ลูกเขยมังกร นิยาย บท 394

บทที่ 394 โชคชะตาชักพา

“หวั่นชีว พี่เฟิงเล่นเปียโนเป็นหรอ?” เซียวรั่วเริ่มหวั่นๆ เธอคิดไม่ตกจริงๆว่าทำไมเฉินเฟิงต้องแข่งเปียโนกับไป๋เหวินซั่วด้วย ระดับฝีมือเปียโนของไป๋เหวินซั่วเรียกได้ว่าสูงอย่างเห็นพ้องต้องกัน เฉินเฟิงแข่งเปียโนกับเขา ไม่เท่ากับเอาหน้าตัวเองเข้าไปให้ไป๋เหวินซั่วตบหรือไง?

“ฉัน...ฉันไม่รู้” หลินหวั่นชีวพูดเสียงเบา เธอรู้แค่ว่าเฉินเฟิงเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมีย มีภรรยาที่สวยมาก เรื่องอื่นเธอไม่รู้เลย ตอนนี้เฉินเฟิงจะแข่งเปียโนกับไป๋เหวินซั่วเพื่อเธอ เธอก็หวั่นใจเหมือนกัน

“เธอไม่รู้?” เซียวรั่วเบิกตากว้าง ยิ่งไม่มั่นใจเข้าไปใหญ่ หลินหวั่นชีวยังไม่รู้ งั้นเฉินเฟิงคงเล่นเปียโนไม่เป็นแน่ๆ ต่อให้เล่นเป็น ก็คงแค่ระดับธรรมดา อย่างน้อยคงเทียบกับไป๋เหวินซั่วที่อยู่ในระดับมืออาชีพไม่ไหวหรอก

ระหว่างที่เซียวรั่วคุยกับหลินหวั่นชีว เฉินเฟิงนั่งลงบนเก้าอี้เรียบร้อย เริ่มลองคีย์เปียโน

ด้านล่างเวทีเมาท์กันสนั่น

“แข่งเปียโนกับไป๋เหวินซั่ว ไอ้บ้านี่ไม่กลัวตายซะแล้ว”

“ไอ้กระจอกที่ขับรถซานตาน่ามือสองนี่เล่นเปียโนเป็นหรอ?”

“น่าจะไม่เป็น เธอดูท่าทางเขาสิ เหมือนคนเคยเล่นเปียโนที่ไหนกัน”

“รีบลงไปจากเวทีซะ อย่าหาเรื่องให้หูพวกเราเลย”

สำหรับเสียงก่นด่าจากด้านล่างเวที เฉินเฟิงไม่ใส่ใจสักนิด เขาได้แต่สะท้อนในใจ โชคชะตาบางทีก็ประหลาดนัก ครั้งที่แล้วเขาฉีกหน้าเสิ่นจุนเหวินที่อาคารหวงเห้า ก็เล่นเพลง《เฟือร์เอลีเซอ》 ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เล่นอีกครั้ง

ท่ามกลางเสียงก่นด่า เฉินเฟิงเริ่มบรรเลงเพลง โน้ตตัวแรกๆดูปกติสบายๆ นักศึกษาคณาจารย์จำนวนมากด้านล่างเวทียังไม่ได้ยินอะไรที่สุดยอด

แต่ตามการเคลื่อนไหวนิ้วมือของเฉินเฟิง เปียโนบนเวทีเหมือนมีชีวิตอีกครั้ง แต่ละตัวโน้ตดีดออกมา สะท้อนเสียงไปทั่วทั้งฮอลล์ เสียงคีย์โน้ตไพเราะนั่นกระทบหูทุกคนราวกับพายุลมฝนเข้ามา ทำให้พวกเขาสะท้านใจไปตามๆกัน

คนที่สีหน้าเปลี่ยนคนแรกสุดคือไป๋เหวินซั่ว ที่เขาว่ามืออาชีพหรือเปล่า แค่ดูก็รู้แล้ว ทุกคนในงานนี้ฝีมือเปียโนของเขาถือว่าอยู่ในระดับสูงที่สุดแล้ว ตัวโน้ตเดียวกัน คนธรรมดาได้ฟังจะรู้สึกแค่เพราะดี แต่เพราะตรงไหนพวกเขาก็พูดไม่ถูก

แต่สำหรับคนที่ฝึกเปียโนมาสิบกว่าปีอย่างไป๋เหวินซั่วกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่า ตัวโน้ตที่เฉินเฟิงเล่นออกมามันอัจฉริยะจริงๆ!

ถ้าจะเปลี่ยนวิธีพูดคือ จังหวะเพอร์เฟคส์ ระหว่างตัวโน้ตกับตัวโน้ตไม่มีเสียงแทรกเลย

แค่การควบคุมจังหวะ เฉินเฟิงก็อยู่เหนือเขาไม่รู้กี่ขุมแล้ว!

โซนแขกวีไอพี ฉู่ชีงฉือตอนนี้ไม่ได้ตกใจน้อยไปกว่าไป๋เหวินซั่วเลย 《เฟือร์เอลีเซอ》แบบเดียวกัน เมื่อกี้ตอนไป๋เหวินซั่วเล่น ฉู่ชีงฉือรู้สึกว่าแค่เล่นไปตามโน้ตเพลง ถึงจะเพราะแต่กลับขาดความรู้สึกบางอย่างไป

เห็นได้ชัดว่า ไป๋เหวินซั่วไม่ได้รู้ซึ้งถึงอารมณ์ที่แท้จริงของ《เฟือร์เอลีเซอ》 เขาแค่เล่นไปตามโน้ตเพลงเท่านั้น

แต่พอมาเป็นเฉินเฟิง 《เฟือร์เอลีเซอ》กลับมีชีวิตขึ้นมา มีจิตวิญญาณ!

เขาถ่ายทอดความรู้สึกในใจของผู้ชายที่รักแต่ไม่ได้ครอบครองออกมาได้หมดจดครบถ้วน ต่อให้เธอเป็นผู้หญิง ก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกสับสนในใจเสมือนมีความหวังท่ามกลางการหมดหวังนั่น

เซียวรั่วกับหลินหวั่นชีวสบตากัน ต่างเห็นแววตื่นเต้นดีใจในแววตาอีกฝ่าย เฉินเฟิงเล่นเปียโนเป็น!

แถมฝีมือยังเหนือกว่าไป๋เหวินซั่วอีก!

คนที่เข้าใจเปียโนในงานมีไม่มาก คนส่วนใหญ่ไม่เคยเล่นเปียโนเลยด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่ขัดขวางพวกเขาจากความไพเราะได้

เหมือนคนธรรมดาคนหนึ่งอยากจะวิจารณ์ว่าอาหารนั้นอร่อยไหม ไม่จำเป็นต้องไปสอบเป็นเชฟก็ได้

ทุกคนต่างมีความเข้าใจเฉพาะตัวกับความไพเราะ!

เห็นได้ชัดว่า 《เฟือร์เอลีเซอ》ของเฉินเฟิงไพเราะมาก!

อย่างน้อยจนถึงวินาทีนี้ นักศึกษากว่าสองหมื่นคนต่างคิดแบบนี้เหมือนกัน

“พระเจ้า หมอนี่เป็นบีโธเฟ่นกลับชาติมาเกิดหรือไง? นี่มันเพราะมากเลยนะ”

“ไม่ใช่แค่เพราะนะ นี่ฉันซาบซึ้งจนจะร้องไห้อยู่แล้ว เขาเล่นได้ฟิลจริงๆ”

“นี่ต่างหากถึงจะเป็น《เฟือร์เอลีเซอ》ที่แท้จริง เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคนจริงๆ ใครจะคิดล่ะว่า คนกระจอกที่ขับรถซานตาน่ามือสองคนหนึ่งจะมีฝีมือการเล่นเปียโนที่ไพเราะขนาดนี้”

“เทียบกับพี่ชายคนนี้แล้ว 《เฟือร์เอลีเซอ》ที่ไป๋เหวินซั่วเล่นเมื่อกี้เป็นขี้เลยนะ”

“พี่ชายคนนี้เหมือนเจ้าชายเปียโนน้อยที่ดังในอินเทอร์เน็ตช่วงก่อนหน้านี้เลยนะ พวกนายว่าไหม?”

“เจ้าชายเปียโนน้อย? ไม่มั้ง”

“ทำไมจะไม่ใช่ นายดูด้านหลังพี่เขาสิ เหมือนกับแผ่นหลังเจ้าชายน้อยเป๊ะเลยจริงไหม? แถมทั้งสองคนยังเล่น《เฟือร์เอลีเซอ》เหมือนกันอีก”

“พระเจ้า เป็นไปไม่ได้หรอก เจ้าชายเปียโนน้อยเป็นไอดอลของฉันเลยนะ เขามามหาลัยเราจริงหรอ?”

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ในมือฉันยังมีคลิปเจ้าชายน้อยอยู่เลย เดี๋ยวฉันหาให้เธอดูเลย”

ไม่นานก็มีคนแชร์คลิปที่เฉินเฟิงเล่น《เฟือร์เอลีเซอ》ที่อาคารหวงเท้าออกมา

ตอนนั้นเพราะเสิ่นจุนเหวินไลฟ์สดตลอด ดังนั้นคลิปที่เฉินเฟิงเล่น《เฟือร์เอลีเซอ》เลยโดนคนไม่น้อยอัดไว้ และแชร์ลงอินเทอร์เน็ตไปตามๆกัน

ต่อมาเฉินจงใช้อำนาจในมือตัวเองลบคลิปทั้งหมดไป แต่ก็ยังมีบางส่วนเล็ดลอดออกไป ถูกนักศึกษาของมหาลัยจงไห่เก็บไว้

ระหว่างที่ด้านล่างเวทีกำลังพิสูจน์ฐานะของเฉินเฟิงกัน 《เฟือร์เอลีเซอ》ของเฉินเฟิงบนเวทีก็เล่นเสร็จพอดี

ทั้งฮอลล์เงียบชั่วอึดใจ จากนั้นก็มีเสียงปรบมือดังกึกก้อง นี่ไงเหนือฟ้ายังมีฟ้า ก็ต้องมีการปรบมือที่ยิ่งกว่าครั้งก่อน

หรือแม้กระทั่งมีนักศึกษาหลายคนที่ยังฟังไม่หนำใจ โห่ร้องขอให้เฉินเฟิงเล่นอีกครั้ง

เสียงพวกนี้เสียดแทงหูไป๋เหวินซั่วเหลือเกิน

ทุกเสียงเหมือนฝ่ามือตบเข้าที่ใบหน้าไป๋เหวินซั่ว เขารู้สึกว่าหน้าตัวเองเจ็บแสบเอามากๆ

เรื่องมาถึงขั้นนี้ เขาไม่ต้องเล่นอีกแล้ว เพราะผลแพ้ชนะมันเห็นกันชัดๆอยู่แล้ว

วินาทีที่เฉินเฟิงเล่นเสร็จ เขาก็โดนเฉินเฟิงกดทับติดดินแล้ว ถ้าลงมืออีกก็คือหาเรื่องให้ตัวเองขายหน้าเท่านั้น

“พี่เฟิง พี่เก่งมากเลยนะเนี่ย” สายตาเซียวรั่วเปล่งประกายดุจดาวนับพัน ต้องพูดเลยว่า ครั้งนี้เฉินเฟิงมาเหนือความคาดหมายของเธอจริงๆ ถ้าไม่ใช่เฉินเฟิงมีฝีมือแบบนี้ เธอคงจับคู่เฉินเฟิงกับเจ้าชายน้อยเปียโนไม่ได้แน่

เฉินเฟิงยิ้มไม่ได้พูดอะไร สำหรับเขาแล้วนี่ไม่จำเป็นต้องชมเลย เพราะแข่งเปียโนกับเด็กน้อยอย่างไป๋เหวินซั่ว เท่ากับรังแกเด็กชัดๆ

หลินหวั่นชีวที่ยืนข้างๆถึงจะไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ แต่แก้มแดงเรื่อและมือบางที่กำแน่นสามารถอธิบายได้ดีว่าตอนนี้เธอตื่นเต้นแค่ไหน

“หนุ่มน้อยคนนี้น่าสนใจแฮะ” จูชิ่งเฟิงฝืนยิ้ม และออกแนวกระอักกระอ่วนใจด้วย เมื่อกี้ตอนเริ่ม เขาวิจารณ์เฉินเฟิงหนักที่สุดในบรรดาแขกวีไอพีทั้งหมด ตอนนี้พอผลปรากฏแล้ว หน้าของเขาก็โดนตบเจ็บที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร