กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก นิยาย บท 5

แสงแดดอันเจิดจ้า ทำให้นางรู้สึกแสบตา อดไม่ได้ที่จะชะงักฝีเท้า

นางหรี่ตาเพื่อแยกทิศทาง จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินไปทางยอดเขาตู๋เยว่

เดิมทีฟางเฉิงหล่างต้องการเรียกอวี๋จาวเอาไว้ เมื่อเห็นนางเดินอย่างรวดเร็ว จึงได้แต่รีบก้าวเท้าเดินตามไป

ไม่นาน โครงร่างอันสูงตระหง่านของยอดเขาตู๋เยว่ก็ปรากฏเข้าสู่ดวงตา

ยามนี้ คนกลุ่มหนึ่งได้ยืนอยู่ที่ตีนเขาของยอดเขาตู๋เยว่ บุรุษและสตรีที่นำหน้าสะดุดตาที่สุด

บุรุษมีคิ้วกระบี่ดวงตามีประกาย รูปลักษณ์หล่อเหลา ริมฝีปากบางยกขึ้นเล็กน้อย ระหว่างคิ้วให้ความรู้สึกอิสระไม่อยู่ในกฎเกณฑ์อย่างบอกไม่ถูก

สตรีสวมชุดกระโปรงยาวแขนกว้างสีเหลือง ทำผมทรงมวยคู่ ใบหน้ายิ้มแย้มดั่งบุปผา ไม่ซ่อนความเปราะบาง

เมื่ออวี๋จาวเห็นคนทั้งสอง ก็ชะงักฝีเท้าทันที แววตาลึกซึ้ง

ศิษย์พี่รองหลานจืออวี๋

ศิษย์น้องเล็กเย่ฉงซิน

พบกันอีกแล้ว

"ทำไมหรือ เข้าไปอยู่ในคุกมืด ลืมการทักทายคนไปแล้วหรือ" หลานจืออวี๋เลิกคิ้วเบา ๆ

คำพูดของเขาทำให้เกิดเสียงความเห็นด้วยที่ไม่ประสงค์ดี

"นั่นสิ หรือว่าจะกลายเป็นใบ้ไปแล้ว"

"นางต้องรู้สึกว่าไม่มีหน้ามาพบคนอื่นแน่เลย"

"ใครบอก อวี๋จาวหน้าด้านเช่นนั้น จะรู้สึกอายได้อย่างไร นางต้องเสแสร้งอยู่แน่"

"..."

"พวกท่านอย่าพูดอีกเลย" เย่ฉงซินกระทืบเท้าเพื่อหยุดทุกคน แล้วหันไปกล่าวกับอวี๋จาวด้วยท่าทางเป็นกังวล "ศิษย์พี่หก ร่างกายของท่านยังสบายดีอยู่หรือไม่ เป็นความผิดของข้าที่วันนั้นไม่ห้ามอาจารย์ ทำให้ท่านได้รับบาดเจ็บ ข้าเสียใจยิ่งนัก"

หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไม่อำนวย อวี๋จาวอยากปรบมือให้กับเย่ฉงซินจริง ๆ

การแสดงของเย่ฉงซินพูดได้ว่าเป็นธรรมชาติ พิถีพิถันยิ่งนัก มิน่าพวกศิษย์พี่ของนางถึงได้ถูกเย่ฉงซินปั่นหัวเล่น

เพราะนางมีประสบการณ์และความทรงจำของชาติก่อน จึงได้มองการเสแสร้งของเย่ฉงซินออกอย่างง่ายดาย

ฟางเฉิงหล่างที่ตามมาช้าไปหนึ่งก้าว สีหน้าเปลี่ยนไป

เขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร

วันนั้นศิษย์น้องหกถึงกับกระอักเลือดเลยนะ

ถึงตอนนี้เขาถึงนึกขึ้นมาได้ว่า สีหน้าของอวี๋จาวไม่ค่อยสู้ดีนัก เขากลับละเลยเช่นนี้ โดยไม่ได้ถามแม้แต่คำเดียว

ภายในใจเขาร้อนรนยิ่งนัก ทั้งโทษที่อวี๋จาวไม่รู้หนักเบา เขารีบเดินเข้าไปจับข้อมือของนาง และกล่าวทันที "ศิษย์น้องเล็ก เจ้าช่างไม่รู้หนักเบาเอาเสียเลย ได้รับบาดเจ็บเหตุใดถึงไม่บอกศิษย์พี่ใหญ่ ตอนนี้จะรู้สึกอย่างไรบ้าง จักต้องทานยาหรือไม่"

เขาร้อนใจไปชั่วขณะ จึงได้บังเอิญเรียกอวี๋จาวว่าศิษย์น้องเล็กอย่างที่เคยเรียกโดยไม่ตั้งใจ

หลานจืออวี๋ยกมุมปากเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม "ศิษย์น้องหกตื่นรู้ได้ มันช่างเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ขอโทษศิษย์น้องเล็กต่อหน้าทุกคนเถอะ ให้ทุกคนได้เห็นความเด็ดเดี่ยวของเจ้า"

หลานจืออวี๋ไม่เชื่อคำพูดของอวี๋จาวหรอก

อวี๋จาวเป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยม มักต่อหน้าทำอย่างหนึ่ง ลับหลังทำอย่างหนึ่ง เมื่อก่อนศิษย์น้องเล็กถูกนางรังแกอยู่บ่อยครั้ง

เขาจะช่วยระบายคับแค้นใจต่อหน้าทุกคน

"ใช่ ขอโทษ พวกเราไม่เชื่อคำพูดของเจ้า พวกเราต้องการให้เจ้าขอโทษเท่านั้น"

"ขอโทษ ขอโทษศิษย์น้องเย่ซะ"

"ขอโทษ ขอโทษ"

เสียงของทุกคนรวมอยู่ด้วยกัน กลายเป็นคลื่นเสียงมหาศาล ดังก้องไปทั่วนภา

ศิษย์ของนิกายเต๋าทั้งห้าที่เดิมทีไม่รู้เรื่องนี้ ต่างก็พากันทยอยมาหลังจากได้ยินเสียง

ผู้คนพลุ่งพล่าน

อวี๋จาวยืนอยู่ตรงกลาง สัมผัสได้ถึงสายตาอันร้อนแรงจากทั่วทุกทิศทาง ราวกับได้ย้อนกลับไปในวันที่นางตาย

วันนั้น ในที่สุดนางก็ค้นพบความลับของเย่ฉงซิน

นางสงสัยมาตลอด ทั้งที่เย่ฉงซินมีพรสวรรค์ธรรมดาอย่างรากวิญญาญสามสาย เหตุใดนางถึงได้ฝึกตนเร็วกว่าคนทั่วไป อายุไม่ถึงร้อยปี ก็บรรลุระดับกำเนิดเทพ กลายเป็นผู้บำเพ็ญเพียรกำเนิดเทพที่อายุน้อยที่สุดของนิกายเต๋าทั้งห้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก