ลูกเขยมังกร นิยาย บท 290

บทที่ 290 เฉินห้าวเทียน

“พอเถอะ แม่ แม่ก็ออกไปก่อน หนูกับเฉินเฟิงจะคุยกันเป็นการส่วนตัว รอถามให้รู้เรื่องก่อน หนูค่อยมาบอกแม่” เสิ้งเมิ่งเหยานวดหว่างคิ้วของตัวเอง แล้วพูดขึ้นอย่างจนปัญญาเล็กน้อย ความเอาชีวิตรอดและกลัวตายของหลินหลัน มันได้ฝังอยู่ในสายเลือดตั้งนานแล้ว แค่ได้เข้าใกล้เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตัวเอง ก็ถือเรื่องใหญ่หมด

"ได้ งั้นฉันกลับก่อน แกถามดีๆ ล่ะ" หลินหลันกำชับเสิ่งเมิ่งเหยา เธอก็รู้ดี ในขณะที่ตัวเองยังคงพัวพันอยู่ที่นี่ เฉินเฟิงจะไม่พูดอะไรเลย

กลับเป็นเสี้ยเมิ่งเหยายังสามารถถามอะไรจากปากของเฉินเฟิงได้

หลินหลันออกจากห้องนอน เสี้ยเมิ่งเหยาหยุดชะงักไปแล้วเอ่ยถามขึ้น "เป็นคนของตระกูลเฉิน? "

"อืม เป็นลูกสาวของคุณลุงสอง"

"ทำไมเธอ......มาหาเรื่องคุณ? " เสี้ยเมิ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น เฉินเฟิงเป็นทายาทสืบทอดตระกูลเฉิน ตามหลักความจริงแล้ว ตำแหน่งที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน เขาน่าจะเป็นคนเดียวที่สำคัญที่สุด เหมือนตอนแรกที่เสี้ยห้าวอยู่ในตระกูลเสี้ย

ทว่ามองจากท่าทางของเฉินอิงโร กลับไม่ได้เห็นเฉินเฟิงอยู่ในสายตาเลย

“เพราะว่าผมคือลูกนอกสมรส......” เฉินเฟิงถอนหายใจ กลับไม่ได้ปิดบังอะไร และยังบอกทุกอย่างออกมา

สำหรับแม่ซูจ้าวชิงและพ่อเฉินห้าวเทียนยังมีความเคียดแค้นกัน เขากลับไม่รู้อย่างชัดเจน

ทว่าทุกคนของตระกูลเฉินกลับเคยพูดออกมาบ้าง

หลายปีก่อนเฉินห้าวเทียนเคยพาซูจ้าวชิงกลับบ้านเฉินไปหนึ่งครั้ง แล้วยังตะโกนต่อหน้าคุณท่านเฉินว่าถ้าไม่ใช่ซูจ้าวชิง เขาจะไม่สู่ขอ

สุดท้ายกลับถูกคุณท่านเฉินตีจนขาหักไปสองข้าง

ซูจ้าวชิงก็ถูกไล่ออกจากบ้านเฉิน

หลังจากที่เฉินห้าวเทียนและฉินเสวี่ยนหรัวแต่งงาน ทุกคนก็นึกว่าชีวิตนี้ซูจ้าวชิงก็คงไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนของตระกูลเฉินอีกต่อไป

ทว่าสามปีหลังจากนั้น ซูจ้าวชิงกลับปรากฏตัวอีกครั้ง

และยังพาเด็กอายุสามขวบมาหนึ่งคน

นั่นก็คือเฉินเฟิง

การปรากฏตัวของเฉินเฟิง ทำให้ตระกูลเฉินเกิดความวุ่นวายอีกครั้ง

ทุกคนในตระกูลเฉินไม่เห็นด้วยกับการรักษาเฉินเฟิงไว้

และมีคนส่วนหนึ่งของตระกูลเฉินอยากเก็บเฉินเฟิงอยู่ในตระกูลเฉิน ยังไงฐานะของเฉินเฟิงก็ยังมีสายเลือดที่สูงส่งของตระกูลเฉินอยู่ ถ้าให้เฉินเฟิงไปเร่ร่อนอยู่ข้างนอก กลัวว่าตระกูลเฉินจะถูกนินทา

และคนอีกกลุ่มหนึ่งมีความคิดที่จะไล่เฉินเฟิงออกจากตระกูลเฉิน เหตุผลก็คือเฉินเฟิงเป็นลูกเมียน้อย จะทำให้ตระกูลต้องเปรอะเปื้อนสิ่งสกปรก

ทั้งสองฝ่ายก็ได้ทะเลาะกันถึงเรื่องนี้จนไม่สามารถตกลงกันได้สักที สุดท้าย คุณท่านเฉินก็ได้ตัดสินใจ

เก็บไว้!

เฉินเฟิงสามารถใช้ชีวิตที่ดื่มด่ำกับการได้เป็นลูกหลานของตระกูลเฉินที่ยังต้องฝึกวิชาการต่อสู้และได้รับการศึกษาที่ดี ทว่าไม่สามารถบอกกับคนอื่นว่าตัวเองเป็นลูกหลานของตระกูลเฉิน

คำพูดของคุณท่านเฉิน ทุกคนในตระกูลเฉิน ไม่มีใครกล้าขัดขืนอยู่แล้ว

ทว่าซูจ้าวชิงกับเฉินเฟิง ทุกคนในตระกูลเฉินก็ไม่สามารถให้สีหน้าที่ดีกับพวกเขาได้

สองปีก่อน ตอนที่เฉินห้าวเทียนยังอยู่ ทุกคนในตระกูลเฉินยังสามารถยับยั้งชั่งใจ ต่อให้เกลียดซูจ้าวชิงและเฉินเฟิง ทุกคนในตระกูลเฉินก็จะไม่แสดงทีท่าออกมาอย่างชัดเจน

ทว่าสองปีผ่านไป หลังจากที่เฉินห้าวเทียนหายไปอย่างลึกลับ ทุกคนของตระกูลเฉินจึงเปลี่ยนสีหน้าเป็นอย่างอื่นทันที สีหน้าที่ทำต่อซูจ้าวชิงและเฉินเฟิงนั้นย่ำแย่มาก ไม่เพียงแต่ขัดขว้างการศึกษาและการศึกศิลปะการต่อสู้ แล้วยังไล่ซูจ้าวชิงและเฉินเฟิงไปยังที่ๆ คนใช้อยู่

และต้องทนกับคำพูดที่เย็นชา เฉินเฟิงอยู่ที่บ้านเฉินไปสิบห้าปี

ถ้าไม่ใช่เพราะสามปีก่อน ซูจ้าวชิงป่วยตาย เขาก็คงจะอยู่ในบ้านเฉินต่อ

ถึงแม้เฉินเฟิงจะบอกเล่าอย่างชิวๆ ทว่าเสี้ยเมิ่งเหยาฟังจบ กลับรู้สึกเจ็บปวดใจมาก เธอนึกไม่ถึงว่าเฉินเฟิงกลับต้องผ่านชีวิตที่มืดมนมากขนาดนี้

ในตระกูลใหญ่ที่สูงส่งอย่างตระกูลเฉิน การที่เป็นลูกเมียน้อยและเป็นแม่ที่ไม่มีฐานะอะไรจะถูกคำพูดเย็นชานินทา ไม่ต้องคิดก็รู้

ทว่าต่อให้เป็นแบบนี้ เฉินเฟิงก็ต้องอดทนต่อไป

เวลานี้ เสี้ยเมิ่งเหยาก็เข้าใจทันที ทำไมที่ผ่านมาเขาถึงไม่พูดถึงเรื่องของตระกูลเฉินให้เธอฟัง

เขาไม่ใช่ทายาทที่สืบทอดตระกูลเฉินอะไรทั้งนั้น การที่ได้เป็นทายาทสืบทอดตระกูลเฉิน สำหรับเขาแล้ว มันแค่แผนการร้ายของเขาเท่านั้น

“ทำไมเฉินเจิ้นหนานต้องให้คุณเป็นทายาทผู้สืบทอดของตระกูลเฉินล่ะ? ฐานะของคุณมีอะไรดี ทำไมเขาถึงทำแบบนี้?” เสี้ยเมิ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น เฉินเจิ้นหนานไม่ได้มีฐานะที่สูงส่งในตระกูลเฉินเลย เขาไม่มีแต่งตั้งเฉินเฟิงเป็นทายาทสืบทอดอย่างไร้เหตุผล ต้องเป็นเพราะในตัวของเฉินเฟิง มีอะไรบางอย่างที่เขาไม่ให้ความสำคัญไม่ได้

เฉินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่นแล้วส่ายหัว “ผมบอกว่าผมไม่รู้ คุณจะเชื่อไหม?”

“เชื่อ!” เสิ้งเมิ่งเหยาพูดขึ้นตรงๆ

เฉินเฟิงถอนหายใจ “จริงๆ แล้ว ผมก็เดาออกคร่าววๆ เฉินเจิ้นหนานให้ผมเป็นผู้สืบทอด เกรงว่าคงจะเกี่ยวกับพ่อที่เอาเปรียบผมคนนั้นแน่นอน”

“เฉินห้าวเทียน?” เสี้ยเมิ่งเหยาขมวดคิ้วทรงสวยขึ้น

“อืม” เฉินเฟิงพยักหน้า “พ่อที่เอาเทียบคนนั้นของผม ตอนผมอายุห้าขวบก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน”

“เขาไปไหน ทำอะไร ไม่มีใครรู้เลย”

“หนึ่งเดียวที่ผมรู้ ภายในตระกูลเฉิน เขามีฐานะที่สูงส่งมาก”

“รุ่นผู้น้อยของตระกูลเฉิน ศิลปะการต่อสู้ที่เขาฝึก เป็นระดับที่สูงและลึกที่สุด ต่อให้เฉินเจิ้นหนาน ตอนนั้นก็ยังเทียบเขาไม่ติด”

“ครั้งนี้เฉินเจิ้นหนานจู่ๆ ก็แต่งตั้งผมคือผู้สืบทอดตระกูลเฉิน น่าจะเกี่ยวกับเขาแน่นอน นอกจากเขา ผมก็คิดเหตุผลอะไรไม่ออก”

เฉินเฟิงทำสีหน้าที่ดูซับซ้อนทันที

สำหรับเฉินห้าวเทียน ถ้าบอกว่าไม่เกลียดเขาก็เป็นไปไม่ได้ ยังไงเฉินห้าวเทียนก็ยังไม่เคยทำหน้าที่ของพ่อเลย

ทว่าเฉินเฟิงก็รู้ดี เรื่องตอนนั้น เฉินห้าวเทียนไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้

ถ้าเขาไม่ไปแต่งงานกับองค์หญิงน้อยของตระกูลฉิน ซูจ้าวชิงก็คงไม่มีชีวิตอยู่ต่อในวันที่สองแน่นอน และแน่นอนว่าเฉินเฟิงก็คงไม่ได้มีวันนี้

"งั้นตอนนี้คุณจะทำยังไง? " เสี้ยเมิ่งเหยาถามอย่างเป็นห่วง ถึงแม้เฉินเฟิงบอกได้ไม่ชัดเจน ทว่าเธอก็รู้ว่า ทุกคนในตระกูลเฉิน ตอนนี้นอกจากเฉินเจิ้นหนานเท่านั้นที่แสดงท่าทีที่ไม่ชัดเจนออกมา คนอื่นๆ ก็เห็นว่าเฉินเฟิงเป็นหนามในตาอยู่แล้ว

พวกเขาไม่มีทางยอมให้ลูกเมียน้อยควบคุมตระกูลเฉินแน่นอน

ดังนั้นพวกเขาต้องกำจัดเฉินไม่ช้าก็เร็วแน่นอน

" ไม่ต้องเป็นห่วงมาก ตระกูลเฉินคงไม่มีทางลงมือกับผมตอนนี้" เฉินเฟิงคลายยิ้มอ่อนๆ แล้วพูดขึ้น

หลังจากที่กำจัดเฉินอิงโร นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้ว ทว่าในเวลาสองวันนี้ ตระกูลเฉินกลับไม่ได้ส่งข่าวอะไรออกมาเลย

พวกเขาอาจจะรวบรวมกำลัง แล้วรอให้ตัวเองโจมตีทีเดียวอย่างสุดชีวิต ไม่งั้นก็รอให้เฉินเจิ้นหนานเอ่ยพูดก่อน เฉินเจิ้นหนานไม่พูดอะไรออกมา พวกเขาก็ไม่กล้าทำตัวเองตัวเอง

เฉินเฟิงคาดเดา เหตุใดด้านหลังนั้นมีความเป็นไปได้มากกว่า

เพราะว่าตอนนี้เฉินเจิ้นหนานมีฐานะสูงส่ง ต่อให้เป็นเฉินโป๋ยุง ก็ยังไม่สะทกสะท้านอะไรเขา

ก่อนที่ยังไม่รู้ว่าเฉินเจิ้นหนานคิดอะไรอยู่ เฉินโป๋ยุงไม่กล้าลงไม้ลงมือกับเขา

ตอนนี้เธอสังเกตเห็นว่าตัวเองไม่ได้เรื่องเลย ทุกครั้งที่เฉินเฟิงเกิดเรื่อง เธอไม่เคยช่วยเขาได้

ช่วยเฉินเฟิงไม่ได้ก็ช่างเถอะ แม้กระทั่งบางครั้งเธอยังทำให้เฉินเฟิงลำบากไปด้วย แล้วยังทำให้สมาธิของเฉินเฟิงหายอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร