บทที่ 239 บ้านผ่านการปรับปรุง
“ในเมื่อน้าหลินชอบ งั้นเราไปดำเนินเรื่องที่ฝ่ายขายกันเถอะ พวกใบรับรองกรรมสิทธิ์ผมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”จางหงพูด
“ได้ๆๆ ไปดำเนินเรื่องกัน”หลินหลันพยักหน้าด้วยความดีใจ พูดในใจว่าครั้งนี้เธอได้ประโยชน์ที่ไม่ควรได้อย่างจัง
“แม่ ซื้อบ้านหลังนี้ไม่ได้นะ”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นอย่างไม่ถูกจังหวะ
หลินหลันหน้าเย็นชาทันที:“ทำไมซื้อไม่ได้?”
“บ้านหลังนี้มีปัญหา”เฉินเฟิงพูด
“มีปัญหา?ปัญหาอะไร?”
หลินหลันขมวดคิ้ว มองเฉินเฟิงอย่างไม่สบอารมณ์:“เฉินเฟิง บ้านหลังนี้ฉันกับพ่อแกก็ดูแล้ว เห็นๆอยู่ว่าสภาพดีมาก จะมีปัญหาได้ยังไง?คนส่งเดลิเวอรี่อย่างแกไม่เข้าใจก็อย่าพูดดีกว่า”
“บ้านหลังนี้ปรับปรุงใหม่”เฉินเฟิงพูดพลางยักคิ้ว
“เป็นไปไม่ได้!”
เฉินเฟิงพูดเสร็จ จางหงก็พูดค้านอย่างไม่พอใจทันที:“เฉินเฟิง อาหารกินอะไรก็ได้ แต่คำพูดพูดแบบมั่วซั่วไม่ได้นะ ตึกนี้เป็นโครงการล่าสุดที่เราเพิ่งสร้างเสร็จ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ พวกคุณเป็นคนแรกที่มาดูบ้าน”
“คุณแน่ใจ?”เฉินเฟิงยักคิ้ว
“แน่ใจ!”
จางหงพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน:“เฉินเฟิง ถ้าคุณไม่อยากซื้อก็พูดออกมาตรงๆ ไม่เห็นต้องใส่ร้ายป้ายสีให้ยู่ฉวนซานของเราต้องเสียหายเลย?”
“ใส่ร้ายป้ายสี?”
เฉินเฟิงยิ้มอย่างทำอะไรไม่ถูก
“ผู้จัดการจาง คุณอย่าไปฟังเรื่องเหลวไหลที่เจ้าเศษขยะนี่พูดเลย บ้านสวยมาก ไม่มีปัญหาอะไร เราจะซื้อกันวันนี้แหละ”หลินหลันพูดด้วยรอยยิ้ม
พูดจบหันไปมองเฉินเฟิงอย่างรังเกียจ แล้วด่า:“เศษขยะ แกระวังปากเน่าๆของตัวเองให้ดีหน่อย อย่าพูดจาไร้สาระ”
ไม่เข้าใจแต่แสร้งเป็นเข้าใจ ที่พูดนี้หมายถึงเฉินเฟิง,เห็นๆอยู่ว่าเป็นพวกมือสมัครเล่น ยังจะกล้าโอ้อวดต่อหน้าคนอื่น
จางหงยิ้มอย่างดูถูก:“เฉินเฟิง เราล้วนเป็นลูกผู้ชายเหมือนกัน สิ่งที่คุณคิดผมเข้าใจ คุณต้องการพิสูจน์ให้ภรรยาเห็น ว่าคุณไม่ได้ไร้ประโยชน์ขนาดนั้น ผมเข้าใจ แต่คุณไม่ควรเอาชื่อเสียงของยู่ฉวนซานมาเป็นเครื่องมือ”
“ดีที่วันนี้ผมเป็นคนต้อนรับพวกคุณ หากเป็นผู้จัดการฝ่ายขายคนอื่นของยู่ฉวนซาน ได้ยินสิ่งที่คุณพูดว่าบ้านผ่านการปรับปรุงมาก่อน หลังจากนี้พวกคุณคงไม่อาจซื้อบ้านในยู่ฉวนซานได้อีก ถึงจะเป็นตระกูลเสี้ย ก็ติดแบล็คลิสของยู่ฉวนซานได้”จางหงพูดอย่างเย่อหยิ่ง และเสียงสูง
เขาคิดว่าเฉินเฟิงคงอยากมีตัวตนสำหรับเสี้ยเมิ่งเหยาและคนในครอบครัว ยังไงเฉินเฟิงก็เป็นคนในตระกูลเสี้ยคนหนึ่ง ซื้อบ้านเรื่องใหญ่แบบนี้ เขาออกความเห็นไม่ได้สักคำคงรู้สึกไม่ยุติธรรม
“ติดแบล็คลิส?”
เฉินเฟิงยิ้มเบาๆ:“คำพูดของผู้จัดการจางพวกนี้ เป็นการแสดงจุดยืนของยู่ฉวนซานงั้นเหรอ?”
“ทำไม มีปัญหาอะไร?”จางหงยังคงเย่อหยิ่ง
เฉินเฟิงส่ายหน้า พูดอย่างเย้ยหยัน:“เอาบ้านที่ผ่านการปรับปรุงมาขายให้ลูกค้า แล้วยังจะให้ลูกค้าติดแบล็คลิสอีก ยู่ฉวนซานทำธุรกิจได้แบบ……จุ๊ๆ”
“เฉินเฟิง มากเกินไปแล้ว!”จางหงหน้าเย็นชา:“คุณพูดว่าบ้านในยู่ฉวนซานของเรา เป็นบ้านผ่านการปรับปรุงซ้ำแล้วซ้ำเล่าคุณคิดว่าจะใส่ความยู่ฉวนซานได้ง่ายๆงั้นเหรอ!”
หลินหลันสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย จางหงโกรธแล้ว!
“ผู้จัดการจาง คุณอย่าโมโหนะคะ เจ้าเศษขยะนี่น้ำเข้าสมองไปแล้ว คุณอย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเขา จะซื้อหรือไม่ซื้อบ้านไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขา แต่ขึ้นอยู่กับพวกเรา”หลินหลันพูดปลอบใจ ในขณะเดียวกันก็เกลียดเฉินเฟิงมาก
“เฉินเฟิง แกตาฝาดไปรึเปล่า?บ้านหลังนี้ฉันก็เห็นว่ามันดีมาก ไม่เหมือนบ้านที่ผ่านการปรับปรุงเลยนะ”ตอนนี้แม้แต่เสี้ยเว่ยกั๋วก็อดไม่ได้ที่ช่วยพูดให้จางหง เมื่อครู่เขาตามหลังจางหงตลอด บ้านไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ เป็นบ้านสร้างใหม่
“พ่อครับ ผมไม่ได้ตาฝาด”เฉินเฟิงส่ายหน้าพลางพูด:“พ่อมากับผม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...