ตอนที่ 11 ฝันร้ายจากสองปีก่อน
“เรื่องเข้าใจผิดเหรอ” คำพูดของวิเวียนมีแต่ทำให้ฟาเบียนโกรธจัด เขาขึ้นเสียงแล้วบีบคางเธอ เขาออกแรงบีบมากจนใบหน้าของวิเวียนเริ่มเหยเกด้วยความเจ็บปวด “เข้าใจอะไรผิดเหรอ ที่ผมคิดคือคุณคงเห็นแล้วว่าไอ้หนุ่มถังแตกเมื่อสองปีก่อนอยู่ๆ ก็มีเงินถุงเงินถังจนกลายมาเป็นหัวหน้าบรรณาธิการ คุณรู้สึกว่าตัวเองคิดผิด ก็เลยมาอ้างว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ถูกไหม” เมื่อเอ่ยถ้อยคำเหล่านี้ออกมา ความดุร้ายฉายผ่านดวงตาของฟาเบียน เขาดึงใบหน้าของวิเวียนให้หันมาหาเขาขณะเตือนเธอว่า “วิเวียน จะบอกให้นะ ผมไม่ได้เชื่อคนง่ายเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว” เมื่อมองดูใบหน้าที่คุ้นเคยของเขาซึ่งเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความเกลียดชัง ทั้งหมดที่วิเวียนรู้สึกได้คือความตกใจและปวดใจ เธออยากอธิบายเพื่อแก้ตัว แต่พบว่าเธอไม่สามารถฝืนพูดอะไรได้อีกแม้แต่คำเดียวเพื่อปกป้องตัวเอง จะอธิบายอะไรได้อีก ถ้าเขาเต็มใจที่จะเชื่อฉันจริง ๆ ทำไมตอนนั้นเขาถึงจากไปโดยไม่แม้แต่จะบอกอะไรฉันเลย แต่เหนือสิ่งอื่นใด เขาเชื่อไปแล้วว่าฉันเป็นแค่พวกตกทอง คนที่พร้อมจะทรยศเขาเพื่อเงิน ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม และต่อให้เขาเชื่อคำอธิบายของฉัน แล้วยังไงล่ะ ตอนนี้ฉันเป็นภรรยาของคนอื่นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ฉันก็ไม่ใช่เป็นคนเหมือนในอดีตอีกต่อไป เราไม่อาจย้อนเวลากลับคืนมาได้... พอคิดได้ วิเวียนจึงพยายามอย่างที่สุดเพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เธอจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่เงยหน้าขึ้นทันที “ฟาเบียน” เธอเอ่ยเบาๆ น้ำเสียงของเธอราบเรียบอย่างน่าแปลกใจ “คุณพูดถูก สิ่งที่เกิดขึ้นในปีนั้นเป็นอย่างที่คุณคิด แต่คุณเข้าใจผิดบางอย่าง ตอนนี้ฉันไม่อยากคบกับคุณ การที่คุณได้ตำแหน่งหัวหน้าบ.ก. หรือต่อให้เป็นซีอีโอ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน” เมื่อเธอพูดจบประโยคสุดท้าย วิเวียนรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่เจ็บแปลบที่คางของเธอ เห็นได้ชัดว่าฟาเบียนบีบคางเธออย่างแรง มือของเขากำแน่น แต่เธอต้องแปลกใจเป็นที่สุดที่เขาตัดสินใจเหวี่ยงเธอออกไปในเวลาต่อมา วิเวียนเดินซวนเซถอยหลัง เธอรีบใช้แขนพิงผนังเพื่อไม่ให้ล้ม เมื่อเธอเงยหน้ามองเขา เธอเห็นฟาเบียนจ้องมาที่เธออย่างเย็นชา ความเหยียดหยามและความชิงชังในดวงตาของเขาเหมือนกับกริชที่แทงทะลุหัวใจของเธอ ฉันควรยอมเจ็บ มันจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเอาตัวเข้าไปพัวพันกับเขาอย่างแน่นอน ดังนั้น เธอจึงมีเหตุผลที่จะกลั้นน้ำตาของเธอไว้ขณะที่เธอรีบบอกออกมาว่า “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนล่ะ” พูดจบเธอจึงรีบออกจากห้องทำงานนั้นไปโดยไม่กล้าแม้แต่จะแอบมองฟาเบียนแม้สักครั้ง หลังจากเผ่นแน่บออกมาจากบริษัทนิตยสารแล้ว ในไม่ช้าวิเวียนก็มาถึงชั้นล่าง แต่เธอเพิ่งมารู้ว่าข้างนอกฝนกำลังเทลงมาอย่างหนัก โชคร้ายที่สุดของเธอที่พบว่าเธอทิ้งร่มไว้ในที่ทำงาน แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ วิเวียนพบว่าเธอไม่กล้าพอที่จะกลับไปหยิบร่มของเธอ เพราะเธอรู้ว่าฟาเบียนอาจจะยังอยู่ในห้องทำงานของเขา เธอจึงไม่กล้ากลับเข้าไป ฉันช่างเป็นคนขี้ขลาด ขณะมองดูสายฝนเทลงมา วิเวียนมองหารถแท็กซี่ โชคไม่ดีที่เป็นช่วงฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรง วิเวียนพบว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาแท็กซี่สักคัน แอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่ก็ล่ม ในที่สุดเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแข็งใจแก้ปัญหาขณะที่เธอเอากระเป๋าถือป้องหัวแล้ววิ่งอย่างเร็วไปที่สถานีรถไฟ แม้ว่าเธอจะเปียกโชกไปทั้งตัว เธอยังต้องเบียดเสียดเยียดยัดอยู่กับผู้โดยสารคนอื่นๆ บนรถไฟ ตอนนั้นเธอได้แต่หวังให้ฝนหยุดตก แต่ดูเหมือนพระเจ้ากำลังพยายามทรมานเธอเช่นกัน พายุฝนฟ้าคะนองด้านนอกส่งเสียงคำรามโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ความพยายามของวิเวียนในการเรียกรถแท็กซี่ยังคงเปล่าประโยชน์ วิเวียนไม่มีทางเลือกได้แต่ต้องรอที่สถานีรถไฟ ในไม่ช้าเธอก็หวนนึกถึงความทรงจำในอดีตเมื่อสองปีที่แล้วในคืนที่มีพายุฝนฟ้าคะนองแบบนี้ เป็นค่ำคืนที่เธอสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอไป... หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็สูญเสียฟาเบียน ชายที่เธอคิดว่าจะอยู่เคียงข้างเธอไปตลอดชีวิต ความสิ้นหวังที่เธอเคยรู้สึกเมื่อสองปีก่อนเหมือนหนอนที่ชอนไชหัวใจที่ด้านชาของเธอในตอนแรก วิเวียนอดไม่ได้ที่จะโอบแขนกอดตัวเอง เธอลงนั่งยองๆ ขณะที่ขดตัวเป็นก้อนกลม หนาว... มันหนาวเหลือเกิน... เธอรู้สึกหนาวจนร่างกายสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นตลอดทั้งคืน เมื่อสองปีก่อน... ขณะที่เธอเกือบจะถูกความทรงจำและความรู้สึกปวดร้าวเข้าครอบงำ วิเวียนก็จับภาพของรถวีลแชร์และขาคู่ยาวที่มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอในทันใด สมองของวิเวียนเหมือนหยุดทำงาน เธอเห็นฟินนิคอยู่ต่อหน้าเธอ ขณะที่โนอาห์ถือร่มอยู่ข้างเขา เนื่องจากน้ำฝนที่เทกระหน่ำลงมาทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาดูรางเลือน แม้กระนั้น ท่าทีเย็นชาของเขายังคงเห็นได้ชัดเจน แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนวีลแชร์ แต่รูปลักษณ์ในเวลานี้ของเขาเปรียบเหมือนเทพบุตรที่ลงมายังโลก ความโศกเศร้าที่วิเวียนรู้สึกสลายไปทันที ขนตาของวิเวียนกระพริบถี่ ฟินนิคเหรอ "ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่" ฟินนิคก้มหน้าลงและจ้องไปที่วิเวียนซึ่งนั่งยองๆ อยู่บนพื้น จากนั้นน้ำเสียงของเขาแฝงความโกรธโดยไม่รู้สาเหตุ “คุณเปียกฝนใช่ไหม” ในเวลานั้นเองที่วิเวียนกลับคืนสติได้ในที่สุด เธอพยายามตะเกียกตะกายยืนขึ้น แต่จู่ๆ ภาพที่เธอเห็นก็ดับวูบในขณะที่เธอหมดสติไปในไม่ช้า ฟินนิครีบคว้าตัววิเวียนไว้อย่างตื่นตระหนก ขณะพยายามไม่ให้เธอล้ม เมื่อเขารู้สึกว่าผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาดูตัวอุ่นผิดปกติ สายตาของเขาก็ดูเคร่งขรึม ขณะที่จ้องมองไปที่รอยฟกช้ำที่ฟาเบียนทิ้งไว้บนคางของวิเวียน แววอาฆาตมาดร้ายก็ฉายผ่านดวงตาของเขา “กลับบ้านกันเถอะ” สีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยหายวับไป ในไม่ช้าฟินนิคก็แสดงท่าทีเฉยเมยตามปกติ เขากอดวิเวียนไว้และเลื่อนวีลแชร์ไปที่รถเบนท์ลีย์สีดำซึ่งจอดอยู่ข้างทาง รถของฟินนิคจอดแอบอยู่ที่มุมข้างสถานีรถไฟ เนื่องจากน้ำหนักของทั้งตัวเขาเองและวิเวียน ฟินนิคพบว่ารถวีลแชร์ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นเหมือนเคย "คุณนอร์ตัน” โนอาห์อดไม่ได้ที่จะเสนอตัว “ให้ผมช่วยคุณนะครับ” “ไม่จำเป็นหรอก” ฟินนิคปฏิเสธข้อเสนอของเขาทันทีโดยไม่ลังเล จากนั้นเขาก็จัดท่าของวิเวียนในอ้อมแขนเป็นท่าอุ้มใน ขณะที่เขาลุกขึ้นจากอาทันที... ห้องนั้นมืดสนิท ร้อน... ร้อนจัง... ร้อนจนรู้สึกเหมือนจะไหม้... วิเวียนคร่ำครวญอย่างไม่สบายตัวที่สุด จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าเธอถูกวางลง ไม่นานก็มีบางสิ่งเย็นๆ มากดทับที่ผิวหนังของเธอ วิเวียนพยายามกอดวัตถุเย็นๆ นั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เธอก็ได้ยินเสียงหอบของชายคนหนึ่ง มีบางอย่างผิดปกติ จากนั้นความคิดที่ยุ่งเหยิงของวิเวียนก็ค่อยชัดเจนขึ้น ขณะที่เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะลืมตา ภาพพร่ามัวของชายคนหนึ่งก็ปรากฏในสายตาของเธอ เธอพยายามอย่างหนักที่จะผลักชายที่คร่อมอยู่เหนือตัวเธอ โชคร้ายที่เขาไม่ขยับเขยื้อนเลย ราวกับภูเขาลูกใหญ่ก็ไม่ปาน “โอ๊ย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลุ้นรักนางสาวซินเดอเรลล่า
มาต่อเร็วๆนะคะ สนุกมากก...