ผู้เฒ่าโหวกลับไม่ต้องการที่จะกล่าวเพิ่มเติมในเวลานี้ "เจ้าอยู่ที่นี่ไปสักพักก็จะรู้เอง ดูนั่น ด้านหน้านี้ก็คือบริเวณเรือนใน"
ในทุกวันศิษย์สายในจะทำเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น
ฝึกตน
การฝึกตนเท่านั้นที่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้น และการฝึกตนเท่านั้นที่จะปกป้องสถานะปัจจุบันไว้ได้
ไม่มีผู้บำเพ็ญเพียรคนใดอยากจะถูกคัดออกจากคนที่ด้อยกว่าตนเอง และไม่มีผู้บำเพ็ญเพียรคนใดอยากจะย่ำเท้าอยู่กับที่ตลอดไป
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีของวัน แต่กลับไม่มีใครแม้แต่คนเดียวในเรือนใน
ทันทีที่อวี๋จาวก้าวเข้าไปที่ลานด้านใน บรรยากาศอันตึงเครียดและกดดันก็เข้ามาล้อมรอบตัวนางทันที ราวกับมีประกายไฟในอากาศ
“รู้สึกถึงความมุ่งมั่นของพวกเขาแล้วหรือยัง” ผู้เฒ่าโหวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
อวี๋จาวพยักหน้า
เมื่อครั้งนางยังอยู่ที่ยอดเขาตู๋เยว่ ฟางเฉิงหล่าง ซุยเจี๋ย และคนอื่น ๆ จะกระตุ้นให้นางฝึกตน นางคิดว่านางได้พยายามฝึกอย่างหนักแล้ว แต่หลังจากมาถึงที่นี่ นางก็ตระหนักว่านางยังคงประเมินตนเองสูงเกินไป
ผู้เฒ่าโหวพาอวี๋จาวเดินขึ้นไปบนเนินเขาตามบันไดที่ทำจากหิน
“สถานที่ตั้งของที่พักอาศัยในบริเวณเรือนในก็มีความเฉพาะเจาะจง คนที่มีความสามารถมากที่สุดอาศัยอยู่ที่ตีนเขา และมีเพียงคนที่มีความสามารถน้อยที่สุดเท่านั้นที่อาศัยอยู่บนยอดเขา เจ้ารู้ไหมว่าทำไม”
อวี๋จาวคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ก็คงจะเพื่อเป็นการประหยัดเวลา"
การอาศัยอยู่ที่ตีนเขา ทำให้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็สะดวกสบายยิ่งขึ้น
แม้ว่าเมื่อเทียบกับยอดเขาอาจจะไม่ได้ช่วยประหยัดเวลามากนัก แต่ในสายตาของศิษย์สายใน ความแตกต่างเล็กน้อยอาจเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จหรือความล้มเหลว
“ถูกต้อง ดังนั้นการจัดสรรเรือนจึงไม่คงที่ ตราบใดที่เจ้ามีความสามารถ เจ้าก็สามารถอยู่ในเรือนใดในที่นี่ก็ได้ นี่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งสถานะด้วย”
คำพูดของผู้เฒ่าโหวมีนัยยะของการยั่วยุ
ดูเหมือนเขาจะรอคอยเวลาที่อวี๋จาวจะท้าทายเหล่าศิษย์สายใน
อวี๋จาวยิ้มไม่ตอบอะไร
ภูเขาที่เรือนในตั้งอยู่สูงไม่มากนัก อวี๋จาวและผู้เฒ่าโหวจึงขึ้นไปถึงยอดเขาโดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป
ตรงกลางยอดเขาเป็นพื้นที่ราบ มีเรือนสีเขียวเล็กๆ ตั้งอยู่บนนั้น
มีรั้วอยู่ด้านนอกเรือน สามารถมองเห็นบริเวณตัวเรือนได้ชัดเจนผ่านช่องว่างของรั้ว
มีที่ดินโล่งเตียนอยู่ด้านในเรือนน้อย และมีต้นไม้เก่าแก่เติบโตอยู่ที่มุมด้านตะวันออก
และขณะเดียวกันเจ้าของเรือนเล็กก็ทราบทันทีว่าเรือนถูกโจมตี
ปัง
ประตูไม้สองบานเปิดออก
เงาร่างที่น่ารักวิ่งออกมาจากห้องอย่างรวดเร็วราวกับสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย
“ผู้ใด เป็นผู้ใดกล้ารบกวนการฝึกตนของข้า ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”
อวี๋จาวมองไปที่เด็กสาวน่ารักที่ตัวเล็กกว่านางหนึ่งช่วงศีรษะ สาวน้อยน่ารักเอามือเท้าสะเอว แผดเสียงก้องอย่างรุนแรง และมุมตากระตุกเล็กน้อย
ช่างเป็นภาพที่ทำให้ผู้คนแปลกใจได้จริง ๆ
“ซิวหลัว”
ผู้เฒ่าโหวคุ้นเคยกับความแตกต่างนี้ของหญิงสาวมานานแล้ว จึงยิ้มและโบกมือให้นาง
หญิงสาวที่ชื่อซิวหลัวเปลี่ยนสีหน้าของนางในทันที ลืมตาโต ๆ เม้มปากเล็ก ๆ และวิ่งก้าวเล็ก ๆ ไปหาผู้เฒ่าโหว
“คารวะผู้เฒ่าโหว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก
เติมเงินละอ่านไม่ได้...
เพราะอะไรถึงให้เติมเงินเป็น$ เติมเป็นเงินบาทง่าย ๆ อย่างเวป เด็กดีไม่ได้เหรอ...