ลูกเขยมังกร นิยาย บท 380

บทที่ 380 พ่อฉันรวยมาก

คำพูดสองประโยคนี้ลอยเข้าหูหลิวเส้าฝู้ ทำเอาหลิวเส้าฝู้โกรธแทบกระอักเลือด อะไรคือจะตบคนชื่อหลิวเส้าฝู้ หลิวเส้าฝู้ไปทำอะไรนายเนี่ย?!

ถึงในใจจะโกรธมาก แต่หลิวเส้าฝู้ก็ใจเย็นอย่างน่าประหลาดใจ เขาเห็นเฉินเฟิงทำท่าจะลงมืออีก เขารีบยกมือห้าม และขอร้องอีกครั้ง: “เดี๋ยวๆ มีอะไรพูดกันดีๆสิ มีอะไรพูดกันก่อน อย่าพึ่งตบ!”

“นายอยากพูดอะไร?” เฉินเฟิงมองหลิวเส้าฝู้อย่างเย็นชา

หลิวเส้าฝู้กลอกตาไปมาพลางว่า: “คืองี้นะ ฉันรู้ว่าคนอื่นส่งนายมา นายจะบอกฉันได้ไหมว่าคนนั้นเขาจ้างนายเท่าไหร่ให้มาตบฉัน?”

เฉินเฟิงยิ้มมุมปากอย่างสนุก เจ้าโง่หลิวเส้าฝู้นี่ คิดไปว่ามีคนส่งตัวเขามาทำร้ายตัวเองงั้นสิ

พอเห็นเฉินเฟิงไม่พูดอะไร หลิวเส้าฝู้เริ่มหวั่นใจ เขาปาดเหงื่อที่ขมับออก ยื่นนิ้วสองนิ้วออกไปพลางว่า:

“สองเท่า!”

“นี่นาย ไม่ว่าใครจ้างนายมาเท่าไหร่ก็ตาม ฉันสามารถให้ได้มากกว่าสองเท่าเลย! ตอนนี้โอนเลยก็ได้!”

“พ่อฉันเป็นประธานกรรมการใหญ่ของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป เขามีทรัพย์สินเป็นหมื่นล้านเลย เรื่องเงินนายไม่ต้องเป็นห่วง”

“งั้นหรอ?” เฉินเฟิงยิ้มหยันมุมปาก หลิวเส้าฝู้เห็นเขาเป็นพวกโง่เห็นแก่เงินแล้วสิเนี่ย

“ใช่ใช่ใช่ ถ้านายยังไม่วางใจ ฉันจะโทรให้พ่อฉันโอนเงินมาให้เลย” หลิวเส้าฝู้พูดด้วยรอยยิ้มขอร้อง แต่ซ่อนแววตาอาฆาตมาดร้ายไว้ไม่มิด ขอแค่ออกจากลิฟท์นี้ได้ เขามีเป็นร้อยเป็นพันวิธีที่จะฆ่าเฉินเฟิง!

“งั้นให้พ่อนายโอนมาเลย” เฉินเฟิงยิ้มน้อยๆ มองหลิวเส้าฝู้ พยักพเยิดให้หลิวเส้าฝู้หยิบมือถือออกมาโทรบอกหลิวหยวนชิ่ง

แต่เขาพึ่งหยิบมือถือออกมา ก็มีเงาดำวูบมาบัง

“เพี๊ยะ”

เฉินเฟิงตบหน้าหลิวเส้าฝู้อีกฉาดเข้าให้

ตบนี้ทำหลิวเส้าฝู้ปากแตกเลือดไหลออกมา

และทำให้หลิวเส้าฝู้งงเป็นไก่ตาแตก ไหนบอกให้โอนเงินแล้วไง? ทำไมยังตบฉันอีกล่ะ?

เห็นหลิวเส้าฝู้ทำหน้างงเต๊ก เฉินเฟิงแค่นยิ้มออกมา: “โง่เอ้ย ให้นายโอนก็โอน ให้นายไปกินขี้นายคงคิดจะไปกินจริงล่ะสิ?”

“แก...แกหมายความว่าไง?” หลิวเส้าฝู้อึ้งก่อนได้สติกลับมา เฉินเฟิงหลอกเขาตั้งแต่ต้นเลย หลิวเส้าฝู้สีหน้าเปลี่ยนสลับ ทั้งโกรธ ทั้งอดกลั้น ทุกความรู้สึกมันสุมอก

เขากัดฟันกรอดมองหน้าเฉินเฟิง: “นาย ฉันมีความแค้นอะไรกับนายนักหนา ทำไมต้องเหยียดหยามฉันแบบนี้ด้วย?!”

“เหยียดหยาม?” เฉินเฟิงยิ้มหยัน: “นายคู่ควรด้วยหรอ?”

“อ๊า! ฉันสู้ตาย!”

พอโดนเฉินเฟิงเหยียดหยามหลายครั้ง หลิวเส้าฝู้ขาดสติในที่สุด เขาโผเข้าหาเฉินเฟิงด้วยดวงตาแดงก่ำ

เฉินเฟิงแค่นเสียงหึ และไม่เกรงใจหลิวเส้าฝู้อีก เขาดึงคอเสื้อหลิวเส้าฝู้ขึ้น และกระแทกเข่าไปที่ท้องน้อยของหลิวเส้าฝู้

ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วท้องน้อง หลิวเส้าฝู้ตัวงอเป็นกุ้ง หน้าตาก็เปลี่ยนเป็นสีเลือดหมู

ยังไม่ทันที่ความเจ็บปวดจะจางลงไป เฉินเฟิงกระแทกเข่าไปที่ท้องน้อยหลิวเส้าฝู้อีกครั้ง

ความเจ็บปวดแทบแยกร่างแล่นมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลิวเส้าฝู้ทนไม่ไหว ตาเหลือกเป็นลมสลบไปเลย

หลายวินาทีผ่านไป ลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้นบนสุด

เฉินเฟิงลากร่างหนักอึ้งเหมือนศพของหลิวเส้าฝู้ออกจากลิฟท์ จากนั้นก็โทรหาหลี่เล่อ

“เอารถมาที่ที่จอดรถใต้ดินนะ พี่จะไปที่หนึ่ง”

“ได้ครับ พี่เฟิง” หลี่เล่อไม่ได้คิดอะไรมาก รับปากทันที สำหรับคำสั่งของเฉินเฟิง เขาไม่เคยสงสัย แทบจะเป็นทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไขเลยทีเดียว

หลายนาทีผ่านไป หลี่เล่อก็เจอเฉินเฟิงที่ที่จอดรถใต้ดิน

พอเห็นศพที่ไม่ขยับข้างตัวเฉินเฟิง หลี่เล่อตกใจสะดุ้ง เขาชี้ไปที่ร่างหลิวเส้าฝู้ตะกุกตะกักถามเฉินเฟิงว่า: “พี่...พี่เฟิง เขาตายหรือยังน่ะ?”

“ยังไม่ตาย” เฉินเฟิงตอบเสียงเรียบ

“ยังไม่ตายก็ดีแล้ว ยังไม่ตายก็ดี” พอได้ยินว่าร่างนั้นยังไม่ตาย หลี่เล่อถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นอดไม่อยู่มองไปที่ศพบนพื้น ถามอย่างสงสัยขึ้นมาว่า: “พี่เฟิง นั่นใครน่ะ?”

“หลิวเส้าฝู้”

“หลิวเส้า...” หลี่เล่ออึ้งก่อนร้องกรี๊ดขึ้นมา: “หลิวเส้าฝู้?!”

“พี่เฟิง พี่บอกว่าเขาคือหลิวเส้าฝู้?!” หลี่เล่อเบิกตากว้างมองเฉินเฟิงอย่างตะลึง เหมือนตัวเองหูฝาดไป

“ทำไม มีปัญหาอะไรหรอ?” เฉินเฟิงเลิกคิ้วถาม

หลี่เล่อกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ถามเฉินเฟิงเสียงสั่น: “พี่เฟิง พี่รู้ไหมว่าพ่อหลิวเส้าฝู้เป็นใคร?”

“หลิวหยวนชิ่ง” เฉินเฟิงยิ้มบอก หลี่เล่อมีปฏิกิริยาแบบนี้ ไม่แปลกใจเขาเลย เพราะหลิวหยวนชิ่งเป็นหุ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป เป็นบอสใหญ่สุดของที่นี่

ตอนนี้ลูกชายบอสใหญ่โดนเขาตีสลบมากองต่อหน้าหลี่เล่อ หลี่เล่อไม่ตกใจสลบไป ก็ถือว่าหัวใจแข็งแรงมากพอแล้ว

พอได้ยินเฉินเฟิงยืนยัน ใจหลี่เล่อกระตุกวูบ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมา

“พี่เฟิง พี่หาเรื่องใครไม่หา ไปหาเรื่องไอ้บ้านี่ทำไมเนี่ย?”

“พ่อไอ้บ้านี่เป็นบอสใหญ่ของคางเหม่ยเรา เขากระทืบเท้าที ทั่วทั้งจงไห่ก็แผ่นดินไหวไปสามครั้งแล้ว”

“พี่เฟิง หนีกันเถอะ อาศัยตอนไอ้บ้านี่ยังไม่ฟื้น รีบหนีกัน บางทีอาจจะพอมีทางรอดอยู่บ้าง”

ท่าทางหลี่เล่อดูหมดอาลัยตายอยากมาก ตีให้ตายเขาก็นึกไม่ถึงว่า เฉินเฟิงจะทำคุณชายหลิวของคางเหม่ยสลบเหมือดแบบนี้ ในฐานะคนของคางเหม่ยทุกคนต่างรู้ดีว่า นิสัยหลิวเส้าฝู้เป็นคนมีแค้นต้องชำระแค่ไหน

กล้าหาเรื่องเขา ขั้นเบาก็โดนไล่ออกจากคางเหม่ย ขั้นหนักก็หักแขนหักขา

และสภาพหน้าตาบวมปูดของหลิวเส้าฝู้ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าแค้นอาฆาตกับเฉินเฟิงแล้ว แค้นขนาดนี้เอาชีวิตเฉินเฟิงเลยถือว่าสถานเบาแล้วนะ

“หนี? ทำไมพี่ต้องหนีด้วย?” เฉินเฟิงยิ้มบาง ออกแนวหยัน เขาทำลายเฉินอิงโรได้ ยังไม่หนีเลย แล้วนับประสาอะไรกับหลิวเส้าฝู้ล่ะ

“ไม่หนี?” หลี่เล่ออึ้งก่อน จากนั้นก็สะท้านเยือกเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าเปลี่ยนพูดว่า: “พี่เฟิง พี่คงไม่คิดจะฆ่าหลิวเส้าฝู้แล้วเก็บเรื่องเงียบไว้ใช่ไหม?”

เฉินเฟิงยิ้มไม่ได้พูดอะไร ไม่ถึงกับฆ่าหลิวเส้าฝู้หรอก แต่ต้องสั่งสอนหลิวเส้าฝู้ให้หลาบจำไปตลอดชีวิต ไม่งั้นไม่รู้ว่าหลิวเส้าฝู้จะไปเกาะแกะอะไรเสี้ยเมิ่งเหยาอีก

เฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไร หลี่เล่อเลยเข้าใจว่าเขาพูดถูก เขารีบเกลี้ยกล่อมทันที: “พี่เฟิง พี่อย่าคิดแบบนี้เด็ดขาดเลยนะ ตอนนี้กลับตัวยังทันนะพี่ อำนาจบ้านหลิวน่ะแทบจะครองจงไห่อยู่แล้ว ได้ยินว่าหลิวหยวนชิ่งสนิทสนมกับคนใหญ่คนโตมากมายของยันเจียง ถ้าพี่ฆ่าหลิวเส้าฝู้ เขาต้องตามเรื่องถึงตัวพี่ได้แน่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร