ลูกเขยมังกร นิยาย บท 240

บทที่ 240 เคยมีคนตาย

ยั่วโมโห

นี่มันยั่วโมโหกันชัดๆ

ใครๆก็ดูออกว่าจางหงกำลังยั่วโมโหเฉินเฟิง

แต่ฉินเฟิงไม่ถือสา กลอุบายของจางหงนั้นไม่เลยเลย แต่ตบตาได้แค่หลินหลันเท่านั้นแหละ จะตบตาเขา เป็นไปไม่ได้!

“มี ผมมีความคิดเห็น”

เฉินเฟิงพูดอย่างเย็นชา

บรรยากาศเงียบลงอีกครั้ง

จากนั้นหลินหลันตะโกนอย่างเดือดดาล:“เจ้าเศษขยะนี่ แกมีความคิดเห็นอะไรอีก?ฉันหรือแกกันแน่ที่เป็นคนซื้อบ้าน?”

“ยังมีความคิดเห็น?แกมีความคิดเห็นมากมายอะไรก็เก็บมันไว้ ครอบครัวนี้แกไม่มีสิทธิ์พูด!”หลินหลันไม่ไว้หน้าเฉินเฟิงแม้แต่น้อย

“แม่ บ้านหลังนี้เป็นบ้านมือสอง”เสี้ยเมิ่งเหยาช่วยพูดให้เฉินเฟิงอย่างอดไม่ได้

“บ้านมือสองแล้วทำไม?คนอยู่ไม่ได้งั้นเหรอ?”หลินหลันเบิกตาโต ราวกับโดนไฟช็อต

เสี้ยเมิ่งเหยาพูดออกไป แต่ไม่ได้พูดอะไรมากสำหรับหลินหลัน ถึงจะเป็นบ้านมือสองแต่พวกเธอก็ได้กำไร

เพราะบ้านในยู่ฉวนซานต้องแย่งกันตลอด ถึงเป็นบ้านมือสองแต่ราคาก็ไม่ได้ต่ำกว่าบ้านใหม่เท่าไหร่

“ผู้จัดการจาง คุณไม่ต้องสนใจเจ้าเศษขยะนี่ คนที่ซื้อเป็นฉันไม่ใช่เขา ฉันจะไปดำเนินการกับคุณ”หลินหลันพูด ราวกับกลัวว่าจางหงจะเสียใจ

จางหงตั้งใจกลั่นแกล้ง:“น้าหลิน น้าจะคิดดูอีกทีไหม?ยังไงเฉินเฟิงก็เป็นคนในตระกูลเสี้ยคนหนึ่ง ความคิดเห็นของเขาแน่วแน่……”

“ใช่กับผีหน่ะสิ!”

หลินหลันด่าอย่างไร้ความปรานี:“ผู้จัดการจาง คุณไม่รู้ว่าเจ้าเศษขยะนี่ไร้ประโยชน์ขนาดไหน อยู่ในตระกูลเสี้ยมา3ปี นอกจากกินในตระกูลเสี้ย ใช้เงินตระกูลเสี้ย เรื่องอื่นไม่เคยทำสำเร็จ!”

“พูดอย่างไม่ปิดบังเลยนะผู้จัดการจาง ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวฉันไม่ยอม ฉันไล่เจ้าเศษขยะนี่ออกจากตระกูลเสี้ยไปนานแล้ว ฉันไม่คิดว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเสี้ย”

ถึงแม้จะอยู่ต่อหน้าคนนอก แต่หลินหลันไม่รักษาน้ำใจเฉินเฟิงเลยแม้แต่น้อย

ท่าทางของหลินหลัน ทำให้จางหงสงบลงไปเช่นกัน หลังจากมองเฉินเฟิงอย่างกำแหง จางหงก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น:“ในเมื่อเป็นแบบนี้งั้นน้าหลินครับ เราไปดำเนินเรื่องที่ฝ่ายขายกันเถอะ”

“ได้ๆๆ ไปดำเนินเรื่อง”หลินหลันพยักหน้าทันที เมื่อครู่เธอยังกังวลว่าจางหงจะไม่ขายบ้านให้เธอ เพราะเฉินเฟิงก่อเรื่องรึเปล่าแต่เธอคงกังวลเกินไป

เมื่อเปรียบเทียบกับเฉินเฟิง จางหงใจกว้างกว่ามาก

“ผู้จัดการจาง คุณแน่ใจว่าจะขายบ้านให้แม่ผม?”เฉินเฟิงพูดน้ำเสียงเย็นชา บ้านหลังนี้นอกจากผ่านการปรับปรุง ยังมีปัญหาอื่นอีก แต่จางหงไม่พูดขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเห็นหลินหลันเป็นคนโง่

ถ้าเห็นหลินหลันเป็นคนโง่คนเดียวก็ช่าง เฉินเฟิงไม่อยากยุ่ง แต่บ้านหลังนี้วันข้างหน้าเสี้ยเว่ยกั๋วก็ต้องมาอยู่ นี่ทำให้เฉินเฟิงเพิกเฉยไม่ได้

“เฉินเฟิงจะลงไม่ลงมือกับผมงั้นเหรอ?”คำพูดของเฉินเฟิงฟังแล้วราวกับกำลังข่มขู่ จางหงหยุดเดิน แล้วพูดเย้ยหยัน

“ผมให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย บอกปัญหาของบ้านหลังนี้มาให้หมด”เฉินเฟิงหรี่ตาลง ที่จริงเขาพอเดาความเป็นจริงได้ ตอนนี้แค่อยากดูว่าจางหงจะทำยังไง

จางหงส่ายหน้าพลางยิ้ม ไม่พูดอะไร แต่หันไปมองหลินหลัน:“น้าหลิน ลูกเขยน้าเนี่ยเหมือนไม่อยากให้น้าซื้อบ้านของเราเลย”

“เฉิน!เฟิง!”

หลินหลันกัดฟันแน่น สายตาแสดงความโกรธออกมา:“แกไสหัวออกไป!”

“เฉินเฟิง แกหมายความว่าบ้านหลังนี้ นอกจากเคยปรับปรุงมาก่อน แล้วยังมีปัญหาอื่นอีกงั้นเหรอ?”เสี้ยเว่ยกั๋วขมวดคิ้ว เขาไม่ได้สงสัยอะไรเฉินเฟิง เขารู้ว่าเฉินเฟิงคงไม่พูดจาเหลวไหลกันเรื่องแบบนี้

“พ่อครับ เคยมีคนตายในบ้านหลังนี้”

เฉินเฟิงพูดอย่างเย็นชา

เพี๊ยะ!

บรรยากาศเงียบไปครู่หนึ่ง เงียบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่น

รอยยิ้มบนใบหน้าจางหงชะงักไปทันที ในใจร้อนรุ่มไปหมด

สีหน้าเสี้ยเว่ยกั๋วก็เปลี่ยนไป ถ้าบ้านหลังนี้มีคนตายมาก่อนจริงๆ งั้นก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วล่ะ อย่าว่าแต่ลด30% ถึงจางหงจะให้ฟรีๆพวกเขาก็ไม่เอา

“เฉินเฟิง ที่แกพูดเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?”

เสี้ยเว่ยกั๋วรีบถาม เขาไม่คิดว่าเฉินเฟิงจะพูดเล่นกับเรื่องแบบนี้ แต่เขาไม่เข้าใจ เฉินเฟิงรู้ได้ยังไงว่าบ้านหลังนี้เคยมีคนตาย

“จริงครับ”เฉินเฟิงพยักหน้า

“แกรู้ได้ยังไง?”เสี้ยเว่ยกั๋วถามอย่างอดไม่ได้

เฉินเฟิงดูออกว่าบ้านเคยปรับปรุงก็ไม่แปลก แต่ดูออกว่าบ้านเคยมีคนตายนี่สิ น่ากลัวเกินไปแล้ว หรือตรงไหนมีร่องรอยคราบเลือดเช็ดไม่สะอาด?

“อีกเดี๋ยวพ่อก็จะรู้ครับ”เฉินเฟิงยิ้มบางๆ อันที่จริงเขาก็ไม่แน่ใจว่าบ้านมีปัญหาอะไร เพียงแต่รับรู้ได้ถึงบรรยากาศอึมครึมในห้องและท่าทางกลัวๆของพี่ฟางเมื่อครู่ เลยคิดว่าน่าจะมีคนตายในบ้าน ดังนั้นจึงหลอกถามจางหง。

แต่ผลสรุปคาดไม่ถึงว่าการหลอกถามนี้ จะทำให้เขาพูดออกมาจริงๆ สีหน้าของจางหงตอนพูดกับเขานั้น เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

“ผู้จัดการจาง พูดมาเถอะ มันเกิดอะไรขึ้น?”เฉินเฟิงมองจางหง

“พะ……พูดอะไร?”

จางหงลนลานเล็กน้อย ปากแข็งแต่ข้างในนั้นอ่อนแอไปหมด:“เฉินเฟิง ฉันขอเตือน พูดจามั่วซั่วมีความผิดตามกฎหมายนะ”

“บ้านในยู่ฉวนซานเป็นบ้านที่ดีที่สุดในเมืองชางโจว อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่หมาก็ไม่เคยตายสักตัว!”

“แกพูดว่าบ้านหลังนี้เคยมีคนตาย ถ้าเรื่องแพร่ออกไป คงมีผลกระทบกับชื่อเสียงของยู่ฉวนซานแน่ คุณรับผิดชอบไหวเหรอ!”

ทันใดนั้นเอง พี่ฟางที่อยู่ด้านนอกเดินเข้ามาอย่างทนไม่ไหว

“หลินหลัน บ้านหลังนี้ยังจะซื้อไหม?”เมื่อเข้ามาพี่ฟางก็ตะโกนใส่หลินหลันทันที น้ำเสียงไม่พอใจมาก

หลินหลันกลัวจนทำอะไรไม่ถูก สิ่งที่เฉินเฟิงพูดสะเทือนใจเธอมาก ถ้าบ้านเคยมีคนตายจริง ต่อให้เธอยืมความกล้ามา เธอก็ไม่กล้าซื้ออยู่ดี

“พี่ฟาง ฉัน……”หลินหลันกลัวเล็กน้อย

“หลินหลัน คุณจะเชื่อลูกเขยเศษขยะของคุณหรือเชื่อฉัน?!”พี่ฟางมองหลินหลันอย่างเยือกเย็น

“ฉันเชื่อคุณ”หลินหลันแทบจะโพล่งออกมา น่าขำสิ้นดี คนหนึ่งคือพี่ฟางที่อยู่บ้านหรูราคา40ล้านกว่าๆ อีกคนก็เป็นลูกเขยที่ชอบทำตัวเป็นศัตรูกับตน ต้องถามอีกไหมว่าจะเชื่อใคร

“ดี”

พี่ฟางพยักหน้าเบาๆ:“ในเมื่อคุณเชื่อฉัน งั้นฉันจะบอกคุณตามตรง ว่าบ้านหลังนี้ไม่เคยมีคนตาย!”

“เขากำลังโกหกคุณ!”พี่ฟางชี้ไปยังเฉินเฟิง แล้วจบเรื่อง

“ใช่ครับ น้าหลิน เจ้าเศษขยะนี่โกหกน้า เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้น้าซื้อบ้านหลังนี้ ดังนั้นจึงโกหกพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ออกมา”จางหงช่วยพูดอีกแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร