กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 509

แคว้นไหวหวงคือแคว้นเล็กทางทิศเหนือ คือสถานที่แร้นแค้นแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่บนจรดล่างราชสำนักล้วนยากจน เป็นเหตุให้กษัตริย์ไม่สามารถส่งขุนนางไปบวงสรวงองค์เทพห้าขุนเขาได้ตรงตามเวลา ดังนั้นจึงมีคำกล่าวที่บอกว่าขุนนางสองกรมอย่างกรมพิธีการ กรมการคลังไม่ขึ้นเขา

อาจเป็นเพราะราชสำนักไม่ให้ความเคารพแก่เจ้าของขุนเขาทั้งห้ามากพอ บวกกับที่ศาลประจำท้องถิ่นก็บางตา ควันธูปไม่โชติช่วง ตามหมู่บ้านร้านตลาดหรือชนบทของแคว้นไหวหวงจึงมักจะมีภูตผีปีศาจออกอาละวาดอยู่เสมอ เป็นเหตุให้มักจะมีเจินเหริน ภิกษุสมณศักดิ์สูงของต่างถิ่นที่เดินทางท่องเที่ยวผ่านมา คอยมาช่วยชาวประชาให้พ้นทุกข์ เพียงแต่ว่ายอดฝีมือที่ค่อนข้างจะได้รับความนิยมตามพื้นที่ต่างๆ เหล่านี้ไม่เคยเดินเข้าไปในจวนของชนชั้นสูงที่มีอำนาจอย่างแท้จริงของแคว้นไหวหวง ภายหลังก็เลือกจะเดินทางอ้อมผ่านเมืองหลวงไปเสียเลย หลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องไปชนตอเข้า

วันนี้ตรงด่านชายแดนของแคว้นไหวหวงที่เชื่อมติดอยู่กับแคว้นอิ๋นผิงมีบัณฑิตชุดขาวสวมงอบคนหนึ่งยื่นส่งเอกสารผ่านทาง พอเข้าเมืองมาได้ก็เดินเที่ยวชมเมืองไปรอบหนึ่ง ก่อนจะมานั่งอยู่บนหีบไม้ไผ่บนสะพานลอยของตลาดแห่งหนึ่ง กำลังกินขนมแป้งย่างโรยต้นหอมที่เพิ่งซื้อมา นั่งฟังเรื่องราวลึกลับแปลกประหลาดทั้งหลายที่นักเล่านิทานเล่าให้ฟังพร้อมกับพวกชาวบ้านในพื้นที่และพ่อค้าเดินเท้าที่ทำการค้าไม่ใหญ่นัก นักเล่านิทานอายุมากแล้ว วัยประมาณเจ็ดสิบปี ทว่ากำลังวังชากลับเปี่ยมล้น เสียงที่เขาตะเบ็งพูดออกมาสามารถสะเทือนท้องฟ้าได้ กำลังพูดจ้อจนน้ำลายแตกฟอง บอกว่าก่อนหน้านี้เมืองปู้เหยามีปีศาจใหญ่ที่ดุร้ายตนหนึ่งปรากฏตัว ยึดครองภูเขาเป็นของตัวเอง พอถึงช่วงค่ำคืนก็จะกลายร่างเป็นควันดำแฝงตัวเข้าไปในเมืองเพื่อลักพาตัวคุณหนูสาวๆ โดยเฉพาะ ทางการไม่สามารถขัดขวางได้เลย ผลกลับถูกเจินเหรินผู้เฒ่าคนหนึ่งที่ท่านเจ้าเมืองเชื้อเชิญมาตั้งปะรำทำพิธีชักนำอสนีบาต เห็นเพียงว่ากลางดึกที่แสงจันทร์สว่างดวงดาวบางตาพลันมีฟ้าร้องและฝนฟ้าตกกระหน่ำ ภูเขาที่ปีศาจใหญ่ตนนั้นซ่อนตัวอยู่เกิดเสียงดังเปรี้ยงหนึ่งครั้งก็มีสายฟ้าเส้นหนึ่งผ่าลงไปกลางภูเขาลึก หลังจบเรื่องมีคนตัดฟืนที่ใจกล้าไล่ตามความเคลื่อนไหวขึ้นภูเขาไปดู ก็พบว่าเป็นงูใหญ่ที่ขนาดเท่าปากบ่อตัวหนึ่งถูกสายฟ้าผ่าตายทั้งเป็น น่าเสียดายก็แต่หญิงสาวทั้งหลายได้กลายเป็นโครงกระดูกขาวโพลนที่กระจายเกลื่อนอยู่ท่ามกลางภูเขา ดูจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นสตรีที่โชคร้ายเหล่านั้น

คนที่ฟังผู้เฒ่าเล่าต่างก็พากันสูดลมเย็นๆ เข้าปอดดังเฮือก ขนลุกขนชัน เสียวไปทั้งสันหลัง

บัณฑิตสวมชุดขาวหิมะที่มาทัศนศึกษาผู้นั้นก็ทำท่าตกตะลึงไปพร้อมกับคนข้างกายด้วย

ติ๊งๆๆ มีคนฟังบางคนนำพาคนอื่นโยนเงินให้เป็นของรางวัล คนที่อยู่ด้านหลังก็ทยอยกันควักกระเป๋าเงิน โยนเงินเหรียญทองแดงส่วนหนึ่งใส่ลงในถ้วยสีขาวใบใหญ่ นักเล่านิทานชำเลืองตามองผลเก็บเกี่ยวในถ้วยแล้วก็ลูบหนวดยิ้ม พอให้ซื้อเหล้าได้สองกาแล้ว

สุดท้ายนักเล่านิทานก็เล่าอีกว่าที่เมืองอวี้ฮู่ก็มีปีศาจอาละวาดเช่นกัน ปีศาจตนนั้นไร้ขื่อไร้แป แต่น่าเสียดายที่เจ้าเมืองเป็นพวกยึดติดในทรัพย์สิน ทั้งไม่มีเส้นสายคอยช่วยเหลือ แล้วก็ไม่ยินดีทุ่มเงินก้อนใหญ่จ้างเจินเหรินหรือเซียนซือให้ลงจากภูเขามาปราบปีศาจ ชาวบ้านของเมืองอวี้ฮู่น่าสงสารยิ่งนัก ถูกเล่นงานจนไก่บินหมากระโดด โชคดีที่ถึงแม้ปีศาจที่ออกอาละวาดจะกำเริบเสิบสานไร้ความยำเกรง แต่ตบะของมันก็ไม่สูง อยู่ไกลเกินกว่าจะเทียบกับปีศาจงูในเมืองปู้เหยาที่ถูกฟ้าผ่าตัวนั้นได้ติด ไม่อย่างนั้นคงกลายเป็นโศกนาฎกรรมในโลกมนุษย์จริงๆ

พวกชาวบ้านชอบเรื่องสนุกครึกครื้น จึงมีชายฉกรรจ์ถามว่าปีศาจของเมืองอวี้ฮู่ตนนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากฝ่ายใดกันแน่ นักเล่านิทานพูดจ้อไม่หยุด บอกว่าที่เมืองแห่งนั้นมีผีชุดขาวที่ผูกคอตายชอบไปหลอกให้คนตีระฆังบอกเวลาตกใจกลัว กลางดึกก็จะชอบไปเคาะประตูบ้านคน เป็นเหตุให้ยามค่ำคืนไม่มีใครในเมืองนั้นกล้าออกมาข้างนอก และในสุสานร้างอันเป็นที่อยู่ของกระต่ายและหมาป่าก็มักจะมีสตรีหน้าตางดงามแต่งกายเฉิดฉันมาล่อลวงบุรุษเพื่อดูดดึงแก่นพลังชีวิตของพวกเขา และยังมีผีร้ายอำมหิตกลุ่มหนึ่งที่ขับไล่ภิกษุในวัดออกไป แล้วทำตัวเป็นนกพิราบที่ยึดรังนกกางเขน รวมไปถึงเด็กสาวชุดเขียวที่ท่าเรือซึ่งใช้น้ำในลำคลองต่างเรือนนอน คอยสร้างปัญหาและบ่อนทำลายผู้คนในเมือง

มีบางคนไม่เชื่อ บอกว่าแคว้นอิ๋นผิงและแคว้นไหวหวงของพวกเราปลอดภัยสงบสุขมาโดยตลอด ไม่มีภูตผีปีศาจปรากฏตัวให้เห็นหลายร้อยปีแล้ว ทำไมวันนี้จู่ๆ ถึงพากันโผล่มาเยอะขนาดนี้ คงไม่ใช่พวกที่กินอิ่มแล้วอยู่ว่างไม่มีงานทำเลยจงใจแกล้งทำเป็นผีหลอกเอาเงินคนกระมัง นักเล่านิทานเป่าหนวดถลึงตา บอกว่าตนเห็นศพของปีศาจงูเมืองปู้เหยาและใบหน้าขาวซีดของผีพรายชุดเขียวที่ท่าเรือด้วยตาตัวเอง

ทุกคนที่ได้ฟังหลุดหัวเราะพรืด ล้วนไม่มีใครเชื่อ

ผู้เฒ่าอายุเจ็ดสิบกวาดตามองไปรอบด้าน สุดท้ายมองไปยังบัณฑิตชุดขาวที่เพิ่งกินขนมแป้งโรยต้นหอมเสร็จแล้วยื่นมือชี้ไปที่เขา “บัณฑิตต่างถิ่นที่เดินทางมาท่องเที่ยวผู้นี้ เชื่อว่าคงต้องอ่านตำรามามาก มีความรู้กว้างขวางอย่างแน่นอน พวกเจ้าลองถามเขาดูสิว่า ในโลกใบนี้มีภูตผีปีศาจหรือไม่ บัณฑิตหนุ่ม ต่อให้เจ้าไม่เคยเห็นเองกับตามาก่อน แต่แค่เคยได้ยินมาก็นับรวมได้เหมือนกัน”

ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมองคนหนุ่มสวมงอบ คนผู้นั้นส่ายหน้ากล่าว “ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วย”

เสียงฮือฮาดังขึ้นจากรอบทิศ

นักเล่านิทานเห็นว่าท่าไม่ดีจึงรีบเก็บถ้วยขาวใบใหญ่ แล้วเก็บแผงของตัวเอง มารดามันเถอะ ไอ้พวกบัณฑิตนี่ไม่มีสักคนที่เป็นคนดี ไม่ช่วยโยนเงินให้ก็แล้วไปเถิด นี่ยังไม่ช่วยให้ความร่วมมืออีก แค่มองก็รู้แล้วว่าไม่มีหวังจะสอบติดกระดานทองคำแม้แต่น้อย

พอแผงถูกเก็บ คนฟังคนดูทุกคนก็แยกย้ายกันไป

นักเล่านิทานถลึงตาใส่บัณฑิตต่างถิ่นที่สะพายหีบไม้ไผ่ออกทัศนศึกษาผู้นั้นดุๆ

เฉินผิงอันคลี่ยิ้ม ลุกขึ้นยืน สะพายหีบไม้ไผ่ให้เรียบร้อย เจี้ยนเซียน น้ำเต้าเลี้ยงกระบี่และพัดพับหยกถูกเขาเก็บใส่ไว้ในหีบไม้ไผ่ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ในมือจึงมีเพียงแค่ไม้เท้าสีเขียวปลั่งราวกับจะเค้นน้ำออกมาได้ชิ้นนั้น ระหว่างที่เดินทางมาที่นี่ เขาได้หลอมไม้เท้าเสร็จสิ้นแล้ว ขณะเดียวกันในชายแขนเสื้อก็ซ่อนยันต์กระดาษเหลืองธรรมดาเอาไว้หลายแผ่น ล้วนเป็นยันต์ระดับต้นทั่วไปใน ‘มหัศจรรย์ที่แท้จริงตำราสีชาด’ อย่างเช่นยันต์ปราณหยางส่องไฟ ยันต์กำจัดสิ่งสกปรกและยันต์ทำลายสิ่งกีดขวาง ฯลฯ

เฉินผิงอันเดินไปหยุดอยู่ข้างกายผู้เฒ่า “ท่านผู้เฒ่า ข้าจะเลี้ยงเหล้าท่าน อยากดื่มหรือไม่”

นักเล่านิทานชำเลืองตามองเขา ดูแล้วเป็นพวกไม่มีแม้แต่แรงจะจับไก่ ไม่เหมือนคนเลวที่ชอบจี้ปล้นคนอื่น เพียงแต่ว่าเส้นทางในยุทธภพนั้นเดินได้ไม่ง่าย สวรรค์เท่านั้นที่จะรู้ว่าวันใดบนทางจะมีบ่อน้ำขนาดเล็กที่มองดูเหมือนน้ำตื้น แต่กลับทำให้คนสะดุดล้มขาแผลงอยู่หรือไม่ ดังนั้นต่อให้จะอยากกินมากแค่ไหนก็ยังฝืนกลืนน้ำลายลงคง ปฏิเสธไปด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องๆ ความหวังดีของคุณชายข้ารับไว้แล้ว แต่ข้ายังต้องรีบเดินทางต่อเพื่อผ่านด่านไปหาเลี้ยงชีพที่แคว้นอิ๋นผิง โรงเตี๊ยมในเมืองแห่งนี้เก็บเงินเหมือนฆ่าหมู แต่หากไปนอนตามถนนก็ยุ่งยากอีก ไม่สู้ผ่านด่านไปนอนตามป่าเขา ฟ้าไม่สนดินไม่ใยดี”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!