ลูกเขยมังกร นิยาย บท 370

บทที่ 370 หลี่เล่อที่รู้ตัวดี

มันเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดที่เขาคิดออกแล้ว เห็นได้ชัดว่าเซียวรั่วเป็นผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรีคนหนึ่ง เธอไม่มีทางยอมรับการบริจาคอะไรจากใครง่ายๆ แต่เฉินเฟิงก็ไม่อยากรับของที่ตัวเองเป็นคนให้ไป

หนทางที่จะโอเคทั้งสองฝ่าย ก็มีแต่บริจาคเงินออกไป

“งั้น...ก็ได้ค่ะ” เซียวรั่วกัดฟันรับปากอย่างแกนๆ เธอไม่อยากติดหนี้เพื่อนเฉินเฟิงมากเกินไป แต่ไม่คิดว่า ในที่สุดก็ต้องติดหนี้อยู่ดี

เธอถอนหายใจยาว ก่อนเดินกลับไปห้องตัวเอง

พอเข้าห้อง ก็ได้ยินเสียงมือถือดังไม่หยุด เธอหยิบมาดู พบว่าเธอออกไปแค่ไม่กี่นาที กลับมีสายเรียกเข้าสิบแปดสาย แถมยังเมสเสจอีกหลายสิบเลย

มีทั้งผู้รับผิดชอบกิลล์ และเพื่อนที่มหาลัย

ข้อความวีแชทก็มาจากคนพวกนี้ ถึงคนส่งจะไม่เหมือนกัน แต่ข้อความที่ส่งมาเหมือนกันอย่างน่าตกใจ

ทุกคนอยากรู้ว่าอัศวินปริศนาที่ซื้อเรือรบอวกาศสิบลำให้เธอคือใคร?!

เธอมีความสัมพันธ์ยังไงกับอัศวินปริศนาคนนี้กันแน่?!

ข้อความแบบนี้เธอขี้เกียจตอบอยู่แล้ว

คนพวกนี้คิดยังไง เธอรู้ดี

บุญคุณที่เพื่อนของเฉินเฟิงมีต่อเธอ เธอจะจำไว้ในใจตลอดไป วันใดเธอได้ลืมตาอ้าปาก เธอจะทดแทนบุญคุณเอง

แต่เพื่อนเขาเป็นใครฐานะยังไงกันแน่ เธอจะไม่มีวันไปถาม ก็คำพูดเดิมแหละ เธอมีหลักการของเธอ

เช้าวันต่อมา เฉินเฟิงกลับไปที่บริษัท

พอถึงห้องทำงาน หลี่เล่อเดินเข้ามาหาด้วยท่าทีตื่นเต้น: “พี่เฟิง ค่าคอมของออเดอร์โรงพยาบาลตุงถิงมาแล้วนะ ทั้งหมดแปดแสน”

“มาเร็วขนาดนี้เลย?” เฉินเฟิงค่อนข้างสงสัย เดิมคิดว่าหลี่สื้อผิงจะแกล้งให้เขาช้าซักหลายวัน แต่ไม่คิดว่าหลี่สื้อผิงจะให้มาเร็วขนาดนี้

“อืม เจ้าหลี่สื้อผิงคงกลัวพี่จะเล่าเรื่องให้ผู้บริหารระดับสูงฟัง พอทางโรงพยาบาลตุงถิงจ่ายเงินมา เขาเลยรีบให้การเงินโอนเงินเข้าบัญชีเราน่ะ”

“พี่เฟิง นี่เป็นบัญชีที่ทางการเงินโอนเงินมาให้ ในนี้มีแปดแสน” หลี่เล่อยิ้มพลางยื่นบัตรบัญชีธนาคารให้เฉินเฟิง แปดแสนนี่จะแบ่งยังไง แล้วแต่เฉินเฟิงเลย

หลี่เล่อรู้ดี ออเดอร์โรงพยาบาลตุงถิงน่ะ ตัวเองไม่ได้ช่วยอะไรเลย มีประโยชน์แค่อย่างเดียวคือเป็นคนขับรถให้เฉินเฟิง

ดังนั้นไม่ว่าเฉินเฟิงจะแบ่งยังไง เขาก็ไม่มีความเห็น

เฉินเฟิงยิ้ม เจ้าหลี่เล่อนี่รู้ตัวดีเหมือนกันนี่

“แปดแสนนี่ ของนายสองแสนนะ” เฉินเฟิงบอก เดิมเขาคิดจะแบ่งครึ่งหนึ่งให้หลี่เล่อ แต่คาดเดาว่าหลี่เล่อคงไม่รับ เลยหักไว้หน่อย ให้สองแสนละกัน

“สองแสน?!” หลี่เล่อตกใจ ก่อนโบกมือปฏิเสธอย่างหวั่นๆ: “ไม่ได้ไม่ได้ พี่เฟิง สองแสนมันมากเกินไป ผมออกไปกับพี่ ไม่ได้ทำอะไรเลย พี่ให้ผมสองแสนมันเยอะไปนะ...”

“สองแสนไม่เยอะหรอก นายมีค่าพอที่ฉันจะให้สองแสน” เฉินเฟิงยิ้มพลางตัดบท ตั้งแต่เขามาทำงานที่บริษัท หลี่เล่อก็คอยตามหลังเขาเสมอ ดังนั้นก็ถือเป็นคนกันเองไปแล้วครึ่งหนึ่ง เฉินเฟิงไม่เคยทำไม่ดีต่อพวกเดียวกัน”

“แต่ว่า...” หลี่เล่อยังหวาดหวั่น ในความคิดเขา เฉินเฟิงควรให้เขาซักห้าหกหมื่น หรือไม่ก็เจ็ดแปดหมื่น อย่างมากก็แสนหนึ่ง เพราะออเดอร์โรงพยาบาลตุงถิงน่ะเฉินเฟิงดิลมาคนเดียวเลย ต่อให้เฉินเฟิงไม่ให้เขาแม้แต่แดงเดียว เขาก็ไม่กล้าว่าอะไร”

แต่ไม่คิดว่า เฉินเฟิงให้เขาดื้อๆเลยสองแสน

“ไม่ต้องแต่แล้ว นายเอาบัตรไปเบิกสองแสนของตัวเองออกมานะ ที่เหลืออีกหกแสน นายเอาไปซื้อรถซะ” เฉินเฟิงยิ้มพลางยัดบัตรกลับใส่มือหลี่เล่อ จากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เขาน่าจะต้องอยู่จงไห่ซักระยะ ในช่วงนี้ไม่มีรถสกู๊ตเตอร์ จะไปไหนก็ลำบาก โชคดีใช้โอกาสนี้ให้หลี่เล่อไปซื้อรถสกู๊ตเตอร์เลย

“ที่เหลืออีกหกแสนเอาไปซื้อรถ?!” หลี่เล่อเบิกตากว้าง เหมือนไม่อยากเชื่อว่าเฉินเฟิงจะตัดสินใจแบบนี้

ท่าทีเฉินเฟิงไม่เหมือนคนรวยนี่หว่า ทำไมบอกให้เอาเงินหกแสนไปซื้อรถอย่างกะเอาเงินหกหยวนไปซื้อของเล่นซะงั้น บอกหน้าตาใสซะอีกเนี่ย?

“อืม หกแสนน่ะไปซื้อรถ ส่วนรถอะไรนายตัดสินใจก็แล้วกัน ไม่ต้องบอกฉัน” เฉินเฟิงยิ้มบอก เรื่องเฉพาะทางต้องให้ผู้เชี่ยวชาญไปทำ ด้านซื้อรถหลี่เล่อดูจะชำนาญกว่า เก่งกว่าเขามากแล้ว

“ไม่ใช่ พี่เฟิง หกแสนเอาไปซื้อรถหมด แล้วพี่จะเอาเงินที่ไหนใช้ในจงไห่ล่ะ?” หลี่เล่ออดเหลือบมองเฉินเฟิงไม่ได้ เขารู้ว่าเฉินเฟิงมาจากชางโจว ไม่มีที่พักในจงไห่เลยด้วยซ้ำ

ตามหลักแล้ว ค่าคอมหกแสน เฉินเฟิงน่าจะเอาไปเช่าบ้านดีๆหน่อยมากกว่า แต่ไม่คิดว่าจะเอาเงินหกแสนมาใช้เรื่องรถหมดเลย

รถ รออีกหน่อยมีเงินแล้วค่อยซื้อไม่ได้หรอ?

“เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันมีเงิน” เฉินเฟิงยิ้มน้อยๆ เห็นได้ชัดว่าหลี่เล่อเข้าใจว่าเขามาหางานทำที่จงไห่ แต่ที่จริงแล้วเขาไม่คิดจะอยู่ที่จงไห่นานนัก วนซักรอบก็ไปแล้ว

“งั้นก็ได้ พี่เฟิง ผมไปร้าน4Sซื้อรถนะ พยายามซื้อให้ได้ในวันนี้เลย” หลี่เล่อพยักหน้า นี่เป็นภารกิจแรกที่เฉินเฟิงมอบหมายให้เขาทำ เขาต้องทำออกมาให้ดี

เวลาล่วงเลยมาจนบ่ายคล้อย เดิมเฉินเฟิงคิดจะเลิกงานก่อนเวลาซักหลายนาที แต่หวางซือหยวนกลับเดินหน้าบึ้งมือกอดอกเข้ามา

เธอมายืนตรงหน้าเขา พลางมองเขาด้วยสายตาเย็นชา พูดเสียงเย็นปนรังเกียจว่า: “พ่อฉันให้เรียกนายไปกินข้าวเย็นที่บ้าน”

พูดจบ หวางซือหยวนหมุนตัวจากไป แสดงออกว่าไม่อยากจะเสวนากับเขาไปมากกว่านี้

เฉินเฟิงขมวดคิ้ว เดิมเขาคิดจะไปมหาลัยเยี่ยมเยียนหลินหวั่นชีว แต่ไม่คิดว่าหวางหงอี้จะให้เขาไปหา

สำหรับคำเชื้อเชิญของหวางหงอี้ เฉินเฟิงไม่มีหนทางปฏิเสธได้เลย อย่าพึ่งพูดถึงความสัมพันธ์ของเขากับเสี้ยเว่ยกั๋ว เอาแค่ตัวหวางหงอี้เองก็ให้การดูแลเขามากโขอยู่

คิดไปคิดมา เฉินเฟิงเลยตัดสินใจไปบ้านหวางซักรอบ

พอเลิกงาน เฉินเฟิงออกจากบริษัท ตอนกำลังจะออกจากหน้าบริษัท ก็เห็นหลี่สื้อผิงที่ขับปอร์เช่พอดี ที่นั่งข้างคนขับเป็นหวางซือหยวน

เฉินเฟิงเห็นทั้งคู่ พอๆกับที่ทั้งคู่เห็นเฉินเฟิง

“เฉินเฟิง นี่นายจะไปไหนล่ะ?” หลี่สื้อผิงหรี่ตาถามทั้งรอยยิ้ม เขารู้แล้วยังถามชัดๆ หวางซือหยวนบอกเขาแต่เช้าแล้วว่าหวางหงอี้อยากให้เฉินเฟิงไปกินข้าวที่บ้าน

“ไปบ้านคุณอาหวาง” เฉินเฟิงตอบเสียงเนิบ

“อ๋อ ไปบ้านคุณอาหวางหรอ” หลี่สื้อผิงแกล้งทำเสียงสูง และมองหน้าเฉินเฟิงยิ้มๆ พลางว่า: “ฉันก็จะไปบ้านคุณอาหวางพอดี ให้ฉันพานายไปด้วยไหมล่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร