ลูกเขยมังกร นิยาย บท 391

บทที่ 391 ฉันมีแฟนแล้ว

แถมเขาคือไป๋เหวินซั่วด้วย

ไป๋เหวินซั่ว เจ้าชายขี่ม้าขาว ขวัญใจสาวๆทั่วมหาลัยจงไห่

เขาบอกรักหลินหวั่นชีวต่อหน้าคณาจารย์และนักศึกษาทั้งงาน นี่ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดของหลินหวั่นชีวเลยทีเดียว

ไม่ว่าหลินหวั่นชีวจะหยิ่งจริง หรือแกล้งหยิ่ง วินาทีนี้ยังไงหลินหวั่นชีวก็ไม่กล้าปฏิเสธเขาแน่

ท่าทางจริงจังรักจริงของไป๋เหวินซั่ว ทำหนุ่มๆสาวๆซาบซึ้งไปตามๆกัน พวกเขาเริ่มเฮโลกัน

“รับปากเขา!”

“รับปากเขา!”

ปรากฏเสียงโห่ร้องดังกึกก้องไปทั่ว

จุดยืนของทุกคนช่วยค้ำจุนไป๋เหวินซั่ว

พริบตาเดียว ไป๋เหวินซั่วได้ใจจนถึงขีดสุด ถ้าไม่มีเหตุคาดไม่ถึงเกิดขึ้น คืนนี้เขาต้องได้หลินหวั่นชีวมา และเขาจะพาหลินหวั่นชีวไปสวีทหวานกันตลอดคืนที่ห้องสวีทสุดหรูของโรงแรมฮิลตัน

“หวั่นชีว รับปากผมได้ไหม?”

ไป๋เหวินซั่วหยิบไมค์ตะโกนถามอีกครั้ง สายตาร้อนแรงถึงขีดสุด

เหมือนทำตามคำขอของไป๋เหวินซั่วก็ไม่ปาน ทั้งงานปรากฏเสียงปรบมือดังกึกก้อง

ในที่สุดท่ามกลางสายตานับพัน หลินหวั่นชีวเดินออกมาจากหลังเวที

แสงไฟสปอร์ตไลท์ส่องกระทบร่างงามในชุดสีขาว ในขณะเดียวก็สะท้อนใบหน้าที่งดงามของเธอขึ้นจอภาพใหญ่กลางเวที

ทั้งงานจมอยู่ในความเงียบทันที

นี่มันสวยมากเกินไปแล้วไหม?!

บนโลกนี้มีผู้หญิงสวยขนาดนี้ด้วยหรอ?!

ทุกคนแทบกลั้นหายใจในระหว่างที่สมองผุดความคิดนี้ขึ้นมา

ผิวขาวนวลลออ ใบหน้างามสดใส ฟันขาวเป็นระเบียบ คิ้วงามงอนได้รูป

องค์ประกอบใบหน้าที่ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ประกอบกับออร่าเยือกเย็นดุจภูเขาน้ำแข็ง นี่มันแบบจำลองของเจ้าแม่เก้าเทียงเหี่ยงนึ่งชัดๆ!

ถึงกับมีคนบอกว่า หลินหวั่นชีวเป็นเจ้าแม่เก้าเทียงเหี่ยงนึ่ง ก็ยังมีคนเชื่อ!

วินาทีนี้ไม่มีใครคิดว่าหลินหวั่นชีวไม่คู่ควรกับไป๋เหวินซั่วเลย เอาเข้าจริงไป๋เหวินซั่วต่างหากที่ดูไม่คู่ควรกับหลินหวั่นชีว!

หลังจากตะลึงค้างไปชั่วขณะ สายตาไป๋เหวินซั่วทอประกายแรงกล้ามากขึ้น เขาเดินเข้ามายืนหน้าหลินหวั่นชีว บอกรักเธอด้วยสายตาร้อนแรงว่า: “หวั่นชีว เป็นแฟนผมได้ไหม?”

สำหรับสายตารอคอยของไป๋เหวินซั่น หลินหวั่นชีวไม่หวั่นไหวแม้เพียงนิด เธอมองเขาและตอบเขาด้วยความเย็นชาทั้งสายตาและน้ำเสียงว่า:

“ฉันมีแฟนแล้ว”

มีแฟนแล้ว?!

พอได้ยินคำนี้ หัวใจชายหนุ่มมากมายในงานกระตุกวูบ

สาวงามราวเทพธิดาคนนี้มีแฟนแล้ว?!

ใครกัน?!

“หวั่นชีว คุณพูดอะไรน่ะ? ผมไม่เข้าใจ?” สีหน้าไป๋เหวินซั่วซีดเผือดฉับพลัน แต่ไม่นานเขาก็สงบใจได้ พยายามฝืนยิ้มพูดต่อ ต้องยอมรับจริงๆว่า คำตอบของหลินหวั่นชีวอยู่เหนือความคาดหมายของเขามาก

ในความคิดของเขาแล้ว การได้ยินเขาบอกรัก หลินหวั่นชีวควรจะดีใจจนตีปีกถึงจะถูกสิ

ส่วนไอ้กระจอกอย่างเฉินเฟิงนั่น ไสหัวไปไกลได้แค่ไหนก็แค่นั้น

เพราะแค่หลินหวั่นชีวตาไม่บอด ก็ควรจะมองออกว่าเขากับเฉินเฟิงน่ะต่างกันขนาดไหน

แต่ไม่คิดว่า หลินหวั่นชีวจะตอบตรงแบบไม่ไว้หน้าเขาเลยแบบนี้

เหมือนมีระเบิดลงกลางงาน

แฟนของหลินหวั่นชีวอยู่ที่นี่ด้วย?!

อยู่ด้านล่างเวที?!

น่าตกใจเกินไปแล้วนะ!

อีกอย่าง จากคำพูดของไป๋เหวินซั่ว เหมือนจะประลองกับแฟนของหลินหวั่นชีวให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลยว่าใครควรได้หลินหวั่นชีวไปครอง

นี่มันตื่นเต้นมากเลยนะ

พริบตาเดียว เหล่านักศึกษาคึกคักกันถ้วนหน้า

“ไป๋เหวินซั่วกล้ามากไปแล้ว กล้าบอกรักกลางสาธารณะก็ว่าบ้าแล้ว นี่ยังจะท้าแฟนเขาต่อยตีอีก?”

“บ้าแล้ว บ้าแล้ว บ้าไปแล้วแน่!”

“ไป๋เหวินซั่วทำแบบนี้น่าจะมีผลกระทบต่อมหาลัยนะ เพราะเรื่องนี้เขาผิดเต็มๆเลย”

“เชอะ จะกระทบอะไรมากมายล่ะ นี่มันมหาลัย ไม่ใช่ม.ปลาย บอกรักต่อหน้าสาธารณชนจะกระทบอะไรมากมายล่ะ”

“ลองถอยกลับมาคิดดูนะ ต่อให้มีผลกระทบจริง พ่อของไป๋เหวินซั่วก็สกัดข่าวทุกอย่างลงไปได้น่า”

“จะว่าไป พ่อของไป๋เหวินซั่วนี่ใหญ่มาจากไหนนี่ ทำไมเห็นไป๋เหวินซั่วชอบเข้าออกห้องทำงานอธิการบดีมหาลัยจังเลย”

“ไป๋เสี้ยวเทียนน่ะรู้จักไหม?”

“ไป๋เสี้ยวเทียน?! นายบอกว่าพ่อของไป๋เหวินซั่วคือไป๋เสี้ยวเทียน?!”

“พระเจ้า ไม่จริงมั้ง ไป๋เสี้ยวเทียนน่ะใหญ่กว่าจูชิ่งเฟิงมากหลายขุมเลยนะ ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ ห้องสมุดมหาลัยเราน่ะ ไป๋เสี้ยวเทียนเป็นคนบริจาคเงินสร้างใช่ไหม”

“ใช่ ห้องสมุดมหาลัยเราน่ะเงินบริจาคมาจากไป๋เสี้ยวเทียน”

พ่อของไป๋เหวินซั่วคือไป๋เสี้ยวเทียน แถมไป๋เสี้ยวเทียนยังออกเงินบริจาคสร้างห้องสมุดตึกหนึ่งให้มหาลัยจงไห่ด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร