บทที่174 กูชื่อหลินหลัน
หวางเหมยพยักหน้า และพูดอย่างแน่ใจ “ฉันดูไม่ผิด เมิ่งเหยาลงมาจากวิลล่าของภูเขาจริงๆ”
“แต่ว่า หลินหลัน ฉันได้ยินคนบอกว่าวิลล่าบนยอดเขายู่ฉวนซานนั้น ชุดหนึ่งน้อยสุดก็ต้องสองสามร้อยล้านเลยนะ อีกอย่างวิลล่าของที่นั่นก็มีแค่ตระกูลชื่อดังแถวหน้าถึงจะมีสิทธิ์ซื้อได้.......” พูดถึงตรงนี้ หวางเหมยหยุดไปครู่หนึ่ง ไม่ได้ต่ออีก แต่ว่าความหมายของเธอเห็นได้ชัดมากว่าเสี้ยเมิ่งเหยาไม่มีทางมีเงินสองสามร้อยล้าน ถึงมี ตระกูลเสี้ยก็เป็นแค่ตระกูลที่มีชื่อเสียงรองลงมา ไม่มีสิทธิ์พักที่ยอดภูเขาของยู่ฉวนซาน
ดังนั้นวิลล่าไม่มีทางเป็นของเสี้ยเมิ่งเหยา
วิลล่าไม่ใช่ของเสี้ยเมิ่งเหยา แต่เสี้ยเมิ่งเหยากลับพักที่วิลล่าไปคืนหนึ่ง ในนี้มีลับลมคมในอะไรก็เห็นได้อย่างชัดเจนมากแล้ว............
หลินหลันเองก็ดึงสติกลับมา จากนั้นก็มองหวางเหมยและพูดด้วยความสงสัย :“ความหมายของเธอคือ ลูกสาวของฉันมีความสัมพันธ์กับเจ้าของวิลล่าคนใดคนหนึ่งในนั้นเหรอ?”
“คงจะไม่ใช่แค่มีความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายเฉยๆมั้ง?” หวางเหมยยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้งแอบแฝง เสี้ยเมิ่งเหยาก็พักอยู่บนเขาไปคืนหนึ่งแล้ว ถ้าบอกว่าเธอกับเจ้าของวิลล่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรกัน ใครจะไปเชื่อ? อย่างไรก็ตามเสี้ยเมิ่งเหยาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่สวยที่สุดในชางโจวเชียวนะ
ถึงแม้หวางเหมยไม่ได้พูดตรงๆ แต่หลินหลันก็ไม่ได้โง่ เธอย่อมเข้าใจอยู่แล้ว ความหมายของหวางเหมยคือ เสี้ยเมิ่งเหยาอาจจะถูกคนบนเขาเลี้ยงดูแล้ว
แต่เมื่อวานเสี้ยเมิ่งเหยายังทำเพื่อเฉินเฟิงจะเป็นจะตายกับเธอ ทำไมแค่พริบตาเดียวก็เข้าไปอยู่ในอ้อมอกของคนอื่นแล้ว?
“หวางเหมย เธอว่าเป็นไปได้มั้ยที่ลูกเขยฉันเป็นคนซื้อวิลล่าบนภูเขาหลังนั้น ?” หลินหลันขมวดคิ้วถาม แต่พอพูดออกมาปุ๊บ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองต้องน้ำเข้าสมองแน่ๆเลย คนไม่เอาไหนอย่างเฉินเฟิงจะมีปัญญาซื้อวิลล่าหลังละสองสามร้อยล้านหรือ?
“ลูกเขยเธอเนี่ยนะ?” หวางเหมยแบะปากและพูด : “หลินหลัน เธอเองก็บอกแล้วว่าเขาเป็นคนไม่เอาไหน จะเป็นเขาได้ยังไง ถ้าให้ฉันพูดนะ เมิ่งเหยาลูกสาวเธอต้องจับคนรวยได้แน่ๆเลย”
หลินหลันพยักหน้า ถึงแม้คำพูดของหวางเหมยฟังดูไม่เข้าหู แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงจริงๆ เสี้ยเมิ่งเหยา อาจจะจับคนรวยที่วิลล่าบนภูเขานั้นได้แถมยังไปเป็นเมียน้อยคนอื่นด้วย
ทันใดนั้นอารมณ์ของหลินหลันทั้งดีใจและกังวล
ที่กังวลคือ เพราะอย่างไรซะขึ้นชื่อว่าเมียน้อยชื่อเสียงก็ย่อมไม่ดีอยู่แล้ว ถ้าแพร่ออกไปเธอจะไม่มีหน้า
ที่ดีใจคือ เสี้ยเมิ่งเหยาเป็นเมียให้กับมหาเศรษฐีของวิลล่าที่ยู่ฉวนซาน
มหาเศรษฐีที่สามารถเข้าพักที่ยู่ฉวนซาน ตำแหน่งฐานะไม่ต้องพูดเยอะ แค่ฐานะทางการเงินก็ต้องมีเป็นหมื่นล้านขึ้นไปแน่นอน
เป็นเมียน้อยของมหาเศรษฐีแบบนี้ ค่าเลี้ยงดูของแต่ละเดือนอย่างน้อยก็ต้องหลายแสนอัพแน่นอน ได้เงินมากกว่าการไปทำงานที่เหนื่อยแทบเป็นแทบตายกว่าเยอะ
คิดถึงตรงนี้ หลินหลันก็ไม่กังวลแล้ว ไม่มีหน้าจะถือว่าอะไรเชียว ก็แค่มีเงินใช้ก็พอแล้ว
“หลินหลัน หรือว่าเธอโทรถามเมิ่งเหยา ถามดูซิว่าอะไรกันแน่?” หวางเหมยพูดหว่านล้อม แม่ดูสูงส่งเพราะความสูงส่งของลูก เสี้ยเมิ่งเหยาจับคนรวยได้ ชีวิตลำบากของหลินหลันผู้มีแม่ท่านนี้ก็ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ถ้าหลินหลันเจริญรุ่งเรืองแล้ว แล้วยังจะลืมเธอได้รึไง?
“ได้ ฉันลองโทรไปถามดู” ระหว่างพูด หลินหลันก็หยิบมือถือออกมา และหาเบอร์ของเสี้ยเมิ่งเหยา
แต่หลังจากโทรออกไป กลับได้ยินเสียงแจ้งปิดเครื่องของเสี้ยเมิ่งเหยา
“ปิดเครื่อง......” หลินหลันขมวดคิ้ว ทำไมถึงปิดเครื่องไปแล้วล่ะ? ปกติเสี้ยเมิ่งเหยาไม่ค่อยชอบปิดเครื่องเลยหนิ่
“ปิดเครื่องเหรอ?” หวางเหมยตะลึง จากนั้นก็พูดต่อว่า:“ในเมื่อปิดเครื่อง งั้นเราลองไปถามดูที่บนเขา ดูซิว่าจะถามได้ความอะไรบ้างหรือเปล่า?”
“ได้” หลังจากลังเลไปสักพัก หลินหลันพยักหน้าอย่างจริงจัง เธอจะต้องสอบถามให้ได้เรื่องก่อน ว่าเสี้ยเมิ่งเหยาไปเป็นเมียน้อยให้มหาเศรษฐีคนไหน แล้วค่อยทำการตัดสินใจ ถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้มีหน้ามีตาของชางโจว งั้นแต่ละเดือนก็สามารถให้เสี้ยเมิ่งเหยาขอเงินเยอะๆหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...