อ่านสรุป บทที่202 เติ้งซื่อชี จาก ลูกเขยมังกร โดย เมฆทอง
บทที่ บทที่202 เติ้งซื่อชี คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต ลูกเขยมังกร ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมฆทอง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่202 เติ้งซื่อชี
“คุณเฉิน คุณหนีไปเถอะ ดีที่สุดหนีไปต่างประเทศเลย แบบนี้ซูนแช่ก็หาคุณไม่เจอแล้ว”
“คุณคิดง่ายเกินไปแล้ว หากพวกเขาอยากฆ่าใครสักคนจริง ถึงคนจะหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว พวกเขาก็หาเจอจนได้” เฉินเฟิงตอบด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว
“งั้นจะทำยังไงดี?” จูเจียเหยียนมองเฉินเฟิงอย่างกังวลอยู่บ้าง
“แข็งชนแข็ง” เฉินเฟิงยิ้มบอก “ไม่เป็นพวกเขาตาย ก็เป็นผมตาย หนีก็ไม่อาจจะหนีรอด ชาตินี้ล้วนไม่อาจหนีได้”
จูเจียเหยียนถลึงตาใส่เฉินเฟิงอย่างอารมณ์เสีย ยังคิดว่าเฉินเฟิงจะพูดวิธีที่ดีอะไรออกมาได้บ้าง ปรากฏว่าเป็นแข็งชนแข็ง คุณที่ขับรถอาวดี้จะเอาอะไรมาชนกับตระกูลร่ำรวยอย่างตระกูลซูนได้
หลังจากทั้งสองทานอาหารเช้าเสร็จ จูกว่างฉวนถึงลุกขึ้น พอเห็นเฉินเฟิง จูกว่างฉวนก็ยิ้มทักทายมา
เขาไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ที่เขายังไม่ได้มา เกิดเรื่องที่เฉินเฟิงกับซูนแช่ปะทะกันขึ้น
เฉินเฟิงย่อมจะไม่พูดอยู่แล้ว
แบบนี้หลังทั้งสามคนทานอาหารเช้าเสร็จ ก็มาถึงที่สนามแข่งรถแล้ว
การแข่งซูเปอร์คาร์ดำเนินการสิบโมงตรง ถึงแม้ยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าจะเริ่มต้น แต่ที่สนามแข่งรถก็มีรถหรูสารพัดมาจอดเต็มแล้ว เฟอร์รารี่แลมโบกินีรถแข่งระดับเข้าขั้นแบบนี้ เป็นธรรมดาที่จะนับไม่ถ้วน
เฉินเฟิงยังมองเห็นบูกัตติกับเคอนิกเส็กก์ที่แต่งมาสองสามคัน
คนที่สามารถขับรถเทพแบบนี้ได้ ย่อมเป็นลูกคนรวยระดับสูงสุดของเมืองชางโจวและหนานหนิง
ข้างกายลูกคนรวยเหล่านี้ล้อมรอบไปด้วยนางแบบและดาราไม่น้อย และสุนัขรับใช้ด้วย เต็มไปทั้งใจกลางของสนามแข่งรถ
แต่ทว่าเฉินเฟิงก็ไม่ได้ติดตามคนพวกนี้มากไปนัก เขาอยากรู้ว่าเย่ไห่ถังอยู่ที่ไหน
“เพื่อนเฉินเฟิง นายหาใครน่ะ?” เวลานี้ จูกว่างฉวนยิ้มกริ่มตบๆ ไหล่ของเฉินเฟิง
เฉินเฟิงส่ายหน้าแล้วยิ้มตอบ “ไม่ได้หาใคร”
“หึ” จูกว่างฉวนเบ้ปากบอกว่า “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ นายกำลังหาราชินีเย่”
เฉินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น จูกว่างฉวนคนนี้ ยังไม่ไว้หน้าให้ใครจริงๆ เลย
“ฉันเตือนนายอย่าหาเลย ราชินีเย่จะไม่ปรากฏตัววันนี้ การแข่งซูเปอร์คาร์ในวันนี้ เธอไม่สนใจ การแข่งมืออาชีพในวันพรุ่งนี้ เธอถึงจะปรากฏตัว” จูกว่างฉวนบอกไป
“นายอย่ามองว่าราชินีเย่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ฝีมือขับรถของเธอนั้นไม่ใช่แค่เปลือก ฉันเคยดูคลิปการแข่งขันเอเชียซับมิทหลายปีก่อนของเธอมา แค่สี่คำนี้เลย มองไม่เห็นฝุ่น! ตอนนั้นเธอทำเอาพวกนักแข่งทั้งหมดของญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้พวกนั้นทารุณจนร้องน่าเวทนา นักแข่งของญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้พวกนั้น แม้แต่ควันไอเสียของเธอต่างก็ไม่ได้กิน”
“ดังนั้นการแข่งซูเปอร์คาร์ในวันนี้ ราชินีเย่ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว สำหรับราชินีเย่การแข่งของลูกคนรวยพวกนี้ก็เหมือนกับเด็กเล่นพ่อแม่ลูกกัน” พูดถึงเย่ไห่ถัง จูกว่างฉวนนั้นพูดน้ำไหลไฟดับ ในฐานะแฟนคลับตัวยงของเย่ไห่ถัง เขาเกือบเคยดูการแข่งขันจำนวนมากของเย่ไห่ถัง ดังนั้นจึงชัดเจนในฝีมือของเย่ไห่ถัง ลูกคนรวยตรงหน้าเหล่านี้เทียบกับเย่ไห่ถัง เดิมทีก็ไม่ใช่ระดับเดียวกัน
เฉินเฟิงพยักหน้า เย่ไห่ถังเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง สามารถนำการแข่งรถเล่นมาได้ถึงขั้นนั้น ช่างน่ายกย่องจริงๆ
“เฮ้ย ซูนแช่เจ้าหมานั้นทำไมเอาแต่มองมาทางพวกเรา?” จูกว่างฉวนถามขึ้นทันใด ซูนแช่ยืนอยู่ห่างจากพวกเขาไม่ไกลนัก แต่ไม่เหมือนกับพวกเขาทางนี้ ที่ข้างกายของซูนแช่ล้อมรอบด้วยคนกลุ่มใหญ่ ในนั้นมีนางแบบสาวหุ่นเซ็กซี่ไม่น้อยอยู่ แม้กระทั่งยังมีดาราสวยระดับรองคนหนึ่ง
แต่ว่าสายตาของซูนแช่กลับตกที่ทางพวกเขามาโดยตลอด นี่ทำให้จูกว่างฉวนไม่เข้าใจเอามากๆ
เฉินเฟิงส่ายหน้า เขารู้แค่ว่าหนานหนิงเป็นเขตเมืองที่ความสามารถด้านเศรษฐกิจซึ่งมีมากมายมหาศาลยิ่งกว่าเมืองชางโจว แต่สำหรับผู้มีอิทธิพลของหนานหนิงกลับไม่รู้ทั้งหมด”
“เพื่อนเฉินเฟิง หนานหนิงกับเมืองชางโจวของพวกเราไม่เหมือนกัน พวกเราชางโจว ที่เรียกว่าเป็นตระกูลชั้นหนึ่งมี**ตระกูล แต่หนานหนิง ตระกูลที่เป็นชั้นหนึ่งอย่างจริงจัง มีเพียงสามตระกูล”
“ตรระกูลเติ้ง ก็คือหนึ่งในนั้น!”
“หนานหนิงเป็นเมืองท่าเรือ แหล่งเศรษฐกิจหลักของเมืองคือการค้าขายทางทะเล ส่วนตรระกูลเติ้งก็ทำธุรกิจเดินเรือ ทั้งหนานหนิง มีเรืออยู่สองในสาม ล้วนเป็นที่ตรระกูลเติ้งทำ ที่หนานหนิง ตรระกูลเติ้งเป็นตระกูลขั้นเจ้าครองจักรวรรดิที่ภาคภูมิใจ
“ข่าวที่แพร่ออกมาสู่โลกภายนอกว่าทรัพย์สินของตรระกูลเติ้ง อาจจะถึงห้าหมื่นล้าน!” จูกว่างฉวนพูดอย่างเคร่งขรึม ห้าหมื่นล้านนี่คือตัวเลขที่ทั้งชาตินี้เขาไม่กล้าคิด เป็นเงินที่ตระกูลมากมายในเมืองชางโจวเดิมทีก็มีไม่ถึง
ถึงแม้ตระกูลเสิ่นจะเป็นตระกูลร่ำรวยที่สุด ทรัพย์สินทั้งหมดก็แค่ประมาณสามหมื่นล้าน
เฉินเฟิงไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้ ห้าหมื่นล้าน บางทีสำหรับจูกว่างฉวนอาจเป็นเงินมากมาย เป็นตรระกูลเติ้งที่ยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่สำหรับเขาแล้ว ก็เป็นเงินลงทุนโครงการหนึ่งเท่านั้นเอง
“แต่เงินของตรระกูลเติ้งก็เป็นอีกเรื่อง ที่สำคัญคือความสัมพันธ์ทางสังคมของตรระกูลเติ้ง หนานหนิงถิ่นเดิมแก๊งมังกรดำหนึ่งในห้าผู้มีอำนาจใหญ่ใต้ดินคืออิทธิพลที่ตรระกูลเติ้งบ่มเพาะมา สมาชิกแก๊งมังกรดำนับพัน หลายปีมานี้ ทั้งที่เห็นและไม่เห็น ขุดรากถอนโคนคู่แข่งให้ตรระกูลเติ้งไม่น้อย แม้กระทั่งหลายปีนี้ กรณีสังหารโหดยกครัวที่หนานหนิง ก็เกี่ยวข้องกับแก๊งมังกรดำ“
“เติ้งซื่อชี เป็นผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของตรระกูลเติ้ง ดังนั้นเขาจะหาเรื่องไม่ได้เด็ดขาด!”
จูกว่างฉวนทำหน้าจริงจัง เห็นได้ชัดมากว่าคำพูดนี้ของเขา พูดเพื่อให้เฉินเฟิงฟัง เขามองออกแต่แรกว่าเฉินเฟิงเป็นพวกที่ไม่อยู่นิ่ง หาเรื่องยั่วโมโหซูนแช่ ยังไม่แน่ว่าจะตาย แต่หาเรื่องเติ้งซื่อชีเข้านั้นต้องตายแน่ร้อยเปอร์เซ็นต์
“ฉันพยายามจะไม่หาเรื่องเขาแล้วกัน” เฉินเฟิงชายตามองเติ้งซื่อชีที่ผู้คนรายล้อมไว้แวบหนึ่ง บอกไป เขาก็ไม่ชอบหาเรื่องวุ่นวาย แต่ไม่ได้หมายความว่าเขากลัวความวุ่นวาย
“ไม่ใช่พยายาม แต่ต้องทำให้ได้” จูกว่างฉวนจำใจอยู่บ้าง เป็นความรู้สึกที่ตนเองพูดไปตั้งนาน แต่เฉินเฟิงไม่ได้ฟังเข้าหูสักคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...