ลูกเขยมังกร นิยาย บท 332

บทที่ 332 ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมียมาเยือน

คฤหาสน์ตระกูลหวางอยู่แถวแรกของจิ่งซวี่โก๋จี้ ดังนั้นเฉินเฟิงเลยไม่ได้ใช้เวลามากมายอะไร ก็หาคฤหาสน์ตระกูลหวางเจอ

พอมาถึงหน้าประตู กดออดเสร็จ คุณป้าใส่ชุดแม่บ้านเดินมามองเฉินเฟิงอย่างระแวง “คุณคือ...”

“ผมคือเฉินเฟิง มาหาคุณอาหวาง” เฉินเฟิงพูดเนิบๆ

“คุณอาหวาง?” คุณป้าทำหน้างง ก่อนถึงบางอ้อ “คุณหมายถึงคุณผู้ชายของเราล่ะสิ”

“ครับ”

“คุณผู้ชายของเราตอนนี้อยู่บ้าน แต่เขาป่วยมาหลายวันแล้ว ไม่สบายเอามากๆ ไม่สะดวกพบแขก คุณเฉิน คุณ...มีอะไรด่วนหรือเปล่าคะ?”

เฉินเฟิงขมวดคิ้ว ที่แท้หวางหงอี้ล้มป่วย มิน่าเสี้ยเว่ยกั๋วถึงติดต่อเขาไม่ได้เลย

“ใครน่ะ?” เฉินเฟิงเตรียมตัวจะกลับ ตอนนี้เองได้ยินเสียงแหลมปรี๊ดถามขึ้น

“คุณผู้หญิง มีคนชื่อเฉินเฟิงมาหาคุณผู้ชายค่ะ”

“เฉินเฟิง? เขาเป็นอะไรกับคุณผู้ชายล่ะ?” เสียงแหลมปรี๊ดถามขึ้นอีก

“เอ่อ คุณเฉิน คุณกับคุณผู้ชายของเรา...” แม่บ้านตระกูลหวางเบนสายตาเป็นคำถามกลับมาที่เฉินเฟิง

เฉินเฟิงไม่ได้ปิดบังฐานะตัวเอง และพูดอย่างเปิดเผยว่า: “ผมเป็นลูกเขยของเพื่อนคุณอาหวาง ก่อนนี้พ่อให้ผมมาคืนหยกให้คุณอาหวางครับ”

พอได้ยินอย่างนั้น แม่บ้านสีหน้าเปลี่ยนทันที: “คุณเป็นคนที่มาคืนหยกให้คุณผู้ชาย?”

“ครับ” เฉินเฟิงพยักหน้าสีหน้าเรียบเฉย

“คุณเฉิน รบกวนรอสักครู่นะคะ ดิฉันต้องเข้าไปเรียนคุณผู้หญิงก่อน”

แม่บ้านตระกูลหวางเดินเข้าไป แค่ไม่ถึงนาที ผู้หญิงผมลอนทองใส่ชุดไปรเวทพุ่งออกมา

ร่างเธอค่อนข้างท้วม ตอนวิ่งมา ไขมันบนตัวกระเพื่อมเป็นลอน ดูแล้วไม่น่าอ่อนแอเลย

ยังไม่ทันถึงหน้าเฉินเฟิง เธอก็ชี้หน้าเขาด่ากราดว่า: “แกยังมีหน้ามาบ้านฉันอีกหรอ?”

เฉินเฟิงขมวดคิ้ว ถ้าเขาเดาไม่ผิดล่ะก็ ผู้หญิงตรงหน้าคงเป็นเมียหวางหงอี้ เพิ้งเย้นฟางแน่ๆ

ตามที่เสี้ยเว่ยกั๋วบอก เพิ้งเย้นฟางนิสัยกร่างเอาแต่ใจ รับมือยากสุดๆ ตอนนี้เจอแล้ว ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย ทำไมจะไม่กล้ามาบ้านคุณล่ะ?” เฉินเฟิงพูดเนิบๆ

“ไอ้เลว?! แกยังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด?!”

“รอยฝ่ามือสองรอยบนหน้าลูกชายฉัน ฝีมือแกใช่ไหม?” เพิ้งเย้นฟางถามอย่างดุดัน

“ผมตบเขาเองแหละ” เฉินเฟิงยอมรับหน้าตาเฉย

“ทำไมแกต้องตบเขาด้วย? แกรู้ไหม ลูกฉันบอบบางแค่ไหน? ตั้งแต่เล็กจนโต ขนาดแม่แท้ๆอย่างฉันยังไม่เคยตีเขาสักเพี๊ยะ คนนอกอย่างแกถือสิทธิ์อะไรมาตบเขา? ถ้าแกตบเขาเป็นอะไรไป แกรับผิดชอบไหวหรอ?”

“ผมตบเขา เพราะเขาควรโดนตบ” น้ำเสียงเฉินเฟิงยังคงสงบราบเรียบ

แต่เพิ้งเย้นฟางโกรธตัวสั่นหลังได้ยิน: “อะไรนะ? ! สมควรโดนตบ?!”

“ขยะอย่างแกแน่จริงพูดอีกรอบสิ? แกเชื่อไหมวันนี้ฉันจะให้แกคลานเข่าออกจากที่นี่เลย?”

“แกนี่เอง!” ตอนนี้เอง หวางเต๋อฟาวิ่งออกมาจากในคฤหาสน์ พอเห็นเฉินเฟิง สายตาเขาแดงก่ำในฉับพลัน

เขาเดินมายืนหน้าเพิ้งเย้นฟาง ชี้หน้าเฉินเฟิงมือสั่น: “แม่ มันนี่แหละ มันนี่แหละ! ที่ตบผมน่ะ!”

“ลูกจ๋า วางใจเถอะ วันนี้แม่จะสั่งสอนมันให้ลูกเอง!” เพิ้งเย้นฟางพูดอย่างเจ็บแค้น เดิมคิดว่าเฉินเฟิงเอาเงินไปแล้วจะรีบไสหัวกลับชางโจว แต่ไม่คิดว่า เฉินเฟิงจะกล้าขนาดนี้ ยังกล้ามาบ้านเธอ

ในเมื่อมาแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะไปได้!

“ป้าหลิว โทรหายาม ให้หัวหน้าจ้าวพาคนมาเอาไอ้โจรนี่ให้ตาย!” เพิ้งเย้นฟางสายตาเย็นเยียบ

“ค่ะ คุณผู้หญิง” ป้าหลิวดูตกใจ รีบรับคำและหยิบมือถือออกมา

“ไอ้เลว แกยังกล้ามาบ้านฉัน! ฮะฮะฮะ ไม่รู้ว่าคำว่าตายสะกดยังไงซะแล้ว” หวางเต๋อฟาร้องตะโกนอย่างได้ใจ ลืมที่ตัวเองนั่นร้องไห้โฮบนพื้นหลังโดนเฉินเฟิงตบไปสองฉาดซะสนิท

เฉินเฟิงสีหน้าเย็นชา เดิมคิดว่า ต่อให้เพิ้งเย้นฟางจะกร่างแค่ไหนก็จะฟังเขาอธิบายซะหน่อย แต่ตอนนี้...

เขาคงกะระดับความกร่างไร้เหตุผลของเพิ้งเย้นฟางน้อยไปหน่อย

“ไอ้บ้านนอก ยังไม่รีบคุกเข่าลง ให้ลูกชายฉันคบแกสักยี่สิบฉาด!” เพิ้งเย้นฟางเอ่ยปาก ฐานะของเฉินเฟิง เธอเคยได้ยินหวางหงอี้พูดมาบ้าง

เป็นลูกเขยแต่งเข้าตระกูลเสี้ย ไม่ได้รับการยอมรับภายในตระกูลเสี้ยเลย

นิสัยอ่อนแอ ไม่มีความสามารถ นอกจากทำงานส่งสินค้าแล้ว ทำอย่างอื่นไม่เป็นเลย

ขยะแบบนี้ปกติเธอไม่ชายตาแลด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้มันกลับกล้ามาลองดีกับเธอ ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงซะเลย!

“ถ้าผมไม่คุกเข่าล่ะ?” เฉินเฟิงพูดเสียงเย็น

“ไม่คุกเข่า?” เพิ้งเย้นฟางยิ้มเหยียด: “ไม่คุกเข่า งั้นวันนี้แกอย่าคิดเดินออกจากจิ่งซวี่โก๋จี้!”

“ใช่ อย่าคิดเดินออกจากจิ่งซวี่โก๋จี้!” หวางเต๋อฟาแหวๆอยู่ข้างๆ จิ่งซวี่โก๋จี้เป็นถิ่นเขา ในฐานะเจ้าของจิ่งซวี่โก๋จี้ ตระกูลเขามีอำนาจให้ยามของจิ่งซวี่โก๋จี้ทำอะไรให้ก็ได้

“แม่ พี่ใหญ่ โหวกเหวกโวยวายอะไรกันน่ะ?”

เฉินเฟิงกำลังคิดจะพูด ก็ได้ยินเสียงใสแทรกขึ้นมาจากในคฤหาสน์

จากนั้น ผู้หญิงร่างโปร่งราวหนึ่งร้อยเจ็ดสิบซม.ใส่ชุดมีสไตส์เดินเข้ามา ข้างกายเธอมีผู้ชายร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ด้วย

ผู้ชายคนนั้นใส่แว่นตามอง ดูเรียบร้อย แต่ในแววตากลับส่อแววเย่อหยิ่งและเจ้าเล่ห์เอาไว้

“สื้อผิง ซือหยวน มากันได้ไงล่ะเนี่ย?” พอเห็นทั้งคู่ เพิ้งเย้นฟางเปลี่ยนเป็นสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี

ผู้ชายที่ชื่อสื้อผิงปรายตามองเฉินเฟิงหนึ่งที ก่อนยิ้มมุมปากถามว่า: “คุณป้า ให้ผมช่วยไหมครับ?”

“ไม่ต้องจ้ะ ไม่ต้อง สื้อผิง เรื่องนี้น้าจัดการเองได้ เรารีบไปทานข้าวเถอะ” เพิ้งเย้นฟางยิ้มบอก สายตาที่มองสื้อผิงส่อประกายพอใจ

“แม่คะ คนนี้ใครน่ะ?”

ผู้หญิงร่างสูงโปร่งปรายตาเหยียดมองเฉินเฟิง และไม่ปิดบังสายตาเหยียดหยามนั่นเลยสักนิด

“เขาชื่อเฉินเฟิง เป็นลูกเขยของเพื่อนทหารพิการพ่อเราน่ะ” เพิ้งเย้นฟางยิ้มเย็นบอก

เพื่อนทหารพิการ?

พอได้ยินเพิ้งเย้นฟางบอกแบบนี้ หวางซือหยวนนึกขึ้นได้ว่า เพิ้งเย้นฟางพูดถึงเสี้ยเว่ยกั๋ว

“ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมีย? เขามาบ้านเราทำไมคะ?” หวางซือหยวนมองเฉินเฟิงอย่างรังเกียจ ถึงเธอจะรู้เรื่องเขาไม่เยอะ แต่แค่คำว่าลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมียก็พอให้เธอตัดสินว่า เฉินเฟิงเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างที่สุด

แค่พอมีศักดิ์ศรีบ้าง ผู้ชายปกติที่ไหนก็ไม่ยอมแต่งเข้าบ้านเมียหรอก

มีแต่พวกไม่มีความสามารถ ชอบอาศัยเกาะกระโปรงผู้หญิงไปวันๆ ถึงจะวิ่งไปแต่งเข้าบ้านผู้หญิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร