ลูกเขยมังกร นิยาย บท 283

บทที่ 283 เฉินอิงโร

"น่าจะได้?" เฉินเฟิงยิ้มเศร้า ดูท่าแล้วสาวน้อยโห้หงเย้นคนนี้ไม่สามารถเป็นตัวแทนของตระกูลโห้ได้

"คุณชายเฉิน ฉันสามารถไปขอร้องคุณปู่ คุณปู่ท่านต้องตกลงอย่างแน่นอน" โห้หงเย้นมองไปที่เฉินเฟิงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เฉินเฟิงส่ายหน้าแล้วคลายยิ้ม "ไม่ต้องหรอก คุณหนูโห้ ไม่ว่าตระกูลจะตอบตกลงเงื่อนไขของผมหรือไม่ บัวหิมะซินเจียงนี้ผมก็จะขายให้คุณหนูโห้ ถือเป็นการจบลงด้วยดี"

สำหรับเฉินเฟิงแล้ว ถึงแม้บัวหิมะซินเจียงจะสำคัญ แต่ก็ไม่ได้สำคัญถึงขั้นที่ว่ายอมสละไม่ได้ ในทางกลับกันอำนาจที่สามารถให้ความช่วยเหลือเขาของตระกูลโห้ เฉินเฟิงยังขาดแคลน

"ขอบคุณค่ะคุณชายเฉิน" โห้หงเย้นคลายยิ้มสดใส เธอคิดไม่ถึงว่า เฉินเฟิงจะพูดง่ายแบบนี้

"อาโห้ บัวหิมะซินเจียงขายอยู่ที่ราคาเท่าไหร่?"

โห้หงเย้นถาม

"ประมาณหนึ่งพันห้าร้อยล้านหยวนครับ" หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง โห้ชิงซงรายงานตัวเลขออกไป

"หา!”

โห้หงเย้นอดไม่ได้ที่จะร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ หนึ่งพันห้าร้อยล้านหยวน?!ทำไมถึงแพงขนาดนี้?

"คุณหนูครับ ของล้ำค่าจากสวรรค์อย่างบัวหิมะซินเจียง เป็นสิ่งที่สามารถพบเจอได้แต่ไม่มีวันได้ครอบครอง เมื่อหลายปีก่อนที่ประเทศฝรั่งเศสได้มีการจัดประมูลนานาชาติบนเรือสำราญ มีบัวหิมะซินเจียงถูกขายที่อันละหนึ่งพันสามร้อยล้านหยวน ตอนนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ราคาของบัวหิมะซินเจียงมีแต่จะสูงขึ้นไม่มีวันลดลง......" โห้ชิงซงพูดด้วยหน้ายิ้มเศร้า เขารู้ดีว่า โห้หงเย้นไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น

"คุณชายเฉิน ตอนนี้ฉันมีเงินอยู่แค่ห้าร้อยล้านหยวน เราเขียนสัญญากู้ยืนเอาไว้ได้ไหมคะ ฉันจะเอาเงินมาคืนคุณให้หมดภายในสามปี"

โห้หงเย้นมองไปทางเฉินเฟิงด้วยความประหม่า แล้วพูดขึ้น

เธอไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเจ้าหญิงน้อยของตระกูลโห้ มีตำแหน่งที่สำคัญในตระกูลโห้ แต่บริษัทภายใต้ชื่อของเธอนั้น เธอไม่ได้บริหารด้วยความตั้งใจ อย่างมากในหนึ่งปีก็หาเงินได้เพียงแค่สามร้อยล้านหยวน การมาที่นี่ในครั้งนี้ เธอก็ได้ใช้เงินไปจำนวนหนึ่งแล้ว

"ไม่ต้องเขียนสัญญากู้เงินหรอกครับ คุณหนูโห้ บัวหิมะซินเจียงผมขายให้คุณห้าร้อยล้านหยวน" เฉินเฟิงยิ้มแล้วพูดขึ้น ถึงแม้ว่าเงินหนึ่งพันล้านหยวนจะมีมูลค่ามากมาย แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ขาดแคลนเงิน สู้ทำให้โห้หงเย้นเป็นหนี้บุญคุณเขายังดีเสียกว่า

ห้าร้อยล้านหยวน?

ดวงตาของโห้หงเย้นเบิกกว้าง มีคนขายของเหมือนเฉินเฟิงแบบนี้ด้วยหรอ? คนขายของคนอื่น มีแต่จะกลัวว่าตนเองขายได้ในราคาไม่สูง แต่เฉินฟิงกลับตรงกันข้าม เขากลับลดราคาลงถึงหนึ่งพันล้านหยวน

เงินหนึ่งพันล้านหยวน ไม่ใช่เงินสิบหยวน

แม้จะเป็นตระกูลโห้ เงินหนึ่งพันล้านหยวนก็ไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ

"ไม่ได้ค่ะๆ" โห้หงเย้นรีบผายมือ แก้มเล็กๆของเธอแดงระเรื่อ "คุณชายเฉินขายบัวหิมะซินเจียงให้กับหงเย้น หงเย้นก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว แล้วจะเอาเปรียบคุณชายเฉินได้ยังไง คิดราคาหนึ่งพันห้าร้อยล้านหยวนเถอะค่ะ เงินที่เหลืออีกหนึ่งพันล้านหยวน หงเย้นจะเขียนสัญญากู้ยืมเอาไว้ ภายในสามปี หงเย้นจะคืนคุณชายเฉินให้ได้"

เมื่อเห็นโห้หงเย้นทำสีหน้าแน่วแน่จริงจัง เฉินเฟิงจึงพยักหน้าด้วยความจนปัญญา "ครับ เช่นนั้นเฉินก็จะไม่เกรงใจแล้ว"

"แฮร่ๆ"

ใบหน้าสวยงามของโห้หงเย้นเผยรอยยิ้มออกมา

"จื๋อเหวิน นายสั่งให้กู้ตงเชินและหานหลงพาคนไปหลายๆคน แล้วเอารถบรรทุกมาสักสองสามคัน เพื่อบรรทุกงูดำตัวนี้กลับไป"

เฉินเฟิงมองไปทางเฉฺนจื๋อเหวิน ความเป็นจริงการเดินทางมายู่ฉวนซานในครั้งนี้ กำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ได้รับไม่ใช่บัวหิมะซินเจียง แต่เป็นงูดำที่อยู่ตรงหน้า

ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ นี่เป็นซากงูดำ

มองจากลำตัวนั้น งูตัวนี้ต้องมีอายุมากกว่าสองร้อยปีแน่นอน

สองร้อยปี คือแนวคิดอย่างไร?

ต่อให้เป็นหมูหนึ่งตัว สามารถมีชีวิตอยู่ถึงสองร้อยปีก็ถือเป็นหมูที่ไม่ธรรมดาแล้ว

ไม่ต้องพูดถึงงูดำที่สามารถดูดซับคุณประโยชน์สำคัญของพระอาทิตย์และพระจันทร์อย่างงูดำ

ช่วงระยะเวลาสองร้อยปี งูดำได้กลายเป็นงูอีกระดับหนึ่งแล้ว เกล็ดของมันฟันแทงไม่เข้า ถ้านำไปทำเป็นเสื้อเกราะ ความสามารถในการป้องกันของมันเกรงว่าแม้แต่เสื้อเกราะนาโนที่ดีที่สุดในโลกก็ยังเทียบไม่ได้

นอกจากเกล็ดงูแล้วนั้น น้ำดีของงูดำตัวนี้ ก็เป็นของล้ำค่าที่หายาก

คนธรรมดาขอเพียงแค่กินเล็กน้อย ก็สามารถทำให้มีอายุยืนยาว ป้องกันพิษนับร้อยชนิด

เมื่อบวกกับบัวหิมะซินเจียงที่เป็นของล้ำค่าจากสวรรค์ ก็มีประโยชน์ต่อจอมยุทธ์เป็นอย่างมาก

ถึงอย่างไร ทั้งตัวของงูดำตัวนี้ล้วนล้ำค่า

มูลค่าของมัน ไม่น้อยไปกว่าบัวหิมะซินเจียงทั้งสามอัน

หลังจากนั้นไม่กี่นาที เฉินจื๋อหลี่ก็โผล่ออกมาจากน้ำ มือของเขาถือดอกบัวสีขาวหิมะสามดอก ดอกบัวนั้นใสมาก กลีบดอกทุกใบล้วนชัดเจน

เป็นบัวหิมะซินเจียง

"คุณชายเฉิน หาเจอแล้วครับ"

เฉินจื๋อหลี่ดีใจเล็กน้อย บัวหิมะซินเจียงสามารถรักษาพิษไฟได้ ขอเพียงแค่มีบัวหิมะซินเจียง พิษไฟของเจ้าสามหวง อีกไม่นานก็สามารถรักษาให้หายได้แล้ว

"เก็บให้ดี"

เฉินเฟิงยิ้ม สั่งให้เฉินจื๋อเหวินหยิบกล่องหยกที่เตรียมเอาไว้แต่แรกออกมา จากนั้นนำบัวหิมะซินเจียงทั้งสามดอกเก็บแยกเอาไว้ แล้วกล่องให้โห้หงเย้นหนึ่งกล่อง

หลังจากที่ขอบคุณกันแล้ว โห้หงเย้นก็พาคนของตระกูลโห้ลงเขา

หลังจากนั้นสามชั่วโมง กู้ตงเชินและหานหลงก็พาคนมากว่าสิบกว่าคน ตอนที่พวกเขาเห็นซากของงูดำที่ใหญ่เหมือนภูเขา ทุกคนต่างก็แข็งทื่อเป็นหิน สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงจนยากจะที่บรรยายออกมา......

ขณะที่กู้ตงเชินและหานกลงกำลังตกตะลึงกับซากของงูดำ เครื่องบินส่วนตัวสีขาวได้แลนด์ดิ้งลงที่สนามบินของเมืองชางโจว

ประตูเครื่องบินเปิดออก ผู้หญิงร่างสูงสวมแว่นกันแดดสีดำ สวมเสื้อเชิตจีวองชี่และกระโปรงสีดำกับถุงเท้ายาวปรากฏตัวออกมา

ผิวของเธอใสเหมือนยก ใบหน้าที่สวยงามของเธอเหมือนรูปปั้นที่พระเจ้าตั้งใจแกะสลักออกมา

นอกจากใบหน้ารูปไข่นั้น หุ่นของผู้หญิงคนนี้ก็ได้สัดส่วนมา มีส่วนเว้นส่วนโค้งน่าเย้ายวน

หลังจากลงจากเครื่องบิน หญิงสาวถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นดวงตาที่งดงามของเธอ เวลานี้ ดวงตาคู่สวย กลับเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก

"ตอนนี้ลูกเมียน้อยคนนั้นอยู่ที่ไหน?" หญิงสาวเอ่ยพูดอย่างเย็นยะเยือก น้ำเสียงของเธอไร้ซึ่งความรู้สึก

"คุณหนูครับ เขาไปยู่ฉวนซานแต่เช้า จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา" ด้านหลังของหญิงสาว มีชายหนุ่มในชุดเสื้อสูทสีดำ เขาใส่หูฟังเอาไว้แล้วตอบคำถามอย่างเคารพ

"ไปรอเขาที่บ้านของเขา!”

มุมปากของหญิงสาวกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นทุกคนก็ขึ้นไปนั่งบนรถโรลส์รอยซ์

เวลานี้ หลินหลันกำลังทำอาหารอยู่ในครัว เธอหั่นผักไปด้วยและหำเพลงไปด้วย อารมณ์ของเธอดีมาก

ความเป็นจริง นับตั้งแต่เข้าไปในยู่ฉวนซาน หลินหลันก็อารมณ์ดีแบบนี้มาโดยตลอด

จากสายตาอิจฉาของคนนอก ไม่ยากที่จะรู้ว่า ตอนนี้หลินหลันชีวิตกำลังไปได้ด้วยดี เธอเข้าไปในสังคมของชนชั้นสูง

คนที่เคยหัวเราะเยาะเธอในอดีต ตอนนี้เวลาที่เจอเธอ ล้วนทำความเคารพเธอ เดี๋ยวทางซ้ายก็เรียกพี่หลัน เดี๋ยวทางขวาก็เรียกพี่หลัน

หลินหลันรู้สึกว่า ชีวิตของตนเองอยู่จุดสูงสุดแล้ว

"ปั้งๆๆ"

ในเวลานี้เอง เสียงเคาะประตูที่รุนแรงและร้อนใจดังขึ้น

"มาแล้วค่ะๆ"

หลินหลันร้องตะโกน เธอวางมีดหั่นผักในมือลง แล้วเดินไปที่ประตูใหญ่

"ปั้งๆๆ"

คล้ายว่าคนที่อยู่ด้านนอกเริ่มหงุดหงิดแล้ว เคาะประตูอย่างแรงอีกครั้ง

ครั้งนี้หลินหลันก็เริ่มทนไม่ได้แล้ว เธอร้องตะโกนและเริ่มต่อว่า "เคาะอะไรนักหนา?! ถ้าเคาะจนประตูบ้านฉันเสีย แกมีปัญญาชดใช้หรือไง!”

"ปั้ง"

สิ้นเสียง ประตูไม้แท้ก็ถูกทีบออก ทำให้หักเป็นสี่ห้าท่อน ไม้บินกระจัดกระจาย

หลินหลันเบิกตากว้างทันที เธอโมโหเป็นอย่างมาก ตั้งๆๆ เดินไม่ก้าวก็ถึงหน้าประตู ขณะที่เธอกำลังจะอ้าปากด่านั้น ก็พบกับดวงตาเย็นยะเยือกที่ไร้ซึ่งความรู้สึก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร