จี้หานโจวมองสบตากับอวี๋จาว รู้ว่านางต้องการจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง จึงไม่พูดอะไรอีก
ความเข้าใจโดยกันไม่ต้องออกเสียงของทั้งคู่ ได้ทิ่มแทงสายตาของหลานจืออวี๋
ไฟโมโหพลุ่งพล่านอยู่ในอก เขาอยากตะโกน อยากระบายมันออกมา แต่ในลำคอกลับเหมือนถูกอุดด้วยสำลี ทำให้เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก มันทรมานยิ่งนัก
ยามนี้เอง อวี๋จาวกลับเงยหน้าขึ้นพร้อมดวงตาเย็นชาปราศจากอารมณ์ใด ๆ "หลานจืออวี๋ หากข้าเอาชนะท่านได้ ท่านจะไม่มารบกวนเขาอีกใช่หรือไม่"
หลายจืออวี๋นึกว่าตนเองหูฝาดไปเสียแล้ว
อวี๋จาวพูดอะไร
นางคิดว่าตนเองจะชนะอย่างนั้นหรือ
แม้ว่านางจะสำเร็จกลายเป็นผู้บำเพ็ญเพียรระดับแก่นปราณทองคำ เทียบกับเขาแล้วก็แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ยังเพ้อฝันจะเอาชนะเขาอีกอย่างนั้นหรือ
ฝันกลางวันน่ะสิไม่ว่า
"ใช่" หลานจืออวี๋แทบกัดฟันพูดคำนี้ออกมา "หากเจ้าชนะ ข้าจะถือว่าไม่เคยรู้จักเจ้ามาก่อน แต่หากเจ้าแพ้ ไม่เพียงต้องโขกศีรษะขอโทษข้าเท่านั้น ยังต้องรับปากว่าจะไม่ทำตัวเอาแต่ใจอีก และต้องอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขกับสิ่งเล็ก ห้ามรังแกนางเอก"
"ได้ ข้ารับปากท่าน"
"ศิษย์พี่อวี๋"
จี้หานโจวคิดว่าอวี๋จาวหุนหันพลันแล่นเกินไป
การเดิมพันนี้มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด
เหตุใดเมื่อศิษย์พี่อวี๋ชนะ คนผู้นั้นกลับเพียงแค่ต้องเลิกมารบกวนเท่านั้น แต่ถ้านางแพ้ กลับต้องโขกศีรษะยอมรับผิด
มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
แต่จี้หานโจวกลับไม่รู้ว่า สิ่งที่อวี๋จาวต้องการมาโดยตลอดนั้น ก็คือการตัดความสัมพันธ์จากคนเหล่านี้โดยสิ้นเชิง
ขอเพียงหลานจืออวี๋ไม่มารบกวน นางก็พอใจมากแล้ว
ส่วนนางจะแพ้หรือไม่นั้น......
อวี๋จาวกับจี้หานโจวไม่เคยคาดคิดถึงความเป็นไปได้นี้มาก่อนเลย
เนื่องจากคำสั่งล่าสังหารของหอปริศนายังคงอยู่บนประกาศ ทำให้ทั้งคู่ต้องเจอกับการลอบสังหารหลายครั้งระหว่างเดินการทาง
อวี๋จาวไม่เพียงแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น ยังสามารถควบคุมนักฆ่าให้กลายเป็นคู่ซ้อมของจี้หานโจวได้อีกด้วย
แม้หลานจืออวี๋จะนับว่าเป็นผู้โดดเด่นในหมู่คนรุ่นเดียวกัน แต่ในขณะที่เขาปิดกั้นตัวเองไม่ยอมพัฒนาอยู่นั้น อวี๋จาวได้แซงหน้าทิ้งห่างเขาไปไกลแล้ว
"ข้าต่อให้เจ้าลงมือก่อน จะได้ไม่หาว่าถูกฆ่ารังแก"
หลานจืออวี๋เชิดคางขึ้นพร้อมกล่าวอย่างมั่นใจ
จี้หานโจวได้ยินดังนั้น ก็หลุดหัวเราะเยาะออกมา
เขาเคลิบเคลิ้มอยู่กับเสียงขลุ่ย ไม่รู้ว่าร่างกายตนเองเคลื่อนไหวไปตามจังหวะตั้งแต่เมื่อใด
ซูหมิงกับเย่ฉงซินเดินมาตามเสียงขลุ่ย สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือ หลานจืออวี๋ผู้ที่หยิ่งทะนงเย็นชามาโดยตลอด กำลังร้องรำทำเพลงอยู่คนเดียวกลางป่า
ซูหมิงพูดไม่ออก
เย่ฉงซินก็เช่นกัน
"ศิษย์น้องเล็ก เจ้า...เจ้าช่วยหยิกข้าที หรือว่าข้าจะธาตุไฟเข้าแทรก เหตุใดข้าถึงเห็นศิษย์พี่รองกำลังเต้นรำอยู่ มันต้องเป็นภาพลวงตาแน่ ๆ เลย"
ซูหมิงมีท่าทางตื่นตะลึง อ้าปากค้างจนคางแทบหลุดลงมาแล้ว
การตอบสนองของเย่ฉงซินนั้นเร็วกว่าซูหมิงมากนัก นางหยิกเขาอย่างแรง พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน "ศิษย์พี่สาม คนที่ธาตุไฟเข้าแทรกมิใช่ท่าน แต่เป็นศิษย์พี่รอง ท่านรีบไปช่วยเขาเร็วเข้า"
นางยังเอาโชคลาภวาสนาของเขามาไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นหลานจืออวี๋จะเป็นอะไรไปไม่ได้
"อ้อ ๆ"
ซูหมิงตอบพร้อมวิ่งเข้าไปหาหลานจืออวี๋
เขาเกาศีรษะด้วยความลำบากใจ พลางหันไปถามเย่ฉงซิน "ศิษย์น้องเล็ก ข้าควรทำอย่างไรดี"
เย่ฉงซินโกรธจนอกแทบระเบิดความโง่เขลาของซูหมิง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก
เติมเงินละอ่านไม่ได้...
เพราะอะไรถึงให้เติมเงินเป็น$ เติมเป็นเงินบาทง่าย ๆ อย่างเวป เด็กดีไม่ได้เหรอ...