มิหนำซ้ำยังเป็นลูกศิษย์หญิงที่ร่างกายอ่อนแอแต่กำเนิด อีกทั้งพรสวรรค์ยังธรรมดามากอีกด้วย
สายตาของเซียนชิงเหยี่ยนมองไปยังร่างของเย่ฉงซินซึ่งยังคงหมดสติอยู่ไกลออกไป สีหน้าท่าทางมืดมนไม่ชัดเจน
...
"ยามนี้เจ้ามีสถานะค่อนข้างพิเศษ กลับไปที่ยอดเขาหลักพร้อมกับข้าเถิด"
เจ้าสำนักจี้หยวนกับอวี๋จาวเดินจากยอดเขาตู๋เยว่ลงมาถึงตีนเขา นิ่งเงียบอยู่นานก่อนจะถอนหายใจแล้วกล่าวขึ้นอย่างแผ่วเบา
อวี๋จาวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัวปฏิเสธ
แม้ว่าการแบ่งระดับชั้นของนิกายเต๋าทั้งห้าจะไม่เข้มงวดนัก แต่ก็ได้มีการกำหนดสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ซึ่งสอดคล้องกับระดับของลูกศิษย์แต่ละคนอย่างชัดเจน
ลูกศิษย์สายตรงสามารถอาศัยอยู่กับอาจารย์ของตน ส่วนศิษย์สายในที่ไม่มีอาจารย์จะต้องพักรวมกันที่เรือนพักใน
สภาพแวดล้อมในเรือนพักในนั้นนับว่าไม่เลวเลย แถมลูกศิษย์แต่ละคนยังมีเรือนเล็ก ๆ เป็นของตนเอง แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับถ้ำพำนักบนภูเขา มันแทบไม่อาจเทียบกันได้เลย
อวี๋จาวสามารถตีหน้านิ่งเข้าพักอาศัยยังยอดเขาหลักได้ ตราบใดที่นางไม่สนใจคำวิจารณ์ของคนคนรอบข้าง และไม่กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อสายยอดเขาหลัก
การที่หลุดพ้นจากยอดเขาตู๋เยว่ได้ ล้วนเพราะอาศัยบารมีของเจ้าสำนัก อวี๋จาวไม่ใช่คนไม่รู้จักบุญคุณคน ไม่อยากเพิ่มภาระให้เขาอีก
อีกทั้งนางยังมีแผนการอยู่ในใจแล้วด้วย
การตระหนักรู้อย่างฉับพลันในหุบเขามังกรคำราม ทำให้ผลการฝึกตนของนางเพิ่มขึ้นถึงระดับสร้างรากฐานปราณช่วงปลาย นางเตรียมที่จะปิดด่านบำเพ็ญเพียรระยะหนึ่ง เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับการฝึกตนของตนเอง แล้วค่อยออกไปฝึกหาประสบการณ์ด้านนอกอีกครั้ง
รอรวบรวมวัตถุดิบสำหรับหลอมอาวุธที่เหลืออีกสองอย่างได้ครบ นางค่อยเดินทางไปยังสำนักชิงมู่เพื่อยืมห้องกลั่นยาหลอมอาวุธ
ดังนั้นนางจึงจะไม่อยู่นิกายนานนัก และไม่กังวลว่าผู้อื่นจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของตน
พอจี้หยวนเห็นเช่นนั้นก็รู้ทันทีว่าอวี๋จาวตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จึงไม่พยายามโน้มน้าวนางอีก
"ถ้าเจ้าไม่มีอะไรทำ ก็ขึ้นไปเล่นกับศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเจ้าที่ยอดเขาหลักได้ นางชอบเจ้ามากเลยล่ะ"
"ได้ ข้าต้องไปแน่"
เจ้าสำนักจี้หยวนค้นหาอะไรบางอย่างบนร่าง จากนั้นก็ล้วงเอาถุงเก็บของที่ดูเก่าแก่ออกมา
"เรื่องที่เกิดขึ้นในหุบเขามังกรคำราม ข้ารู้หมดแล้ว เจ้าทำได้ดีมาก และขอบคุณที่ช่วยเสี่ยวเยว่เอาไว้ นี่คือของตอบแทนจากข้าในฐานะอาจารย์ สำหรับรางวัลจากสำนัก ต้องอีกสักระยะถึงจะแจกจ่าย"
สถานะของอวี๋จาวในตอนนี้ค่อนข้างประหม่า หากเขาไม่พานางไปด้วยตนเอง เกรงว่าอวี๋จาวคงต้องเผชิญกับอุปสรรคและการกลั่นแกล้งมากมายแน่นอน
เพื่อโจวจินเยว่แล้ว จี้หยวนคิดพิจารณาแทนอวี๋จาวทุกรอบด้านจริง ๆ
อวี๋จาวเข้าใจถึงความตั้งใจของจี้หยวนดี นางตอบรับตอบด้วยความทราบซึ้งใจ
ดังนั้น ลูกศิษย์บางส่วนของนิกายเต๋าทั้งห้า จึงมีโอกาสได้เห็นเจ้าสำนักพาอวี๋เจาไปยังหอกิจการภายใน
ผู้อาวุโสที่ดูแลหอกิจการภายในแซ่โหว เป็นชายชราที่ดูใจดี นิสัยอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาก็รื่นหู ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป
จี้หยวนพาอวี๋จาวมายังตรงหน้าเขา แล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า "ผู้เฒ่าโหว นับแต่นี้ไปอวี๋จาวเป็นศิษย์สายในแล้ว ท่านช่วยแก้ไขสถานะของนางในบัญชีรายชื่อหน่อย และช่วยจัดที่พักใหม่ในนางในเรือนพักในที"
รอยยิ้มของผู้เฒ่าโหวแข็งค้างอยู่บนใบหน้าทันที
"เจ้าสำนัก ท่านกำลังล้อเล่นกับข้าใช่หรือไม่"
ผู้เฒ่าโหวชะงักไปพักใหญ่ พร้อมเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะมีท่าทางตกใจเช่นนี้ เพราะในนิกายเต๋าทั้งห้า เคยมีแต่ลูกศิษย์สายในได้เลื่อนตำแหน่งเป็นศิษย์สายตรง ไม่เคยมีกรณีที่ลูกศิษย์สายตรงกลายเป็นศิษย์สายในมาก่อนเลย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก
เติมเงินละอ่านไม่ได้...
เพราะอะไรถึงให้เติมเงินเป็น$ เติมเป็นเงินบาทง่าย ๆ อย่างเวป เด็กดีไม่ได้เหรอ...