บทที่ 134 รายชื่อของคนตาย
“เซ่าฟึง! ภรรยาของคุณชายเฉิน ได้ยั่วนายหรือไม่?!” ตู้จื่อถึงจับจ้องไปยังโจวเซ่าฟึงด้วยความเลือดเย็นแล้วถามขึ้น นัยน์ตาที่ดูข่มขู่นั้นไม่ต้องบอกก็รู้ เฉินเฟิงไม่พูดอะไร ตู้จื่อถึงก็แน่นอนว่าต้องนึกว่าเฉินเฟิงกำลังจะช่างน้ำหนักกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ดังนั้นเขาจึงได้เอาโจวเซ่าฟึงมาเป็นตัวพิสูจน์ว่าเรื่องนี้มันเป็นความจริง และคิดจะเข้าข้างฝั่งเขา
โจวเซ่าฟึงจึงรีบพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใช่ครับ พี่ถึงภรรยาของคุณชายเฉิน เธอมีใจให้ผมจริงๆ ตอนที่เพิ่งถึงเขตล่าสัตว์ป่า เธอส่งสัญญาณให้ผมว่าเธออยากจะเป็นกิ๊กกับผม แล้วยังบอกให้ผมให้เงินเธอใช้เป็นจำนวนหนึ่งแสน”
โจวเซ่าฟึง
เฉินเฟิงเหลือบตามองโจวเซ่าฟึงด้วยสายตาที่นิ่งเฉย และตอนนี้รายชื่อนี้ ก็ได้เพิ่มอยู่ในรายชื่อของคนที่ตัวเองจะฆ่า
ตู้จื่อถึงพยักหน้าด้วยความพอใจ แล้วรู้สึกว่าโจวเซ่าฟึงถือเป็นที่ฉลาด
“คุณชายเฉิน ตอนนี้เรื่องนี้ก็ได้ชัดเจนไปแล้ว คุณผู้หญิงของคุณยั่วสามีของจื่อเยว่ก่อน จื่อเยว่ถึงได้โยนคุณผู้หญิงของคุณไปยังฝูงหมาป่าอยู่ ต่อให้จื่อเยว่เองก็มีความผิด ทว่าคุณผู้หญิงของคุณก็ยากที่จะหลุดพ้นความผิดอยู่เหมือนกัน” ตู้จื่อถึงทำสีหน้าที่กำลังเปิดโปงเรื่องนี้อย่างเปิดเผย
“แล้วยังไง?” เฉินเฟิงพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
“แล้วไง?” ตู้จื่อถึงกระตุกคิ้วขึ้น แล้วพูดขึ้น “จากนั้นคุณชายเฉินก็ได้สั่งสอนจื่อเยว่ไปแล้ว งั้นเรื่องนี้ก็ถือว่าแล้วๆ ไปเถอะ อย่างน้อยคุณผู้หญิงของคุณก็ได้รับบาดเจ็บ ผมเองก็ต้องขอโทษ อีกอย่าง ผมก็สามารถเอาเงินหนึ่งล้านออกมา เพื่อเป็นการทำขวัญให้กับคุณผู้หญิงของคุณ”
หนึ่งล้าน?!
สายตาของคนไม่น้อยเปล่งประกายแสงขึ้น เสี้ยเมิ่งเหยาได้รับบาดเจ็บแค่นั้น แค่ใช้เงินมากสุดก็สองแสนก็สามารถรักษาให้หายได้แล้ว ทว่าตู้จื่อถึงกลับให้เงินหนึ่งล้าน ใจป้ำจริงๆ
“พี่? นี่พี่หมายความว่าอะไร? หรือว่าจะปล่อยไอ้สารเลวต่ำๆ นี่ไป?” “ตู้จื่อเยว่ฟังคำพูดนี้ ก็รู้สึกโกรธมากๆ หรือว่าตู้จื่อถึงไม่เห็นหรือไง? แล้วยังจะให้ค่าทำขวัญกับเสี้ยเมิ่งเหยาอีกหนึ่งล้าน!
จะมีเหตุผลไหนกัน? ตู้จื่อเยว่รู้สึกว่า เวลานี้ตู้จื่อถึงฆ่าเฉินเฟิงและเสี้ยเมิ่งเหยาก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ทำเกินไป แล้วยังจะให้เงินเฉินเฟิงเพื่อเสียค่าทำขวัญอีก
ตู้จื่อถึงขมวดคิ้วขึ้นแล้วพูดขึ้น “จื่อเยว่ คุณชายเฉินเป็นเพื่อนของพี่ เรื่องนี้พี่ต้องให้หน้าเขา ถือว่าให้มันผ่านไปแบบนี้แล้วกัน”
หยางไท่ส่ายหัว เขาไม่รู้ว่าจะพูดยังไงจริงๆ แล้ว ตู้จื่อถึงไอ้โง่คนนี้ ตอนนี้กลับอยากจะปล่อยเฉินเฟิงไป และไม่ได้ยกโทษให้เฉินเฟิง คนแบบนี้ โตป่านนี้แล้ว ถ้าไม่ได้ตายเพราะความโง่ ก็คงเป็นเรื่องที่อัศจรรย์มากแล้ว
“แต่ว่า พี่......” ตู้จื่อเยว่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย และรู้สึกว่าถ้าปล่อยเฉินเฟิงไปแบบนี้ง่ายๆ ก็คงจะง่ายเกินไปสำหรับเฉินเฟิง
“เชื่อฟังหน่อยน่ะ!” ตู้จื่อถึงจ้องหน้าตู้จื่อเยว่ ไหนๆ เฉินเฟิงก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง อีกอย่างถ้าไม่ให้หน้าพระสงฆ์ก็ควรจะให้หน้าพระพุทธเจ้าบ้าง ยังไงเขาก็ให้หน้าหยางไท่อยู่แล้ว
“ได้” ตู้จื่อเยว่เบะปากอย่างไม่พอใจ และสายตาจับจ้องไปยังเฉินเฟิง แล้วพูดด้วยความโหดเหี้ยม “ไอ้บ้านนอก นี่ถือว่าแกโชคดีมากๆ ที่มาเจอพี่ชายฉันช่วยไว้ ครั้งหน้าถ้าแกยังกล้ากวนใจกูอีก ต่อให้เป็นใครหน้าไหนก็คงไม่มีทางช่วยแกไว้ได้อีก!”
“ไม่มีครั้งหน้าหรอก” เฉินเฟิงส่ายหน้า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เห็นอกเห็นใจ
“เฉินเฟิง หมายความว่าอะไร?” ตู้จื่อถึงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ตัวเองใจกว้างขนาดนี้แล้วไม่ได้ไปเรียกร้องอะไรจากเฉินเฟิงที่ตบหน้าน้องสาวของตัวเอง ทำไมฟังจากน้ำเสียงของเฉินเฟิง เขายังจะหาเรื่องน้องสาวตัวเองอีก
เฉินเฟิงไม่ได้ถามกลับตู้จื่อถึง แล้วถามด้วยเสียงนิ่งเฉย “คนของตระกูลตู้ มีทายาททั้งหมดกี่คน?”
ตู้จื่อถึงยิ่งจับต้องไม่ถูก ทว่ากลับอดทนกับความโมโห แล้วตอบกลับ “ตระกูลตู้มีทายาทั้งหมดสามสิบแปดคน คุณชายเฉินมีอะไรหรอ?”
เฉินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วหันไปมองหยางไท่เพียงพริบตาเดียว จากนั้นก็พูดขึ้น “กลับไปต่อเงิน 38 ล้านให้ตระกูลตู้ด้วย”
หยางไท่รู้สึกเปลือกตากระตุกทันที แล้วจึงพยักหน้าอย่างร้อนใจ ทว่าแผ่นหลังของเขารู้สึกหนาวเย็น แน่นอนว่าเขาต้องเข้าใจ คำพูดนี้ของเฉินเฟิงหมายความว่าอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...