ลูกเขยมังกร นิยาย บท 268

บทที่268 อาจารย์อา

ภายในเฉินจื๋อเหวินรู้สึกทอดถอนใจ ไม่เสียแรงที่เป็นผู้กล้าที่ช่วยเหลือแก๊งชาวจีนโพ้นทะเลไว้

อายุยังน้อย เป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ ไม่เพียงความสามารถน่าเกรงกลัว ลูกน้องยังมีคนสนิทอย่างหานหลงที่ความคิดใสแจ๋วแบบนี้ด้วย

“พี่น้องไม่ทราบว่าชื่ออะไรกัน?”

“เฉินจื๋อเหวิน” เฉินจื๋อเหวินยิ้มนิดหน่อย จากนั้นแนะนำชื่อของเฉินจื๋อหลี่ เฉินจื๋อโสง เฉินจื๋อเจียวสามคนด้านหลังไปรอบหนึ่ง

จากนั้นทั้งสองคนพูดคุยกันสักครู่ เฉินจื๋อเหวินถึงรู้ชื่อของเฉินเฟิง

ตอนที่รู้ว่าสถานะปัจจุบันนี้ของเฉินเฟิงเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านของตระกูลเสี้ย เฉินจื๋อเหวินจึงตกใจเป็นธรรมดา ลูกตาเกือบจะทะลักออกมา

เฉินจื๋อหลี่ที่ด้านหลังก็ตกตะลึงพรึงเพริดเช่นกัน สันหลังเย็นวาบ

เมื่อคืนตอนที่เสี้ยเมิ่งเหยาบอกว่าเฉินเฟิงเป็นจอมยุทธ์ เขาไม่เพียงไม่เชื่อ ยังเยาะเย้ยไปต่อหน้าเสี้ยเมิ่งเหยา บอกว่าจะบีบเฉินเฟิงให้ตาย

ตอนนี้เฉินเฟิงปรากฏตัวขึ้น เป็นระดับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ เขาที่แค่หมิงจิ้งขั้นสูง จะเอาอะไรไปบีบ?

ถูกเฉินเฟิงบีบตายดูจะใช่กว่า!

หานหลงจัดเตรียมโรงแรมในสังกัดของตนเองไว้ให้คนเหล่านี้

“พี่ใหญ่ เฉินเฟิงคนนี้รู้จักกับอาจารย์เหรอ?” พอเข้ามาโรงแรม เฉินจื๋อหลี่เอ่ยถามอย่างรีบร้อน

“มากกว่ารู้จัก” เฉินจื๋อเหวินยิ้มลึกซึ้งพลางบอกว่า “เขาเป็นพี่น้องร่วมสาบานเพียงหนึ่งเดียวของอาจารย์”

“พี่ใหญ่ พี่ว่า……” เฉินจื๋อหลี่เบิกตาโต “เขาเป็นอาจารย์อาของพวกเรา?”

เฉินจื๋อเหวินพยักหน้า ตอบ “อาหลี่ อาโสง ยังมีอาเจียวด้วย พวกนายสามคน ต่อไปเจออาจารย์อาเฉิน ต้องเกรงใจกับเขาหน่อย ถึงแม้อาจารย์อาเฉินอายุยังน้อย แต่ว่าคุณสมบัติและประสบการณ์ เขากลับสูงกว่าพวกเราอยู่มาก”

ทั้งสามคนรีบพยักหน้า ไม่พูดถึงคุณสมบัติและประสบการณ์ การฝึกของเฉินเฟิงไปถึงขั้นนั้นแล้ว ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ นี่ยังสูงกว่าอาจารย์ของพวกเขาด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะห้าปีก่อนเฉินเฟิงเคยช่วยชีวิตเจ้าสามหวง ดังนั้นหลายปีมานี้เจ้าสามหวงจึงพูดถึงแต่เฉินเฟิงมานานหลายปี สำหรับความสำคัญของเฉินเฟิง ต้องเกินไปไกลกว่าพวกเขาลูกศิษย์เหล่านี้

ถ้าใครอยากผิดใจเฉินเฟิง พวกเขาต้องผ่านด่านของเจ้าสามหวงนี้ไปไม่ได้แน่

“พี่ใหญ่ สรุปอาจารย์อาเฉินเป็นศิษย์สำนักไหนกัน พรสวรรค์ของเขาเป็นปีศาจเกินไปแล้วมั้ง” เฉินจื๋อหลี่ถาม ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่อายุยี่สิบห้ายี่หกปี ไม่ต้องพูดถึงหวาเซี่ย มองทั้งโลกใบนี้ นั้นล้วนเป็นการมีตัวตนที่ล้ำค่าหายาก

“อย่าถามมาก ฐานะเดิมของอาจารย์อาเฉิน ไม่ใช่พวกเราสามารถพูดคุยได้” สีหน้าของเฉินจื๋อเหวินอึมครึมลงมา สถานะของเฉินเฟิงเป็นหัวข้อต้องห้ามในแก๊งชาวจีนโพ้นทะเลมาโดยตลอด เพราะเป็นบุคคลที่เจ้าหวงสามรักเลื่อมใส ดังนั้นเขาจึงรู้มาไม่มากเท่าไร

รู้แค่ว่าเฉินเฟิงเป็นลูกที่ตระกูลเฉินทอดทิ้ง และกลับไม่ได้รับความสำคัญในตระกูลเฉิน

ถึงแม้สุดท้ายจะไปเคารพเข้าสำนักปรมาจารย์เซียวกั่วจง สถานการณ์แบบนี้ยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลง

แม้กระทั่งท้ายสุดเฉินเฟิงยังทะเลาะกับตระกูลเฉิน หนีออกจากตระกูลเฉินมาถึงที่เมืองชางโจว เป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านตระกูลเสี้ย

เป็นเพราะซ่อนเร้นความสามารถหรือว่าเพื่อแก้แค้นตระกูลเฉิน ทุกอย่างนี้ นอกจากเจ้าตัวเฉินเฟิง ยังไม่มีใครชัดเจน

“อืม พี่ใหญ่ ผมไม่ถามแล้ว”

เฉินจื๋อหลี่รีบพยักหน้า เฉินจื๋อเหวินมีท่าทีเคร่งขรึมเช่นนี้ อธิบายว่าฐานะเดิมของเฉินเฟิงจำเป็นต้องเกี่ยวข้องถึงเบื้องหลังที่น่าตื่นตะลึง

เวลานี้ เฉินเฟิงพาเสี้ยเมิ่งเหยากลับมาถึงที่บ้าน

พอเข้าประตูมา เห็นหลินหลันที่กำลังเช็ดน้ำตาและเสี้ยเว่ยกั๋วที่นิ่งขรึมมาก

“แม่ หนูกลับมาแล้วค่ะ”

เสี้ยเมิ่งเหยาอดส่งเสียงไม่ได้

“เมิ่งเหยา?” หลินหลันตะลึง ชั่วขณะนั้นร้องไห้ด้วยความดีใจ เดิมสองสามก้าวมาถึงตรงหน้าของเสี้ยเมิ่งเหยา วนอ้อมเสี้ยเมิ่งเหยาไปรอบหนึ่ง ถามอย่างห่วงใย “เมิ่งเหยา ลูกไม่เป็นไรนะ คนเลวพวกนั้นไม่ได้ทำอะไรลูกใช่มั้ย?”

เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหน้า “หนูไม่เป็นไร พวกเขาลักพาตัวผิดคน”

คำพูดนี้เป็นข้ออ้างของเสี้ยเมิ่งเหยา ถึงตอนนี้เธอจะยังไม่รู้ว่าทำไมเฉินจื๋อเหวินคนเหล่านี้ต้องลักพาตัวเธอด้วย

“ลักพาตัวผิดคน?” หลินหลันสงสัย “นี่เป็นไปได้ยังไงกัน!”

ขณะพูดอยู่ หล่อนยังมองเฉินเฟิงทีหนึ่ง เห็นได้ชัดยังคงคิดว่าเป็นเฉินเฟิงกำกับทุกอย่าง

แต่หล่อนก็รู้จักเอาตัวรอดมาก ไม่ได้พูดเรื่องของหวังเมิ่งหลงออกมาต่อหน้าของเสี้ยเมิ่งเหยากับเสี้ยเว่ยกั๋ว

หลินหลันไม่พูดถึง เป็นธรรมดาที่เฉินเฟิงย่อมไม่พูดอะไรมาก ตามความเป็นจริงตอนนี้เฉินเฟิงปวดหัวมากว่าควรจัดการหวังเมิ่งหลงอย่างไร

ฆ่าไปโดยตรง นั้นความเข้าใจผิดระหว่างเขากับเสี้ยเมิ่งเหยาคงแก้ไขไม่ได้ตลอดกาล เกรงว่าเสี้ยเมิ่งเหยาคงคิดไปตลอดว่าเรื่องนี้เขาเป็นผู้บงการเบื้องหลัง

แต่ถ้าไม่ฆ่า หวังเมิ่งหลงก็เหมือนระเบิดเวลาที่ฝังอยู่ภายในตระกูลเสี้ย คุณไม่มีทางรู้ได้ว่าเขาจะระเบิดตอนไหน ระเบิดให้ตระกูลเสี้ยแตกเป็นเสี่ยงๆ

“มีอะไรเป็นไปไม่ได้บ้าง คนก็กลับมาแล้ว” ในที่สุดเมฆดำบนหน้าเสี้ยเว่ยกั๋วสลายหายไป พอเขากลับมาจากโรงพยาบาล ได้ยินหลินหลันมาฟ้อง บอกว่าเป็นเฉินเฟิงให้คนลักพาตัวเสี้ยเมิ่งเหยาไป เพื่อลบล้างข้อสงสัยที่ตัวเองนอกใจ

ถ้าเป็นเขาในสมัยก่อน เป็นธรรมดาที่จะไม่เชื่อคำพูดของหลินหลัน

แต่ตอนนี้ความสามารถของเฉินเฟิงนับวันยิ่งแข็งแกร่ง เขาไม่เชื่อไม่ได้

ในฐานะผู้ชาย เขาเข้าใจความคิดในใจผู้ชายมาก

ผู้ชายที่ยิ่งมีเงิน ยิ่งน่ากลัว

เฉินเฟิงในตอนนี้มีเงินเหรอ?

มีเงินแน่นอน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉินเฟิงยังมีอำนาจ มีอำนาจมหาศาล!

สำรวจตรวจสอบจิตใจแล้ว ถ้าเปลี่ยนเฉินเฟิงในตอนนี้มาเป็นเขา เกรงว่าเขาคงนอกใจไปตั้งนานแล้ว

มีเงินมีอำนาจ ผู้หญิงแบบไหนจะหาไม่ได้ ต้องเอาตัวเองมาแขวนตายบนต้นไม้อย่างเสี้ยเมิ่งเหยานี้เหรอ?

หลังจากพาเสี้ยเมิ่งเหยามาส่งที่ห้อง

ตอนแรกเฉินเฟิงคิดจะหมุนตัวออกไปทันที แต่ด้านหลังกลับมีเสียงที่ไม่มีความรู้สึกของเสี้ยเมิ่งเหยาลอยมา “นายกับเย่ไห่ถัง สรุปมันเกิดเรื่องอะไรกันแน่?”

เธอต้องการคำอธิบาย

เฉินเฟิงถอนหายใจภายในทีหนึ่ง ยังต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้จริงเหรอ?

ขยับๆ หนังที่ปาก เฉินเฟิงก็เอ่ยปาก “เย่ไห่ถังเป็นเพื่อนฉัน”

“เมื่อวานที่ผับ หล่อนบอกฉันว่ามีคนอยากลักพาตัวเธอ……”

“ต้องไปคุยที่ผับด้วยเหรอ?” เสี้ยเมิ่งเหยาถามอย่างเย็นชา เธอไม่เข้าใจ เฉินเฟิงมีความคิดอะไรกันแน่ ถึงไปคุยธุระกันกับเย่ไห่ถังที่ผับ หรือว่าด้านนอกคุยไม่ได้?

เฉินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่รู้ว่าควรจะอธิบายกับเสี้ยเมิ่งเหยาอย่างไร หรือว่าบอกตามตรงว่าเย่ไห่ถังบังคับเขาเข้าไป? พูดแบบนั้นเกรงว่าเสี้ยเมิ่งเหยาจะยิ่งโกรธไปกันใหญ่

ยิ่งไปกว่านั้น เย่ไห่ถังก็ไม่ได้บังคับเขาด้วย

“ถ้านายชอบหล่อนแล้วล่ะก็ พวกเราหย่ากันได้นะ” เสี้ยเมิ่งเหยาสงบนิ่งมาก

เฉินเฟิงขมวดคิ้วขึ้น “ต่อไปอย่าพูดแบบนี้อีก”

“ความสัมพันธ์ของฉันกับเย่ไห่ถัง ฉันจะรีบอธิบายกับเธอให้กระจ่าง”

“มีเพียงอย่างเดียวที่ฉันบอกเธอได้คือฉันไม่มีอะไรที่จะละอายในตัวเอง”

เสี้ยเมิ่งเหยาเม้มริมฝีปากแดง และไม่ได้พูดอะไร

เฉินเฟิงถอนหายใจทีหนึ่ง “เอาล่ะ เธอพักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะมาหาเธอใหม่”

หลังจากออกมาจากตระกูลเสี้ย เฉินเฟิงได้รับโทรศัพท์ของเย่ไห่ถัง

“หาคนเจอแล้ว?” เสียงของเย่ไห่ถังยังคงเย็นยะเยือก

“หาเจอแล้ว”

“อยากให้ฉันช่วยคุณอธิบายมั้ย?” เย่ไห่ถังฉลาดมาก หล่อนรู้เรื่องคลิปวิดีโอตั้งนานแล้ว ใช้หัวนิ้วโป้งเท้าคิดยังคิดได้ว่าเสี้ยเมิ่งเหยาจะมีปฏิกิริยาไหน

“ไม่ต้อง” เฉินเฟิงปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดสักนิด เย่ไห่ถังเจอกับเสี้ยเมิ่งเหยา นั่นถึงจะเป็นฟ้าผ่าปะทะดาวหาง อย่าพูดว่าอธิบายกระจ่างเลย ทั้งสองคนไม่ตีกันขึ้นมา เกรงว่าคงจะดีมากแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร