ลูกเขยมังกร นิยาย บท 335

บทที่ 335 ลูกนอกสมรส

สามแสน พอผ่านมือเพิ้งเย้นฟาง กลายเป็นหนึ่งแสน พอถึงมือหวางเต๋อฟา เหลือแค่พันเดียว

ไม่ถึงหนึ่งในร้อยของเงินหนึ่งแสนในตอนนั้นด้วยซ้ำ!

ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของเขาคงป่นปี้ไม่เหลือดี!

“คุณลุง อย่าโมโหเลยครับ”

“พ่อคะ อย่าโกรธไปเลย”

พอเห็นหวางหงอี้ทำท่าโกรธจนแทบเป็นลม หลี่สื้อผิงกับหวางซือหยวนรีบเข้ามาช่วยประคอง

“พ่อ ผมขอโทษ ผมไม่อยากทำแบบนี้จริงๆนะ...” หวางเต๋อฟาร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม ที่จริงตอนนี้เขาเสียใจมาก ตอนนั้นที่ตัดสินใจให้เฉินเฟิงหนึ่งพันหน้าบ่อน เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า เรื่องมันจะออกมาเป็นแบบนี้

ในสายตาเขา คนบ้านนอกอย่างเฉินเฟิงไม่มีปัญญาสู้กับเขาได้หรอก เขาพูดยังไงก็เป็นลูกชายแท้ๆของหวางหงอี้ มีหรือที่หวางหงอี้จะไม่เชื่อเขา?

น่าเสียดาย เขาคาดเดาความสำคัญของตัวเองในใจหวางหงอี้มากไป และคาดเดาความสามารถของเฉินเฟิงต่ำไป เฉินเฟิงกล้าบุกตรงมาที่ตระกูลหวาง มาขอพบหน้าหวางหงอี้เพื่อพิสูจน์ความจริงกับเขาต่อหน้า

“ลูกทรพี หยกประจำตระกูลแกยังกล้าเอาไปพนัน ยังมีอะไรที่แกไม่กล้าทำอีก?” หวางหงอี้โกรธจนมือสั่น ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าหวางเต๋อฟาชอบเล่นพนัน แต่ไม่คิดว่าเขาจะติดการพนันถึงขั้นนี้ แม้แต่หยกประจำตระกูลยังกล้าเอาไปพนัน

“คุณลุง อย่าโกรธเลยครับ ผมพอรู้จักคนทางบ่อนอยู่บ้าง หยกที่พี่ใหญ่เอาไปพนัน ผมจะให้พวกเขาส่งคืนมาให้นะครับ” หลี่สื้อผิงพยุงหวางหงอี้ไป ก็พยายามปลอบ ทำให้หวางซือหยวนรู้สึกดีกับเขามากขึ้นทีเดียว

“พ่อคะ อย่าโกรธเลยค่ะ พี่ใหญ่เขาสำนึกผิดแล้วจริงๆ” หวางซือหยวนก็ปลอบหวางหงอี้ด้วย แต่ตอนเธอพูด กลับเหล่เฉินเฟิงอย่างเย็นชา และไม่ปิดบังแววตารังเกียจเลยสักนิด

ถึงเรื่องนี้หวางเต๋อฟาทำไม่ถูก แต่เธอรู้สึกว่าเฉินเฟิงเองก็ผิดเหมือนกัน

เฉินเฟิงไม่ควรมาหาเรื่องถึงที่นี่เพียงเพื่อเงินหนึ่งแสน

คนละโมบโลภมาก! หวางซือหยวนประเมินเขาแบบนี้ในใจ

ภายใต้การปลอบประโลมของหลายคน อารมณ์ของหวางหงอี้สงบขึ้นมาก เขามองหวางเต๋อฟา อย่างโกรธจัด พลางด่าว่า: “ลูกทรพี ยังไม่ขอโทษเสี่ยวเฟิงอีก!”

“ขอโทษ ขอโทษ เฉินเฟิง ฉันไม่ควรป้ายสีนาย ฉันละโมบโลภมาก ฉันได้คืบเอาศอก ขอให้นายยกโทษให้ฉัน...” ท่าทีหวางเต๋อฟาดูจริงใจ พูดไปก็ตบหน้าตัวเองไป

เฉินเฟิงขมวดคิ้ว ท่าทางหวางเต๋อฟาเห็นได้ชัดว่าแกล้งทำ แต่เขาทำถึงขนาดนี้แล้ว เฉินเฟิงก็พูดอะไรมากไม่ได้ เลยพูดสั้นๆว่า: “ต่อไปอย่าทำอีก”

“เฉินเฟิง วางใจได้ ไม่มีครั้งต่อไปแล้วล่ะ” หวางเต๋อฟารับปากเป็นมั่นเหมาะ ส่วนในใจคิดยังไงก็มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้

สีหน้าหวางหงอี้เริ่มดีขึ้น: “เสี่ยวเฟิง เรื่องนี้อาเองก็มีส่วนผิด อาควรจะไปรับเราด้วยตัวเอง เฮ้อ...”

“คุณอาหวาง อย่าพูดแบบนี้เลยครับ คุณอาไม่สบาย ผมเองก็เห็นอยู่ อีกอย่างผมมีมือมีเท้า มาเองได้ครับ” เฉินเฟิงยิ้มอย่างมีมารยาท

หวางหงอี้พยักหน้าเล็กน้อย หันไปมองเพิ้งเย้นฟาง และออกคำสั่งว่า: “เย้นฟาง ไปเอาเงินห้าแสนมาให้เสี่ยวเฟิง”

ห้าแสน?!

เขาไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม? พ่อบอกจะให้ไอ้บ้านนอกนี่ห้าแสน? ! หวางเต๋อฟาเบิกตากว้าง พริบตาเดียว เขาก็อิจฉาตาร้อนเป็นไฟ

ทางด้านเพิ้งเย้นฟางมีสีหน้าเดียวกัน กัดฟันจนแทบหัก

“ยังยืนอึ้งอะไรอยู่?! ไปหยิบสิ!” เห็นเพิ้งเย้นฟางไม่ขยับเขยื้อน หวางหงอี้เริ่มโกรธอีกครั้ง

เพิ้งเย้นฟางกระตุก ถึงจะไม่เต็มใจสุดๆ แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าขัดใจหวางหงอี้

พอกำลังจะลุกไปหยิบเงิน เฉินเฟิงพูดเนิบๆว่า: “คุณอาหวาง ห้าแสนมันมากไปครับ ผมรับไม่ได้หรอก ผมรับแค่หนึ่งแสนก็พอแล้ว”

“เสี่ยวเฟิง หนึ่งแสนจะพอได้ไงล่ะ? เหล่าเสี้ยตอนนั้นให้อายืมหนึ่งแสน ถ้าเอาไปฝากธนาคาร ตอนนี้ดอกเบี้ยยังเกินหนึ่งแสนเลย ยังมีเราอีก อุตส่าห์มาคืนหยกให้อาไกลถึงจงไห่ อากลับทำให้เราโดนใส่ร้ายป้ายสีขนาดนี้ ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม อาควรชดใช้ให้เรานะ”

“ห้าแสนมันไม่มากเลย อย่างน้อยสำหรับอา ยังน้อยไปซะด้วยซ้ำ!” คำพูดนี้ของหวางหงอี้หนักแน่น ไม่ให้โอกาสเฉินเฟิงปฏิเสธเลยสักนิด

ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้ เฉินเฟิงเลยยอมรับโดยดี

ไม่กี่นาที เพิ้งเย้นฟางหยิบบัตรธนาคารออกมาใบหนึ่ง ยื่นให้หวางหงอี้ด้วยสีหน้างอง้ำ

หวางหงอี้ยิ้มน้อยๆ ยื่นบัตรให้เฉินเฟิง

“เสี่ยวเฟิง เดี๋ยวอยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันนะ เรามาวันนี้ อาเองก็ไม่มีอะไรจะต้อนรับ ฝีมือการทำอาหารของป้าหลิวไม่เลวเลย บรรพบุรุษของเธอเคยเป็นพ่อครัวในวังหลวง ทำพระกระโดดกำแพงอร่อยมาก วันนี้ต้องลองให้ได้นะ”

หวางหงอี้พูดเกลี้ยกล่อมให้เฉินเฟิงอยู่ทานข้าวด้วยกัน

เฉินเฟิงยิ้ม เดิมคิดจะปฏิเสธ แต่เห็นพวกเพิ้งเย้นฟางสีหน้าบิดเบี้ยว เขาก็เปลี่ยนใจ

ไม่อยากเห็นหน้าฉัน? งั้นดี ฉันอยู่ทานข้าวนี่แหละ! เฉินเฟิงแอบยิ้มเย็น ตอบออกมาตรงๆเลยว่า: “งั้นรบกวนป้าหลิวด้วยนะครับ”

“ฮะๆ ไม่รบกวนไม่รบกวน มีอะไรน่ารบกวนกัน” หวางหงอี้หัวเราะร่วน กวักมือเรียกเฉินเฟิงนั่งลง เริ่มคุยถามสารทุกข์สุขดิบกับเฉินเฟิง

หลังจากถามชีวิตอัพเดทของเสี้ยเว่ยกั๋วกับหลินหลันเสร็จ หวางหงอี่ก็เบนมาถามเรื่องเฉินเฟิงกับเสี้ยเมิ่งเหยา พลางถอนหายใจ: “ได้ยินเหล่าเสี้ยว่า เราหย่ากับเสี้ยเมิ่งเหยาแล้ว?”

“ครับ” เฉินเฟิงสายตาหม่นหมองลง พยักหน้าเบาๆ

“เฮ้อ เมิ่งเหยาน่ะนะอาเคยเจอครั้งหนึ่ง จิตใจดีมาก แน่นอนเราเองก็ดีไม่แพ้กัน อารู้สึกเสมอว่าพวกเธอสองคนเหมาะสมกันมาก”

“แต่พรหมลิขิตชักพา ในโลกนี้มีความรักบางประเภทไม่ใช่อะไรที่คนเราสามารถกำหนดได้”

“อารู้ เรากับเมิ่งเหยาแยกทางกัน ต้องมีเหตุผลของพวกเธอแน่”

“เหตุผลคืออะไร อาจะไม่ถาม เพราะเรื่องคนหนุ่มสาวอย่างพวกเธอ คนรุ่นอาไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย”

“แต่เหล่าเสี้ยตั้งความหวังไว้กับเรามาก ถึงเรากับเมิ่งเหยาจะหย่ากันแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่า เหล่าเสี้ยยังเห็นเราเป็นลูกชายครึ่งหนึ่ง ไม่งั้น คงไม่ให้เรามาจงไห่เพื่อคืนหยกแน่” น้ำเสียงหวางหงอี้พูดเนิบยาว หลายปีมานี้ถึงเขาจะไม่ได้ไปชางโจวเลย แต่ยังคงติดต่อทางโทรศัพท์เป็นประจำกับเสี้ยเว่ยกั๋ว ดังนั้นเลยได้ยินเสี้ยเว่ยกั๋วชมเฉินเฟิงไม่ขาดปากเสมอ

“เสี่ยวเฟิง มาจงไห่คราวนี้จะอยู่นานแค่ไหนหรอ?” หวางหงอี้ถาม

“ตอนนี้...ยังไม่แน่ใจครับ” เฉินเฟิงขรึมลง เขาต้องช่วยเจ้าสามหวงกำจัดลู่ตุงโสงและข่าจ้านก่อนค่อยกลับ แต่ไม่รู้ว่าลู่ตุงโสงและข่าจ้านจะมาจงไห่เมื่อไหร่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร