บทที่259 สี่พี่น้องตระกูลเฉิน
“น่าจะเป็นจอมยุทธ์”
เฉินเฟิงขมวดคิ้วเอ่ยปาก ถึงแม้ความเร็วการยิงลูกกระสุนปืนไรเฟิลจะช้ากว่าปืนพกอยู่มาก แต่ช้าอย่างไร นั่นก็คือลูกกระสุน เดิมทีคนธรรมดาย่อมหลบไม่ได้ อย่างมากที่สุดอีกฝ่ายคงเป็นหมิงจิ้งขั้นต้น
“จอมยุทธ์? เมืองชางโจวไม่ใช่มีจอมยุทธ์ไม่มากเหรอครับ? พวกเขาโผล่ออกมาจากที่ไหนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอมยุทธ์ล้วนเป็นคนที่มีฐานะมีตำแหน่ง ทำไมถึงออกปล้นคลังสมบัติเรื่องแบบนี้ได้” หานหลงถามอย่างสงสัย
ถึงแม้เงินทองในคลังสมบัติของเขาจะไม่น้อย แต่ก็ไม่มากอย่างเด็ดขาด มีมากที่สุดก็แค่สองสามร้อยล้าน เงินพวกนี้ สำหรับคนธรรมดาแล้วอาจจะเป็นเงินจำนวนมากก้อนหนึ่ง แต่สำหรับจอมยุทธ์คงไม่คุ้มค่าให้พูดถึง
จอมยุทธ์ทั่วไปคนหนึ่ง ขอเพียงอยากได้ แค่ไปเป็นดูแลตระกูลใหญ่สักที่ก็สามารถได้รับเงินมากขนาดนี้ได้
“มีความเป็นไปได้มากว่าพวกเขาจะเป็นโจรป่าเถื่อนนอกเขตกลุ่มนั้นที่เย่ไห่ถังบอก” เฉินเฟิงพูด และมีเพียงการอธิบายนี้ถึงสามารถเข้าใจได้ โจรเถื่อนนอกเขตกลุ่มนั้นพึ่งมาเมืองชางโจว เงินของทางการพวกเขาย่อมไม่กล้าขโมยเป็นธรรมดา เพราะจะรบกวนสมาคมบูโด
จึงได้แต่มาเล่นสกปรกกับพวกผิดกฎหมายอื่น แย่งเงินของหานหลงลูกพี่สายดำแบบนี้ที่มาไม่ชัด
ขโมยไปหานหลงก็คงเก็บเงียบไว้
“คุณชายเฉิน นั้นตอนนี้ควรทำยังไงครับ?” หานหลงถามขึ้น สำหรับจอมยุทธ์ มีเพียงเฉินเฟิงที่เป็นจอมยุทธ์เหมือนกันจึงสามารถตัดสินใจได้
“ให้คนของพวกนายหาต่อไป หาเจอแล้วอย่าพึ่งบุ่มบ่าม ฉันจะไปจัดการพวกเขาด้วยตัวเอง” เฉินเฟิงพูดเสียงทุ้ม ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นโจรเถื่อนนอกเขตนั้นหรือไม่ ล้วนไม่ใช่หานหลงหรือกู้ตงเชินเหล่านี้จะสามารถจัดการได้
“ครับ คุณชายเฉิน”
ในขณะเดียวกัน กลางเขตโรงงานร้างที่ย่านชานเมือง ในโรงงานหล่อเหล็กแห่งหนึ่ง
ชายสูงใหญ่เปลือยท่อนบนสิบกว่าคนกำลังดื่มเหล้าเล่นเป่ายิงฉุบ พวกเขาเสียงดังสนั่น
ด้านหลังวางขวดเหล้าเป็นกอง
ที่ไม่ไกลออกไปนัก ยังมีผู้ชายวัยกลางคนสามคนยืนอยู่
สองคนในนั้น รูปร่างสูงใหญ่น่าเกรงขาม บนหน้ามีกลิ่นอายโหดเหี้ยมที่ชัดเจนมาก
ส่วนคนที่เหลือนั้น เทียบกับสองคนนี้ เห็นได้ชัดว่าซูบผอมอยู่บ้าง ดูขึ้นมาก็เหมือนว่าลมพัดมาหอบหนึ่งก็สามารถล้มลงได้
เวลานี้ ผู้ชายสูงใหญ่น่าเกรงขามสองคนกำลังพูดคุยกัน
บนหน้าผู้ชายซูบผอมมีรอยยิ้มที่เอาอกเอาใจกำลังฟังอยู่ด้านข้าง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ผู้ชายน่าเกรงขามที่มีแผลเป็นบนหน้าในนั้นรับสายโทรศัพท์แล้ว ฟังมาไม่กี่ประโยค ชายที่มีแผลเป็นก็วางโทรศัพท์ลง
“พี่ใหญ่ สำเร็จแล้ว” ชายที่มีแผลเป็นมองทางผู้ชายสูงใหญ่อีกคนที่อยู่ด้านข้างอย่างดีใจ
ผู้ชายสูงใหญ่พยักหน้าเบาๆ บนหน้าไม่มีท่าทางแปลกใจสักนิดเดียว เหมือนว่าเรื่องราวควรเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
จากนั้นเขาย้ายสายตาไปทางผู้ชายซูบผอมที่อยู่ตรงหน้า ยิ้มเล็กน้อย “เมิ่งหลง ขอบใจข่าวของนายนะ อาโสงกับอาเจียวลงมือสำเร็จแล้ว”
“พี่เหวิน พี่เกรงใจไปแล้ว ถึงแม้ไม่มีข่าวของผม พี่โสงกับพี่เจียวก็สามารถหาคลังสมบัติของหานหลงได้อย่างง่ายดาย” ผู้ชายผอมบางพูดประจบ เขาคือหวังเมิ่งหลง ผู้ชายสูงใหญ่สองคนที่อยู่ตรงหน้าเขาชื่อว่าเฉินจื๋อเหวิน ชายที่มีแผลเป็นชื่อว่าเฉินจื๋อหลี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...