็ยังไม่สามารถสนองความปรารถนาอันแรงกล้าของซูหมิงได้
ทันทีที่มีการแจกจ่ายเบี้ยเลี้ยงของทุกเดือน เขาก็จะไปตลาดนอกนิกายเพื่อหาซื้อของแปลก ๆ เพียงแค่สองสามวัน หินวิญญาณที่เพิ่งได้มาก็ถูกใช้จนหมดเกลี้ยง
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ อวี๋จาวได้กลายเป็นกระเป๋าเงินสำรองของเขา
ทุกครั้งที่เขาเงินขาดกระเป๋า แต่ได้พบกับสิ่งที่ชอบเข้า ก็จะมาหาอวี๋จาวเพื่อ "ยืม" หินวิญญาณ
บอกว่ายืม แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาคืนเลยสักครั้ง
อวี๋จาวไม่ใช่คนตระหนี่ ไม่เคยให้ความสำคัญกับของนอกกาย ขอเพียงซูหมิงเอ่ยปาก นางก็จะตกลงทุกเรื่อง
ดังนั้นซูหมิงจึงไม่คิดมาก่อนว่าอวี๋จาวจะปฏิเสธ
ได้ยินดังนั้น เขาชะงักก่อนเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา "อวี๋เสี่ยวจาว อย่ามาล้อเล่นสิ ข้ารีบใช้ เดือนหน้า เดือนหน้าข้าจะต้องคืนให้เจ้าแน่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก