ลูกเขยมังกร นิยาย บท 205

สรุปบท บทที่205 ขับรถกลางอากาศ: ลูกเขยมังกร

ตอน บทที่205 ขับรถกลางอากาศ จาก ลูกเขยมังกร – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่205 ขับรถกลางอากาศ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ลูกเขยมังกร ที่เขียนโดย เมฆทอง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่205 ขับรถกลางอากาศ

ตามมาด้วยเสียงลั่นไกปืน ในที่สุดการแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้น

รถแข่งสามสิบกว่าคันเสียงดังสะเทือนเลือนลั่นผสมปนเปกัน เสียงดังก้องจนหูแทบหนวกราวกับคลื่นโหมซัดกระหน่ำกระแทกแก้วหูของเหล่าผู้ชม

ทั้งสนามเริ่มคึกคัก!

ที่นำหน้าคือบูกัตติเวย์รอนสีน้ำเงินคันหนึ่ง เจ้าของรถเป็นเติ้งซื่อชีแน่นอน

ฝีมือการขับรถของเขาไม่ต้องสงสัยเลย ถึงแม้เทียบกับนักแข่งมืออาชีพยังเป็นแบบไม่มีที่ว่างให้หลบทัน แม้กระทั่งยังเก่งกาจกว่ามาก

เรื่องราวควรจะเป็นเช่นนั้น สายตาของผู้ชมทั้งสนามล้วนตกอยู่ที่บูกัตติเวย์รอนของเขา

บนที่นั่งผู้ชม หญิงสาวไม่น้อยกำลังกรีดร้องเสียงหลง กู่เสียงร้องเพื่อเชียร์เติ้งซื่อชีอย่างบ้าคลั่ง

แน่นอนว่ามีสายตาคนกลุ่มน้อยที่ตกอยู่บนแลมโบกินีสีขาวของซูนแช่และเฟอร์รารี่แคลิฟอร์เนียของเฉินเฟิง

โดยเฉพาะแคลิฟอร์เนียของเฉินเฟิงยิ่งเป็น “ตัวหลัก” ในวันนี้

เฉินเฟิงไม่ได้ทำให้ผู้ชมผิดหวัง ตั้งแต่เริ่มต้น เขารั้งท้ายทุกคนอยู่ กำลังคลานเป็นเต่าอยู่บนลู่แข่งรถ

ผู้ดำเนินรายการก็ไว้หน้าเฉินเฟิงมาก จงใจขยายฉากนี้ไว้บนจอสาธารณะ

ที่นั่งของผู้ชม ชั่วขณะนั้นเสียงถากถางก็ดังขึ้นแล้ว

“กายกรรมน่าอับอาย ฝีมือระดับนี้ยังกล้ามาเข้าร่วมการแข่งรถ”

“ไม่เจียมตัวมาพนันกับคุณชายซูน ไม่รู้จักคำว่าตายเขียนยังไงจริงๆ เลย”

ฟังเสียงด่าทอที่อยู่รอบด้าน จูเจียเหยียนอดถอนหายใจไม่ได้ เธอไม่มีความคาดหวังใดๆ ต่อเฉินเฟิงอีกแล้ว ระดับความเร็วแบบนี้ของเฉินเฟิง แม้แต่ควันไอเสียของซูนแช่ล้วนไม่ได้กิน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจะแซงซูนแช่เลย

จูกว่างฉวนหมดคำจะพูดอยู่บ้าง เขานึกไม่ถึงว่าเริ่มแรกเฉินเฟิงก็รั้งท้ายมากขนาดนี้ ทั้งสนามแข่ง ยาวทั้งหมดสามสิบกิโลเมตร ปัจจุบันนี้สถิติที่เร็วที่สุด คือห้านาทียี่สิบเอ็ดวินาที

ตอนนี้ผ่านมาใกล้หนึ่งนาทีแล้ว เติ้งซื่อชีที่นำขบวนวิ่งมาได้สี่กิโลกว่า ซูนแช่วิ่งมาได้เกือบสี่กิโลเมตร เฉินเฟิงนั้นแม้แต่หนึ่งกิโลเมตรยังวิ่งไม่เสร็จ ไม่ต้องสงสัยว่าเฉินเฟิงถูกทิ้งรั้งท้ายนั้น ไม่ได้เกินความคาดหมายนัก เขาวิ่งทั้งรอบยังต้องการเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง เรียกได้ว่าช้าสุดในประวัติการณ์

เป็นธรรมดาที่ซูนแช่กำลังติดตามเฉินเฟิงทั้งสนาม มองเห็นภายในซูเปอร์คาร์มากมายด้านหลัง เดิมทีไม่มีเงาของเฟอร์รารี่แคลิฟอร์เนียของเฉินเฟิงเลย ซูนแช่อดหัวเราะเยาะไม่ได้ ที่แท้ไม่เกินที่เขาเดาไว้ เฉินเฟิงพุ่งมาแพ้ตั้งแต่เริ่ม

เป็นของเสียที่แท้จริง!

ซูนแช่ค่อยๆ ปล่อยความเร็วรถเต็มที่ เขาอยากรอเฉินเฟิง

รอเฉินเฟิงตามขึ้นมา จากนั้นเหยียบย่ำเฉินเฟิงอย่างโหดเหี้ยมไปรอบหนึ่ง

สำหรับตำแหน่งชนะเลิศการแข่งขันซูเปอร์คาร์ เขาไม่ได้สนใจอะไร เพราะตำแหน่งชนะเลิศถูกเติ้งซื่อชีจองไว้แล้ว

เขาไม่ได้มีความกล้าแบบนี้ไปแย่งชิงตำแหน่งชนะเลิศกับเติ้งซื่อชี

เป้าหมายหลักของเขายังเป็นเฉินเฟิง!

เป็นธรรมดาที่ซูนแช่เริ่มตั้งใจควบคุมความเร็วรถ ทำให้แลมโบกินีของตนเองกดเหนือหน้าแคลิฟอร์เนียของเฉินเฟิงได้พอดี

แผนการของเขาคือไม่ว่าเฉินเฟิงขับเร็วแค่ไหน เขาล้วนจะรักษาความเร็วอยู่หน้ารถของเฉินเฟิงไว้

เหมือนแมวไล่จับหนู ทั้งที่แมวสามารถกินหนูได้ แต่ก็ไม่กิน

เขาอยากให้เฉินเฟิงแพ้ราบคาบในการแข่งขันครั้งนี้ภายใต้ความหมดหวัง!

ความคิดของซูนแช่งดงามมาก เฉินเฟิงก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีด้วย ควบคุมความเร็วรถเฟอร์รารี่แคลิฟอร์เนียไว้ตลอดมา

จะไม่ช้าเกินไป และไม่ถึงกับเร็วเกินไป

ไม่นาน บนจอภาพถนนแข่งก็ปรากฏภาพที่แปลกประหลาดหนึ่งขึ้น

แลมโบกินีสีขาวคันหนึ่งเหมือนกำลังเหยียบย่ำ นำหน้าเฟอร์รารี่แคลิฟอร์เนียด้านข้างมาตลอด

ระดับความเร็วของแคลิฟอร์เนียเปลี่ยนมาช้า แลมโบกินีก็ช้าตามด้วย

บูกัตติสีน้ำเงินของเติ้งซื่อชี ราวกับราชาที่ไร้ศัตรูท่านหนึ่ง นำขบวนทั้งสนาม ทิ้งห่างลำดับรองอยู่หกร้อยกว่าเมตรเต็มๆ

ทั้งสนามล้วนกู่ร้องอย่างบ้าคลั่ง

ตัดมาที่ซูนแช่กับเฉินเฟิง เวลานี้กลับมีคนติดตามน้อย เพราะการแพ้ชนะแข่งขันของสองคนไม่มีความน่าเป็นห่วงใดๆ

นี่เป็นแค่ความอัปยศอดสูของฝ่ายเดียวเท่านั้น

ทุกคนเพียงต้องการรอวินาทีประกาศผลนั้น เฉินเฟิงคลานไปรอบสนาม เลียนเสียงหมาก็พอ

ตอนที่ทุกคนล้วนคิดว่าเฉินเฟิงต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย ในที่สุดเฉินเฟิงก็นำมือมาวางไว้บนพวงมาลัยแล้ว

“ดูแล้วฝีมือขับกลางอากาศของตัวเองยังคงไม่ได้หรอก” เฉินเฟิงถอนหายใจบ่นกับตนเอง ถ้ามีคนมองเห็นฉากก่อนหน้านี้ที่เฉินเฟิงขับรถ คงตกใจจนลูกตาตกลงมาแน่

ตั้งแต่ออกตัว เฉินเฟิงไม่ได้นำมือวางไว้บนพวงมาลัยเลย แต่ว่าใช้พลังภายในควบคุมพวงมาลัยอยู่!

ดังนั้นพอคิดได้กะทันหันอยากจะใช้พลังควบคุมพวงมาลัย ไม่ใช่เพราะเฉินเฟิงอยากแกล้งทำ แต่เขาไม่มีทางตีฝ่าด่านหั้วจิ้งขั้นต้นนี้ไปได้มาโดยตลอด จึงเข้าสู่หั้วจิ้งขั้นกลาง

สิ่งสำคัญในการตีฝ่าของหั้วจิ้งขั้นกลางนั้น ขึ้นอยู่กับขับเคลื่อนกลางอากาศ

ขับเคลื่อนกลางอากาศอย่างแม่นยำ!

เพราะสาเหตุที่ตีฝ่าเร็วเกินไป เฉินเฟิงไม่มีทางขับเคลื่อนพลังภายในได้อย่างแม่นยำมาตลอด

การแข่งรถครั้งนี้ หลังจากมองเห็นพวงมาลัย เฉินเฟิงก็เกิดความคิดใช้พลังควบคุมพวงมาลัยออกมา

ผลสุดท้ายไม่ใช่แบบที่คาดไว้ เฉินเฟิงไม่สามารถควบคุมพลังได้อย่างใช้แขนโบก ส่วนใหญ่ทำได้เพียงควบคุมทิศทาง

แต่ว่าเฉินเฟิงก็ไม่ได้ท้อแท้เลย โดยเฉพาะเขาพึ่งตีฝ่าหั้วจิ้งขั้นต้นไม่ถึงสองเดือน ความเร็วนี้สามารถเรียกได้ว่าเร็วที่สุดในช่วงเวลานี้แล้ว

ดังนั้นการตีฝ่าถึงหั้วจิ้งขั้นกลาง จึงเป็นเพียงปัญหาด้านเวลาเท่านั้น สำหรับพรสวรรค์ของตนเองนั้น เฉินเฟิงมีความมั่นใจเด็ดเดี่ยว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร