ลูกเขยมังกร นิยาย บท 292

บทที่ 292 จุดอ่อน

ฉินเสวี่ยนหรัวยิ้มหวานบอกว่า: “บอกคุณอย่างไม่ปิดบังเลยนะ เฉินห้าวเทียนดีกับฉันไม่น้อย”

“ดีไม่น้อย?” เสี้ยเมิ่งเหยาอึ้ง

“อืม ก็ดีนะ”

“เขาเข้าอกเข้าใจฉัน อ่อนโยนมาก แทบจะเป็นสามีที่เพอร์เฟคส์เลยทีเดียว”

มีข้อเสียแค่อย่างเดียวคือ...เขาไม่ได้รักฉัน” ฉินเสวี่ยนหรัวพูดตรงประเด็น และเผยรอยยิ้มขืนบนใบหน้าเธอ

เสี้ยเมิ่งเหยาเม้มปาก ไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้เธอรู้สึกเห็นใจฉินเสวี่ยนหรัวขึ้นมา

ฉินเสวี่ยนหรัวในตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็นคุณหนูตระกูลสูง ฐานะดีเยี่ยมไม่พอ ยังเป็นเจ้าหญิงน้อยตระกูลฉินที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตระกูล รับรองว่าคนตามจีบไม่น้อยแน่

แต่สุดท้ายเธอกลับแต่งงานกับเฉินห้าวเทียน

แต่งงานกับเฉินห้าวเทียนที่ทั้งหัวใจเต็มไปด้วยซูจ้าวชิง

เธอร่วมเรียงเคียงหมอนกับเฉินห้าวเทียนมาห้าหกปี มอบความสวยความสาวที่มีค่าที่สุดของผู้หญิงคนหนึ่งให้เขาไป แต่สุดท้ายกลับไม่ได้แม้แต่จะเข้าไปอยู่ในใจเฉินห้าวเทียนเลย

“ไม่ต้องเห็นใจฉัน คนอย่างฉันฉินเสวี่ยนหรัว ไม่ต้องการความเห็นใจจากใครทั้งสิ้น”

ฉินเสวี่ยนหรัวมองเสี้ยเมิ่งเหยาหนึ่งที พลางยิ้มบาง

“ฉันไม่ได้เห็นใจคุณ” เสี้ยเมิ่งเหยาปฏิเสธปากแข็ง

“งั้นหรอ?” ฉินเสวี่ยนหรัวไม่แยแส

แต่เธอไม่คิดจะจิกคำถามนี้ต่อไป และวกคำถามกลับมาที่เฉินเฟิง: “คุณรู้ไหมว่า ตระกูลเฉินว่ายังไงหลังเฉินอิงโรกลับไปที่ตระกูลแล้ว?”

“ว่ายังไง?”

“เดือดพล่านเป็นไก่โดนน้ำร้อนลวกน่ะสิ” ฉินเสวี่ยนหรัวพูดตรงเผง

“พี่ชายเฉินอิงโร เฉินอิงไฉรีบนำกลุ่มชิงหลงกลับมาจากกองทัพเป่ยเจียง”

“พี่สาวเฉินอิงโร เฉินอิงจี รวบรวมจอมยุทธ์แทบทั้งหมดในฮงเยคลับ”

ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินโป๋ยุงห้ามไว้ พวกเขาคงบุกมาเมืองชางโจวตั้งแต่เมื่อวานซืนแล้ว”

“เฉินโป๋ยุง...ทำไมต้องห้ามไว้?” เสี้ยเมิ่งเหยาอดถามไม่ได้ เฉินโป๋ยุงเป็นเจ้าบ้านอันดับสองของตระกูลเฉิน เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีฐานอำนาจมากที่สุดในตระกูลเฉินรองจากเฉินเจิ้นหนาน

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ?” ฉินเสวี่ยนหรัวเบ้ปาก: “เจ้าจิ้งจอกเฒ่านั่นในสมองคิดอะไร ฉันไม่รู้หรอก แต่ว่าเรื่องนี้เขาคงไม่ยอมจบง่ายๆแบบนี้แน่”

“ไม่นานเขาต้องมาหาเรื่องเฉินเฟิงแน่”

ใบหน้าเสี้ยเมิ่งเหยาฉายแววเป็นห่วงวาบขึ้นมา ไม่ต้องสงสัยเลย อำนาจล้นฟ้าของตระกูลเฉินไม่ใช่อะไรที่เฉินเฟิงจะต้านทานได้เลย

“คุณหนูเสี้ย รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงอยากให้คุณหย่ากับเฉินเฟิง?” ฉินเสวี่ยนหรัวถามยิ้มๆ

“เพราะอะไร?” เสี้ยเมิ่งเหยาถามกลับเสียงเย็น ไม่ว่าเป้าหมายของฉินเสวี่ยนหรัวคืออะไร เวลานี้เธอจะเผยไต๋ไม่ได้

“เพราะคุณคือจุดอ่อนของเฉินเฟิง”

ฉินเสวี่ยนหรัวมองเสี้ยเมิ่งเหยาด้วยแววตาจริงจัง “ครั้งนี้ที่เฉินโป๋ยุงไม่ลงมือกับเฉินเฟิง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกรงเฉินเจิ้นหนาน แต่อีกส่วนเพราะคุณ”

“เพราะฉัน?” เสี้ยเมิ่งเหยาขมวดคิ้วมุ่น ทำหน้าไม่เข้าใจ

“ใช่ เพราะคุณ”

“เฉินโป๋ยุงรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของคุณกับเฉินเฟิง ถ้าเขากำคุณไว้ ก็เท่ากับกำเฉินเฟิงไว้ได้ ดังนั้นขอแค่คุณอยู่ที่ชางโจว เขามาแก้แค้นกับเฉินเฟิงเมื่อไหร่ก็ได้” ความหมายที่ฉินเสวี่ยนหรัวพูดมันบอกชัด

เสี้ยเมิ่งเหยาหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ความหมายของฉินเสวี่ยนหรัวมันมีเหตุผลจริงๆ

เธอเป็นเส้นตายของเฉินเฟิง เป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เป็นจุดอ่อนของเขาด้วย

แค่เฉินโป๋ยุงกำราบเธอได้ ก็มีวิธีเป็นพันวิธีจัดการเฉินเฟิงได้

“แต่มันเกี่ยวอะไรกับการให้ฉันหย่ากับเฉินเฟิงล่ะ? ฉันกับเขาหย่ากันแล้ว เฉินโป๋ยุงจะไม่ใช้ฉันเป็นเครื่องมือทำร้ายเฉินเฟืงแล้วหรอ?” เสี้ยเมิ่งเหยาถามกลับ คนอย่างเฉินโป๋ยุงคงไม่ยอมโดนหลอกง่ายๆแน่ ต่อให้เธอหย่ากับเฉินเฟิงจริงๆ เฉินโป๋ยุงก็ต้องหาโอกาสจากตัวเธอต่อไปแน่

“แค่คุณหย่ากับเฉินเฟิงน่ะ เขายังอาศัยคุณทำลายเฉินเฟิงอยู่ดีแหละ”

“แต่ถ้าหลังจากที่คุณหย่ากับเฉินเฟิงแล้ว คุณกลายเป็นคนของฉัน เขาจะไม่อาศัยคุณเป็นเครื่องมือทำร้ายเฉินเฟิงอีก” ฉินเสวี่ยนหรัวพูดเสียงเรียบ

“เป็นคนของคุณ?”

“ใช่ เป็นคนของฉัน ฉันจะจัดวางธุรกิจที่จงไห่ของฉันให้คุณดูแล” ฉินเสวี่ยนหรัวบอก

“ทำไมคุณต้องทำอย่างนั้นด้วย? ฉันอยากรู้ เหตุผลที่คุณทำแบบนี้เพราะอะไรกันแน่?” เสี้ยเมิ่งเหยาสูดลมหายใจเข้าปอดหนึ่งเฮือก ก่อนถามอย่างสงบ

ความหมายของฉินเสวี่ยนหรัวชัดมาก เธอจะยืนอยู่ข้างเฉินเฟิง คอยช่วยเขาต้านทานเฉินโป๋ยุง

แต่เสี้ยเมิ่งเหยาไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมฉินเสวี่ยนหรัวต้องทำแบบนี้? เฉินเฟิงเป็นลูกของศัตรูหัวใจเธอ เวลานี้เธอไม่ซ้ำเติมเฉินเฟิงซักดอกก็ถือว่าดีมากแล้ว แล้วนี่จะเอาเฉินเฟิงเป็นพวก

“เหตุผลที่ฉันทำแบบนี้ ต่อไปคุณจะรู้เอง” ฉินเสวี่ยนหรัวยิ้มบาง: “ตอนนี้คุณแค่บอกสิ่งที่คุณเลือกก็พอ”

“สิ่งที่ฉันเลือก...”

เสี้ยเมิ่งเหยาลังเลเล็กน้อย ถ้าเลือกได้ เธอไม่อยากหย่ากับเฉินเฟิงเลย แต่สถานการณ์ตอนนี้มันแบหลาอยู่ตรงหน้าแล้ว ต่อหน้าศัตรูตัวฉกาจอย่างเฉินโป๋ยุง เฉินเฟิงขยับตัวยาก ถ้าเธอไม่รีบเลือกล่ะก็ เธออาจจะกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่กดทับเฉินเฟิงตายก็ได้

“มีแต่ต้องหย่าเท่านั้นหรอ?” เสี้ยเมิ่งเหยาอดถามไม่ได้

“มีแต่ทางนี้ทางเดียว” ฉินเสวี่ยนหรัวพูดอย่างเย็นชา

“เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฉินจะไม่ยอมให้ฉันเข้าไปก้าวก่ายเรื่องระหว่างเฉินเฟิงกับเฉินโป๋ยุงอย่างเปิดเผยเด็ดขาด”

“มีแค่คุณหย่ากับเฉินเฟิงและกลายเป็นอิสระ ฉันถึงจะสามารถอาศัยคุณเป็นสื่อกลางเข้าไปแทรกสงครามระหว่างเฉินเฟิงกับเฉินโป๋ยุงอย่างลับๆได้”

“ถึงตอนนั้นต่อให้ฉันช่วยคุณ ทางผู้อาวุโสก็ไม่ว่าอะไร”

เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้าน้อยๆ ความหมายของฉินเสวี่ยนหรัวชัดเจนมาก หากเธอกับเฉินเฟิงหย่ากัน พูดง่ายๆคือให้คำตอบกับเหล่าอาวุโส และให้ทางลงกับเฉินโป๋ยุงและฉินเสวี่ยนหรัว

เฉินโป๋ยุงไม่ใช่ไม่รู้ว่าคนที่ยืนแบ็คหลังเธอคือฉินเสวี่ยนหรัว แต่ต่อให้รู้ เขาก็ทำอะไรฉินเสวี่ยนหรัวไม่ได้ เพราะวิธีการของฉินเสวี่ยนหรัวไม่ได้ทำผิดกฎตระกูลเฉิน

“ได้ ฉันหย่า” หลังจากสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกหนึ่ง เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างสงบ

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นี่เป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้ ถึงฉินเสวี่ยนหรัวอาจจะไม่หวังดีกับเฉินเฟิงเหมือนกัน แต่อย่างน้อยตอนนี้ฉินเสวี่ยนหรัวก็ยืนข้างเฉินเฟิง

ฉินเสวี่ยนหรัวพยักหน้า เธอดูไม่แปลกใจกับการตัดสินใจของเสี้ยเมิ่งเหยาเลย

“อีกสามวันไปจงไห่ จงไห่เป็นถิ่นฉัน ในถิ่นฉันจะไม่มีใครกล้าทำร้ายคุณได้” มีแววอหังการอยู่ในคำพูดของฉินเสวี่ยนหรัว

พอพูดจบ ฉินเสวี่ยนหรัวก็พาคนรับใช้ร่างดำออกไปจากโรงพยาบาล

เหลือเสี้ยเมิ่งเหยานั่งเหม่อคนเดียวบนเตียงคนไข้...

ตอนนี้เฉินเฟิงมาถึงจินจือถัง

พอเห็นเฉินเฟิงมา กู้ตงเซินหยิบวัตถุดิบสูงค่าหลากหลายที่เตรียมไว้พร้อมแล้วออกมา เฉินจื๋อเหวินหยิบบัวหิมะซินเจียงสองเม็ดออกมา

“เจ้าสามหวงเป็นยังไงบ้าง?”

เฉินเฟิงถาม ถ้าพิษไฟในตัวเจ้าสามหวงต้องรีบถอนด่วน เขาคิดจะให้เฉินจื๋อเหวินเอาบัวหิมะซินเจียงไปก่อน ถ้าไม่รีบ เขาจะเป็นคนเอาไปเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร