ลูกเขยมังกร นิยาย บท 301

บทที่ 301 แบบนี้ก็ได้

“ไม่สะดวก? มีอะไรไม่สะดวก”

“เจ้าขยะนี่ก็อยู่นี่ไง? ให้เขาดูแลเมิ่งเหยาก็ได้นี่”

หลินเย่นเบ้ปากลอก คำว่าไม่สะดวกของหลินหลันยิ่งทำให้เธอมั่นใจ บ้านใหญ่ที่ว่าเป็นของปลอม หลินหลันโม้แน่ ไม่งั้นคงไม่หลบๆซ่อนๆแบบนี้

“นั่นสิ น้าสาม ให้เฉินเฟิงดูแลพี่เมิ่งเหยาละกัน น้าพาหนูกับแม่ไปดูบ้านเถอะ ได้ยินแม่บอกว่า บ้านน้าน่ะสี่สิบกว่าล้านแน่ะ หนูยังไม่เคยเห็นบ้านราคาสี่สิบกว่าล้านเลยนะ” ถางรั่วเสวี่ยนยิ้มละไม แต่ในรอยยิ้มนั่นกลับเสียดสีบางๆไว้ บ้านราคาสี่สิบกว่าล้าน เธอยังไม่มีปัญญาเลย แล้วกับญาติจนๆอย่างหลินหลันเนี่ยนะ

“ได้ งั้นเดี๋ยวน้าสามพาไปดูละกัน” หลินหลันรับปาก ที่จริงแล้วเธอก็อยากเชิดหน้าชูตาต่อหน้าหลินเย่นสักครั้งเหมือนกัน และบอกหลินเย่นว่า ถึงตอนนี้บ้านเธอยังไม่รวยเท่าหลินเย่น แต่อนาคตเธอไม่แน่ว่าจะด้อยกว่าหลินเย่น

เพราะบ้านที่เธออยู่ เป็นของขวัญที่เสิ่นหงชังคนรวยอันดับหนึ่งของชางโจวมอบให้

“ดูแลเมิ่งเหยาดีๆนะ ฉันพาป้าใหญ่ไปดูบ้าน” หลินหลันปรายตามองเฉินเฟิงเย็นชา พูดจบก็พาหลินเย่นกับถางรั่วเสวี่ยนออกจากห้องพักคนไข้

เฉินเฟิงส่ายหน้า เขาพบว่าญาติของหลินหลันนั้น คนหนึ่งแย่กว่าอีกคนหนึ่งเสมอ อย่างซุนกุ้ยฟางกับหลินต้ายงเมื่อครั้งก่อนไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว

หลินเย่นคราวนี้ยิ่งแล้วใหญ่

เสี้ยเมิ่งเหยาพึ่งได้รับบาดเจ็บมาแท้ๆ แต่ตั้งแต่หลินเย่นเข้ามาในห้องพักจนออกไป ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่ถามไถ่เมิ่งเหยาเลยสักครั้ง เหมือนความเป็นความตายของเสี้ยเมิ่งเหยาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลย

เรียกได้ว่าเลือดเย็นถึงที่สุด

ในสายตาหลินเย่น คำว่าญาติคงเป็นแค่เครื่องมือให้ใช้ประโยชน์เท่านั้นเอง

ครึ่งชม.ต่อมา หลินหลันพาหลินเย่นกับถางรั่วเสวี่ยนมาถึงยู่ฉวนซาน

ตลอดทางหลินหลันดูสบายๆ เทียบกันแล้ว หลินเย่นสองแม่ลูกกลับดูไม่สบายเท่าไหร่

โดยเฉพาะหลินเย่น เริ่มมีสีหน้าไม่สบายใจขึ้นมา

“แม่คะ เสิ่นหงชังที่ว่ารวยอันดับหนึ่งของชางโจวนั่น คงไม่ให้บ้านกับน้าสามจริงๆหรอกนะ?” หลินเย่นสองแม่ลูกเดินตามหลัง ถางรั่วเสวี่ยนกระซิบถาม

ที่ชางโจว ชื่อเสียงเสิ่นหงชังดังอยู่มากโข ด้วยมีทรัพย์สินราวสามหมื่นล้านจนเรียกได้ว่ารวยอันดับหนึ่งของชางโจว

ทรัพย์สินของเสิ่นหงชัง ต่อไปอยู่เมืองอื่นอย่างจงไห่ ก็ต้องติดอันดับก่อนสามสิบ

คนรวยแบบนี้มาให้บ้าน บ้านน่ะยังเป็นเรื่องรอง เรื่องหลักคือความสัมพันธ์ของคนให้และคนรับ!

ก็คือเส้นสาย

ถ้าหลินหลันมีเส้นสายกับคนรวยเข้า งั้นหลินหลันจะไม่ใช่ญาติจนๆอีกต่อไป อย่างน้อยในเครือตระกูลหลิน ฐานะของหลินหลันจะไม่ต่ำกว่าหลินเย่นมากนัก

ทั้งสองคนเดินตามหลินหลันอย่างคาดเดา จนมาถึงหน้าประตูบ้านเสี้ย

พอเห็นหลินหลันหยิบกุญแจออกมาเปิดประตู สองแม่ลูกยิ่งตื่นเต้นและไม่สบายใจหนักขึ้น

“พี่เย่น รั่วเสวี่ยน นี่รองเท้าแตะนะ” พอเข้ามา หลินหลันก็หยิบรองเท้าแตะสองคู่ออกมาบอกให้ทั้งคู่เปลี่ยน

แต่ทั้งคู่ไม่แยแสหลินหลันสักนิด ต่างพากันเข้าไปในบ้านและกวาดตามองไปรอบๆ

พื้นที่บ้านคือสองร้อยสี่สิบกว่าตารางเมตร แค่ห้องรับแขกก็ปาเข้าไปแปดสิบตารางเมตร มีสี่ห้องนอน สองห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว และมีสระว่ายน้ำขนาดเล็ก ถึงจะบอกว่าเป็นเขตที่พักอาศัยระดับสูง แต่การตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ไม่ด้อยกว่าเขตคฤหาสน์เท่าไหร่เลย

หลินเย่นสองแม่ลูกยิ่งดูยิ่งปวดใจ เต็มไปด้วยความริษยา

บ้านใหญ่แบบนี้ ต่อให้เป็นพวกเธอ ก็ไม่มีปัญญาอยู่

แถมตอนเข้ามา สภาพแวดล้อมรอบๆพวกเธอก็เห็นแล้ว เรียกได้ว่าอยู่ในเกรดสูงสุด

หมายความว่า ราคาบ้านนี้ต้องมากกว่าสิบล้านแน่นอน!

บ้านราคาสี่สิบกว่าล้าน หลินเย่นริษยาแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

ยัยหลินหลันถือดีอะไร ได้อยู่บ้านราคานี้

“แม่คะ บ้านนี่น้าสามเช่าหรือเปล่า?” ถางรั่วเสวี่ยนถามอย่างรังเกียจ เธอก็ไม่สามารถรับได้เหมือนกันที่หลินหลันได้อยู่บ้านดีขนาดนี้

สมองหลินเย่นสับสนไปหมด พอได้ยินลูกสาวพูดแบบนี้ เธอก็โมโหขึ้นมา คนอย่างหลินหลัน ใช่ว่าจะทำเรื่องประเภทเอาบ้านเช่ามาโม้ว่าเป็นบ้านตนไม่ได้

“หลินหลัน บ้านนี่ใหญ่แค่ไหนหรอ?” ถึงจะอยากพิสูจน์ความคิดตัวเอง แต่หลินเย่นไม่ได้ถามตรงๆ แต่ถามอ้อมๆ

“สองร้อยสี่สิบตารางเมตร” หลินหลันตอบยิ้มๆ

“สองร้อยสี่สิบตารางเมตรหรอ” หลินเย่นพยักหน้าน้อยๆ ถามอีก: “มีทะเบียนบ้านไหม? ฉันอยากดูหน่อยว่าทะเบียนบ้านพื้นที่สองร้อยสี่สิบตารางเมตรนี่เป็นยังไง”

“มี” หลินหลันยิ้มน้อยๆ เหมือนเดาได้ว่าหลินเย่นจะถามแบบนี้ และหยิบทะเบียนบ้านออกมาให้

หลินเย่นสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย รับมาและเปิดดูอย่างรวดเร็ว

พอเห็นชื่อเจ้าของบ้านเป็นหลินหลัน การเปลี่ยนสีบนหน้าหลินเย่นเรียกได้ว่ามาเป็นชุดเลยทีเดียว

จริง บ้านนี้เป็นของหลินหลัน! แถมในทะเบียนบ้านยังมีแต่ชื่อหลินหลันคนเดียว!

หลินเย่นรู้สึกแสบหน้าเอามากๆ

เธอโดนหลินหลันตบหน้าแตกสองรอบแล้ว

“พี่เย่น ทำไมสีหน้าแย่แบบนี้ล่ะ หรือว่าทะเบียนบ้านฉันมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” หลินหลันถามทั้งๆที่รู้ แต่ในใจแทบตีปีก

การที่หลินเย่นมาที่นี่ เธอไม่ใช่ไม่รู้ แต่ยิ่งรู้ยิ่งดีใจ

เธอแข่งกับหลินเย่นมาหลายปี รู้มานานแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไง

สำหรับญาติมิตรและเพื่อน พวกเธอสองคนยอมรับได้แต่พวกที่ด้อยกว่าตน แต่ไม่มีทางยอมรับพวกที่ดีกว่าตนแน่

“เปล่า...ไม่มีอะไร” หลินเย่นส่ายหน้า พยายามสะกดกั้นสีหน้าไม่ดีของตนลงไป

ไม่ต้องถามเลย ครั้งนี้เธอแพ้ราบคาบให้กับหลินหลัน

“น้าสาม น้าบอกว่าเสิ่นหงชังมอบบ้านนี้ให้น้าหรอ?” ถางรั่วเสวี่ยนยังถามต่ออย่างไม่ยอมแพ้ ถึงบ้านจะเป็นของหลินหลัน แต่เธอก็ไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่า เสิ่นหงชังมอบบ้านนี้ให้หลินหลัน นี่บ้านราคาสี่สิบกว่าล้านนะ ไม่ใช่ผักกาดข้าว ไหงเสิ่นหงชังจะมอบให้ง่ายๆ

หลินหลันพยักหน้า : “อืม ใช่สิ บ้านนี้คุณเสิ่นเขาพาพวกน้ามาดูเองเลยนะ พอดูเสร็จ ก็ให้น้าลงชื่อเซ็นรับทะเบียนบ้านเลย แล้วก็ให้ฝ่ายขายเอากุญแจให้น้า”

“คุณเสิ่นเขาทำไมต้องมอบบ้านให้น้าด้วยล่ะ?” ถางรั่วเสวี่ยนถามต่อ

“เพราะพนักงานฝ่ายขายของเขาเกือบหลอกน้าซื้อบ้านที่มีคนตายมาก่อน...” หลินหลันไม่คิดปิดบัง และเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมา

พอรู้ว่าหลินหลันได้บ้านราคาสี่สิบกว่าล้านมาด้วยวิธีนี้ สองแม่ลูกเบิกตากว้างแทบถลน

แบบนี้ก็ได้?! !

“หลินหลัน เธอโชคดีเกินไปไหม” น้ำเสียงหลินเย่นออกแนวประชดกลายๆ นอกจากโชคดีแล้ว เธอไม่รู้จะพูดหลินหลันยังไงแล้ว เดิมคิดจะซื้อบ้านราคาล้านกว่า สุดท้ายไม่ได้จ่ายสักแดง ก็ได้คนมอบบ้านราคาสี่สิบกว่าล้านมาให้ฟรีๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร