บทที่188 ในนามของฉัน – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกเขยมังกร
ตอนนี้ของ ลูกเขยมังกร โดย เมฆทอง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่188 ในนามของฉัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่188 ในนามของฉัน
หลังจากที่เฉินเฟิงและเสี้ยเมิ่งเหยาเดินออกไป เหล่าพนักงานและญาติๆทั้งหลายของตระกูลเสี้ยก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกันขึ้นมา
“ท่านประธานนับวันยิ่งไม่ฉลาดขึ้นมาเรื่อยๆจริงๆ คิดว่าไอ้เศษสวะอย่างเฉินเฟิงผู้นั้นจะสามารถเอาโครงการพวกนั้นมาจากตระกูลเย่ได้งั้นหรอ”
“ใช่ๆ ฉันว่านะไอ้เศษสวะเฉินเฟิงคนนี้ แม้แต่ประตูตระกูลเย่ก็คงไม่มีปัญญาเข้าไปได้หรอก”
“ไม่มีปัญญาเข้าประตูตระกูลเย่มันเรื่องเล็ก แต่เกรงว่าตระกูลเย่เอาความไม่พอใจมาลงกับพวกเรานี่สิ เพราะถึงอย่างไรไอ้เศษสวะคนนั้นก็เป็นเพียงแค่คนขับรถส่งของ ถ้าตระกูลเย่รู้ว่าพวกเราตระกูลเสี้ยส่งคนส่งของไปเจรจาขอโครงการนั้นคืน แล้วพาลโกรธขึ้นมาจะทำยังไง?”
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ถ้าตระกูลเย่พาลโกรธขึ้นมา พวกเราก็ปัดความรับผิดชอบพวกนี้ไปให้ไอ้เศษสวะคนนั้นสิ ก็แค่บอกว่ามันคิดเองทำเอง ไม่เกี่ยวกับพวกเราตระกูลเสี้ย”
“ใช่ ถึงยังไงไอ้เศษสวะคนนั้นมันก็อยากแยกตระกูลเสี้ยออกไปอยู่แล้วนี่”
“ตระกูลเสี้ยอะไรกัน อย่ามาดูถูกสกุลเสี้ยสกุลนี้นะ!”
“ใช่ พวกเราตระกูลเสี้ย ไม่มีวันที่จะเอาลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลมาเป็นผู้นำแน่!”
เสี้ยหยุนเสิ้งอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายใจออกไป บทสนทนาของคนกลุ่มนั้นแน่นอนว่าเขาได้ยินมันทั้งหมด ไม่คิดเลยว่า เฉินเฟิงไม่ยังทันได้ไปเจรจาขอโครงการพวกนั้นกับตระกูลเย่ เลย แต่คนพวกนี้ก็ได้คิดไปถึงว่าถ้าเฉินเฟิงทำไม่สำเร็จจะผลักภาระความรับผิดชอบยังไงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มีไอ้พวกโง่เง่าแบบนี้อยู่ที่ตระกูลเสี้ย ก็ไม่แปลกที่เฉินเฟิงจะเสนอเรื่องการแยกตระกูลเสี้ยออกไป
“จื่อหลัน จากนี้ไปตำแหน่งรองประธานบริษัท ก็ให้แกมารับหน้าที่นี้ไป” เสี้ยหยุนเสิ้งมองไปยังเสี้ยจื่อหลันพร้อมทั้งเอ่ยออกไป เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้ว แน่นอนว่าไม่อาจปล่อยให้เสี้ยห้าวทำหน้าที่เป็นรองประธานบริษัทต่อไปได้อีก ถึงแม้ว่าเสี้ยจื่อหลันจะมีความสามารถไม่มากพอ แต่ทำได้เพียงแค่ให้เธอรับตำแหน่งไปชั่วคราวก่อนเท่านั้น
“ค่ะ คุณปู่!” เสี้ยจื่อหลันมีสีหน้ายินดีออกมา รีบพยักหน้าตอบรับออกมาอย่างรวดเร็ว
“ส่วนไอ้เหี้ยคนนี้...” เสี้ยหยุนเสิ้งมองเสี้ยห้าวไปอย่างเย็นชา ไม่นานก็เอ่ยออกไปด้วยเสียงนิ่งขรึม “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่อนุญาตให้รับตำแหน่งใดๆในบริษัทอีกต่อไป!”
ไม่อนุญาตให้รับตำแหน่งใดๆในบริษัทอีกต่อไป?!
ทุกคนเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ต่างก็ช็อกตกใจกันออกมา การกระทำนี้ของเสี้ยหยุนเสิ้ง ไม่ต่างกับการประกาศถอดเสี้ยห้าวออกจากสถานะทายาทผู้สืบทอดตระกูลเสี้ยเลย!
จับเสี้ยห้าวเข้าตำหนักเย็นไปอย่างไม่อ้อมค้อม!
เดิมเคยคิดว่าการที่เสี้ยห้าวจะได้กลายเป็นทายาทคนต่อไปของตระกูลเสี้ยนั้น เป็นเรื่องที่ตัดสินใจลงไปอย่างแน่นอนไม่เปลี่ยนไปจากนี้อีกแล้ว เพราะถึงอย่างไรในรุ่นที่สามของตระกูลเสี้ย เสี้ยห้าวก็เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว
แต่ตอนนี้ เรื่องกลับพลิก
ถ้าเสี้ยห้าวสูญเสียสถานะทายาทไป อย่างนั้นคนอื่นก็มีโอกาสน่ะสิ!
สายตาของหลายๆคนเกิดความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเผยออกมาทันที...
แต่เสี้ยห้าวนั้นกลับก้มหน้า มุมปากก็เผยรอยยิ้มเย็นออกมา ไอ้พวกโง่ ไม่ได้รับความเห็นชอบจากบิดา พวกแกก็ยังหวังจะสืบทอดตระกูลเสี้ย?
ฝันไปเถอะ!
หลังจากที่เสี้ยหยุนเสิ้งเดินออกไป เสี้ยห้าวก็ลุกขึ้นแล้วหันร่างเดินออกไป โดยที่ไม่ได้มองหวังยุนน่าที่มีสายตาอาฆาตแค้นออกมาเลยแม้แต่น้อย
หลังจากกลับมาบ้าน เสี้ยห้าวก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเป็นอย่างแรก จากนั้นก็ต่อสายไปยังเบอร์ของเย่หมิงเหวิน
“ผู้จัดการเย่...”
“เอาล่ะ ยาที่เด็กอย่างนายพูดถึงนั้น มันมีแน่ แต่ราคา...” เย่หมิงเหวินหยุดไปแป๊บนึง จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า “แต่มันไม่ได้ราคาถูก!”
“เท่าไหร่ครับ?” เสี้ยห้าวกลืนน้ำลาย แล้วเอ่ยถามออกไป
“ล้านนึง!” เย่หมิงเหวินพูดเอื่อยๆออกมา
“ล้านนึง?!” เสี้ยห้าวร้องตกใจออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ทำไมถึงได้แพงขนาดนี้
“แพงไป?” เย่หมิงเหวินแค่นเสียงเย็นออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ไม่แพงครับ ไม่แพง” เสี้ยห้าวรีบส่ายหน้าปฏิเสธออกไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งล้านเขายังพอจ่ายไหวอยู่
“กูบอกนายเอาไว้นะว่า ยาพวกนี้เป็นยาที่นำเข้ามาจากทางยุโรปเลยนะ ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน และเมื่อใช้แล้วคนอื่นก็ไม่สามารถสืบหาเบาะแสใดๆได้” เย่หมิงเหวินพูดในสิ่งที่อีกฝ่ายคิดออกมา อย่างยาที่ไม่สามารถตั้งขายได้จำพวกนี้ ทุกปีในตลาดมืดจะมีขายออกไปหลายสิบขวด ผู้ซื้อส่วนใหญ่ล้วนเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตากันในเมืองชางโจวด้วยกันทั้งนั้น ส่วนการนำไปใช้...ยังไงก็ไม่มีทางที่จะใช้กับร่างของตัวเองกันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆกันกับเสี้ยห้าว สิ่งที่คนเหล่านี้กลัวมากที่สุดก็คือ ถูกคนอื่นสืบเจอ
“โอเคครับ ผู้จัดการเย่ รบกวนคุณจัดให้ผมชุดนึงนะครับ! หลังจากเรื่องนี้สำเร็จลง ฉันจะขอบพระคุณอย่างสูงเลยครับ” เสี้ยห้าวกัดฟันออกมาเล็กน้อย เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว เขาไม่มีที่ให้ถอยอีกแล้ว จำต้องสู้ต่อไปอีกสักตั้ง
“ดี บิดาจะรอสิ่งตอบแทนจากนาย” ใบหน้าของเย่หมิงเหวินแทบจะยิ้มหน้าบานออกมา เขาค้นพบว่าเสี้ยห้าวนี่ช่างเป็นเด็กให้ทรัพย์ของเขาจริงๆ ตั้งแต่ที่ได้รู้จักเสี้ยห้าวมา ก็มีเงินเข้าบัญชีของเขาไม่เคยขาดเลย
ทางอีกด้านหนึ่ง เฉินเฟิงและเสี้ยเมิ่งเหยาก็ได้กลับมายังบริเวณบ้านพักตากอากาศที่ยู่ฉวนซานเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากที่ได้เข้าไปในบ้านพักตากอากาศแล้วนั้น เฉินเฟิงก็ได้โทรหากู้ตงเชินทันที
“ให้แจ้งตระกูลเย่แล้วก็ยังมีอสังหาริมทรัพย์ซานสุย อสังหาริมทรัพย์คังยูน...ออกไปในนามของฉันว่า พรุ่งนี้ให้พวกเขาส่งคนมาที่วิลล่ากู่โย่วกันหน่อย” เฉินเฟิงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม นอกจากตระกูลเย่ แล้ว เสี้ยห้าวก็ยังขายโครงการที่ยู่ฉวนซานออกไปให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์อีกหลายบริษัท บริษัทอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ล้วนเป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการอสังหาริมทรัพย์แห่งชางโจวด้วยกันทั้งสิ้น ในหมู่พวกเขาก็มีหลายบริษัทที่เบื้องหลังมีตระกูลใหญ่ลำดับสองคอยสนับสนุนอยู่ พรุ่งนี้เขาจะต้องจัดการแก้ไขปัญหานี้ไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...