ลูกเขยมังกร นิยาย บท 347

บทที่ 347 ประธานหนุ่มหลิว

“ช่างเถอะ กลับกันเถอะ ต่อไปยังมีโอกาสได้เจออีก” หลี่เล่อตบบ่าเฉินเฟิงปลอบใจ

แต่ในใจเขากลับอดเห็นใจเฉินเฟิงไม่ได้ เห็นท่าทีเหม่อลอยของเฉินเฟิงแล้ว เห็นได้ชัดว่าถูกประธานหญิงคนใหม่ขโมยหัวใจไปแล้ว

แต่ระหว่างทั้งคู่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะฐานะแตกต่างกันเกินไป

เฉินเฟิงส่ายหน้ายิ้มๆ ในใจหลี่เล่อคิดอะไร เขาพอเดาออกอยู่บ้าง แต่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย

ตอนนี้เองจู่ๆประตูห้องประชุมก็เปิดออก

ชายหนุ่มหญิงสาวในชุดสูทเดินพูดคุยยิ้มแย้มออกมาเป็นแถวๆ หลี่สื้อผิงกับหวางซือหยวนเดินออกมา

ไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน หลี่สื้อผิงดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหวางซือหยวนก็พูดเออออไปตามเรื่อง เทียบกับหลี่สื้อผิงแล้ว รอยยิ้มของหวางซือหยวนดูเจื่อนเล็กน้อย

ตอนนี้ทั้งคู่เห็นเฉินเฟิง รอยยิ้มบนใบหน้าหลี่สื้อผิงหายวับ สีหน้าหวางซือหยวนเย็นลงในพริบตา

ต๊อกต๊อกต๊อก

หวางซือหยวนเดินกระแทกรองเท้าส้นสูงสีดำมาที่หน้าเฉินเฟิง ถามอย่างรังเกียจว่า: “แกมาที่นี่ทำไม?!”

“เกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ?” เฉินเฟิงเลิกคิ้วถาม หวางซือหยวนผู้หญิงคนนี้นี่เกลียดขี้หน้าเขาขนาดไหนเนี่ย เจอเขาทีไรทำหน้าอย่างกับกินยาเบื่อทุกที?

คราวนี้หลี่สื้อผิงเดินเข้ามาด้วย พอเห็นหลี่เล่อที่ยืนหน้าแดงหอบหายใจข้างเฉินเฟิง หลี่สื้อผิงถึงบางอ้อทันที

สองคนนี้มาดูหน้าประธานเสี้ยนี่เอง

หลี่สื้อผิงยิ้มเยาะ มองเฉินเฟิงหยันๆว่า: “ขยะอย่างแก ริอาจเป็นคางคกอยากกินเนื้อหงส์หรือไง?”

“ไม่ดูตัวเองเลยว่าเป็นอะไร” หลี่สื้อผิงหัวเราะพรืด แถมกระแทกเสียงหัวเราะให้อีกหลายที

ตอนนี้ประตูห้องประชุมเปิดออก พนักงานธรรมดาเหมือนเฉินเฟิงกับหลี่เล่อมีไม่น้อย พอได้ยินประโยคเยาะหยันของหลี่สื้อผิง แต่ละคนไม่เพียงไม่หัวเราะ กลับรู้สึกอายด้วยซ้ำ

คนฉลาดล้วนฟังออกว่าหลี่สื้อผิงไม่ได้เยาะหยันเฉินเฟิงคนเดียว ยังเยาะหยันพวกเขาด้วย

“ยังไม่รีบไสหัวกลับไปทำงานอีก? ขายขี้หน้าจริง!” หวางซือหยวนด่ากราด พอด่าตบ ก็เดินกระแทกรองเท้าส้นสูงต๊อกต๊อกไปขึ้นลิฟท์

ที่จริงที่เธอโมโหใส่เฉินเฟิง ไม่เกี่ยวอะไรกับเฉินเฟิงนัก เฉินเฟิงแค่ซวยรับไปเท่านั้น

คนที่ทำให้เธอโกรธจริงๆคือเสี้ยเมิ่งเหยาที่พึ่งมาต่างหาก

เดิมเธอคิดว่า ประธานคนใหม่ที่มาจะเป็นผู้ชายที่รวยและดูดี แต่กลับเป็นผู้หญิง

เป็นผู้หญิงยังพอไหว ดันสวย นวยนาด ชะล่ออ่ององค์...ราวกับนางฟ้า เหมือนกับเอาคำชมว่าสวยทั้งหมดบนโลกมารวมไว้ที่เธอก็ยังได้

เทียบกับเสี้ยเมิ่งเหยาแล้ว หน้าตารูปโฉมรูปร่างที่เธอเคยภูมิใจนักหนากลายเป็นขยะทันที

พอเสี้ยเมิ่งเหยาปรากฏตัวก็กลายเป็นศูนย์กลางของทั้งบริษัท ดึงดูดสายตาผู้ชายทั้งบริษัทไปหมด ขนาดหลี่สื้อผิงที่คอยเอาใจเธอมาตลอด ตอนนี้ยังมีทีท่ายอมขึ้นเขาลงห้วยบุกน้ำลุยไฟให้เสี้ยเมิ่งเหยาเลย

แล้วจะไม่ให้หวางซือหยวนโมโหได้ยังไง?

เธอที่เคยยกยอเป็นเดือนในหมู่ดาว กลับร่วงตกสวรรค์ในพริบตา ความแตกต่างชัดเจนขนาดนี้จะให้เธอรับได้ไง?

ในระหว่างที่ถูกความริษยากัดกร่อนหัวใจ หวางซือหยวนเห็นเฉินเฟิงเข้าพอดี

พอเห็นเฉินเฟิง หวางซือหยวนหาถังขยะระบายความโกรธได้พอดี เลยเอาความโกรธและความริษยาทั้งหมดพุ่งไปที่เฉินเฟิง

พอหวางซือหยวนจากไป หลี่สื้อผิงก็ฮัมเพลงจากไปด้วย

หลี่เล่อมองส่งหลี่สื้อผิงเสร็จ ก็หันมาปาดเหงื่อบนขมับ มองเฉินเฟิงอย่างระมัดระวังและถามว่า: “เฟิง...พี่เฟิง พี่ไม่ถูกกับผู้จัดการหลี่ใช่ไหม?”

ท่าทีเมื่อกี้ของหลี่สื้อผิงที่ดูถูกเยาะหยันเฉินเฟิงเขาเห็นมันทั้งหมด เดิมเขาคิดว่าความสัมพันธ์ของเฉินเฟิงกับหลี่สื้อผิงน่าจะโอเค แต่ไม่คิดว่า...

“อืม” เฉินเฟิงพยักหน้า จากนั้นหมุนตัวเดินลงบันไดไป ไม่ได้พูดอะไรต่อ

หลี่เล่อถอนหายใจยาว เดินตามเฉินเฟิงไป

พอทั้งคู่เดินไป ที่หน้าประตูห้องประชุมถึงปรากฏร่างบางขึ้น

เสี้ยเมิ่งเหยาน่ะเอง

เทียบกับเมื่อหลายวันก่อนแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาในตอนนี้สีหน้าดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด แววตาปิดความเหนื่อยล้าไว้ไม่มิด

“ประธานเสี้ย?”

“ประธานเสี้ย?!”

จนเลขาร่างงามในชุดเดรสเรียกอยู่หลายครั้ง เสี้ยเมิ่งเหยาถึงได้สติ หันมาฝืนยิ้มให้พลางว่า: “ทำไมหรอ?”

“ประธานเสี้ย ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” เลขาสาวมองเสี้ยเมิ่งเหยาอย่างเป็นห่วง เธอพบว่าเสี้ยเมิ่งเหยาในตอนนี้ดูแย่มาก อยู่ในสภาพเหม่อลอยตลอด เมื่อกี้ตอนอยู่ในห้องประชุมพบผู้บริหารระดับสูง เสี้ยเมิ่งเหยาเอาแต่ใจลอยตลอด

“ไม่เป็นไร ฉันสบายดี” เสี้ยเมิ่งเหยาสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามให้ตัวเองตื่นตัว

“จริงสิ เมื่อกี้คุณว่าไงนะ ฉันได้ยินไม่ถนัด”

“ประธานเสี้ย ลูกชายของประธานหลิวพึ่งโทรหาคุณ อยากเชิญคุณรับประทานอาหารค่ำด้วยกันคืนนี้ เขาจองภัตตาคารไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่ที่เจียงซินเก๋อ คุณจะ...”

“ไม่ไป! บอกเขา ฉันไม่ว่าง!” เลขาสาวพูดยังไม่ทันจบ เสี้ยเมิ่งเหยาตัดบทเสียงเย็น เธอไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆที่พึ่งเข้าสังคม หลิวหวินโปคิดอะไร เธอรู้ดี

เลขาสาวตะลึง เสี้ยเมิ่งเหยาเธอ...ปฏิเสธ?!

เธอไม่รู้หรือไงว่าหลิวหวินโปเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของหลิวหยวนชี่งประธานใหญ่ และยังเป็นผู้สืบทอดธุรกิจแสนล้านนี่อีกด้วย?

แถมหลิวหวินโปเชิญเสี้ยเมิ่งเหยาไปทานอาหารที่เจียงซินเก๋ออีก มันเป็นภัตตาคารที่แพงที่สุดและดีที่สุดในจงไห่ เป็นแบบที่มีเงินก็ใช่ว่าจะจองได้ แต่เสี้ยเมิ่งเหยากลับปฏิเสธหนักแน่น

ไม่ไว้หน้าหลิวหวินโปเลยหรอ?

“ค่ะ ดิฉันจะเรียนประธานหนุ่มหลิวตามนี้” เลขาสาวรีบพยักหน้า ถึงในใจจะตะลึง แต่สีหน้ากลับไม่เปิดเผยเลยสักนิด

พอกลายมาเป็นพนักงานตัวเล็กๆของบริษัทเภสัชกรรมคางเหม่ย เฉินเฟิงได้อยู่อย่างสงบซะหลายวัน

แต่ในช่วงวันที่สงบนี้เฉินเฟิงไม่ได้อยู่ว่างๆ

เขาพยายามสืบค้นสภาพธุรกิจและโครงสร้างหุ้นส่วนของบริษัทเภสัชกรรมคางเหม่ยผ่านทางทุกช่องทาง

เขาจะคอยให้ความช่วยเหลือเสี้ยเมิ่งเหยาอยู่เงียบๆ

เสี้ยเมิ่งเหยาพึ่งมาจงไห่ ในมือยังไม่มีเส้นสายอะไร

และพอเธอมา ก็ขึ้นรับตำแหน่งประธานบริษัทเลย อยู่ภายใต้คนเพียงคนเดียว เหนือคนนับหมื่น

ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นจะคิดยังไง?

ต้องมีคนจำนวนมากไม่พอใจ และคิดลอบทำอะไรแน่

ดังนั้นเฉินเฟิงต้องแอบช่วยเสี้ยเมิ่งเหยาจัดการปัจจัยที่ไม่แน่นอนพวกนี้ซะ

“พี่เฟิง ผมพึ่งเคยเจอคนใหม่แบบพี่เนี่ย พึ่งมาก็ทำงานอย่างเอาเป็นอาตาย เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ต้องนานด้วยคงได้เป็นหัวหน้าแผนกขายละ” หลี่เล่อพูดอย่างอิจฉา หลายวันนี้เฉินเฟิงเอาแต่สอบถามสถานการณ์บริษัทกับเขา แถมยังถามเกี่ยวกับข้อมูลของผู้บริหารระดับสูงอีกด้วย ในสายตาหลี่เล่อแล้ว นี่เป็นสัญลักษณ์ว่าเฉินเฟิงตั้งใจทำงาน อยากจะก้าวหน้าในอาชีพการงานที่ดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร