บทที่ 395 ลอบกัด
“เหวินซั่วน่ะ คราวนี้ต้องฝึกฝนใหม่แล้วล่ะ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน คำพูดโบราณพวกนี้จะลืมไม่ได้เลยนะ” หยางเจี้ยนโสงพึมพำออกมา ก่อนเฉินเฟิงเริ่มเล่นเปียโนเขาไม่คิดสักนิดว่าเฉินเฟิงจะชนะ แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าเฉินเฟิงตบหน้าทุกคนหมด
ใครบอกว่าคนที่ขับรถซานตาน่ามือสองจะเล่นเปียโนไม่เป็นกัน?
คนเพียงคนเดียวในงานที่คาดเดาผลลัพธ์ได้คือฉู่ชีงฉือ
แต่ความตกใจของฉู่ชีงฉือในตอนนี้ไม่ได้น้อยไปกว่าทุกคนเลย
คนอื่นแค่รู้สึกว่า《เฟือร์เอลีเซอ》ที่เฉินเฟิงเล่นน่ะเพราะมาก แต่เธอกลับรู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณใน《เฟือร์เอลีเซอ》ของเฉินเฟิง
เฉินเฟิงทำให้《เฟือร์เอลีเซอ》มีชีวิตขึ้นมา!
นี่มันเหลือเชื่อเอามากๆเลย!
ฝีมือขนาดนี้ไม่ด้อยกว่านักเปียโนในประเทศพวกนั้นเลย เผลอๆจะดีกว่าซะอีก!
เฉินเฟิงเป็นใครกันแน่นะ?
ฝีมือศิลปะการต่อสู้ว่าสูงแล้ว นี่ทำไมเปียโนก็เล่นเก่งจนน่ากลัวขนาดนี้ด้วยล่ะ?
“ฉันเล่นเสร็จแล้ว นายไสหัวลงไปได้แล้วล่ะ”
บนเวที เฉินเฟิงสองมือไขว้หลัง สายตาจับจ้องไปที่ไป๋เหวินซั่ว พลางพูดเสียงเรียบ
ไป๋เหวินซั่วในตอนนี้ สีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขาไม่เคยคิดเลยว่า วันหนึ่งตัวเองจะต้องมาแพ้ไอ้กระจอกในสิ่งที่ตนถนัดที่สุดต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้
“ฉันไม่ยอมรับ!” ไป๋เหวินซั่วดวงตาแดงก่ำ เขารับไม่ได้ เขารับไม่ได้ที่ต้องแพ้ให้เฉินเฟิงแบบนี้!
คนกระจอกอย่างเฉินเฟิง ก็แค่พอดีมีฝีมือการเล่นเปียโนเท่านั้น นอกจากเล่นเปียโนได้ดีแล้ว มันไม่มีทางมีความสามารถแบบอื่นหรอก!
เฉินเฟิงเริ่มขมวดคิ้ว: “นายไม่ยอมรับ?”
“ใช่ ฉันไม่ยอมรับ!”
“ไอ้กระจอกที่ขับซานตาน่ามือสองอย่างแกไม่คู่ควรกับหวั่นชีว!” ไป๋เหวินซั่วกัดฟันบอกหน้าด้านๆ
“ฉันจะแข่งบู้กับแก! ถ้าแกยังแข่งชนะฉันอีก...”
“ไป๋เหวินซั่ว นายจะหน้าด้านไปถึงไหนหะ?!” ไป๋เหวินซั่วยังพูดไม่ทันจบ เซียวรั่วก็แผดเสียงด่าเขาขึ้นมาเลย นี่มันหน้าด้านเกินไปแล้ว!
หน้าด้านมากจริงๆ!
เซียวรั่วเคยเจอคนหน้าด้านมา แต่ไม่เคยเห็นใครหน้าด้านเท่าไป๋เหวินซั่วมาก่อน คนบอกจะแข่งก็เขา คนจะแข่งบุ๋นก็เขา ตอนนี้แพ้แล้วกลับไม่ยอมรับ ยังอยากแข่งบู้กับเฉินเฟิงต่ออีก? มีคนหน้าด้านแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย?
“เซียวรั่ว หุบปากไปเลยนะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ” ไป๋เหวินซั่วอายจนโกรธ เขารู้ดีว่าตัวเองหน้าด้านแค่ไหนในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เขาเหมือนขี่หลังเสืออยู่ เขาต้องให้บทเรียนกับเฉินเฟิงเพื่อกู้หน้าตัวเองกลับมาซักหน่อย ไม่อย่างนั้นต่อไปชื่อเสียงเขาในมหาลัยจงไห่คงกลายเป็นเรื่องตลกแน่
ไป๋เหวินซั่วเบนสายตากลับไปที่เฉินเฟิง
“ไอ้กระจอก แกเก่งมากไม่ใช่หรอไง มาแข่งบู้กับฉันต่อสิ! ถ้าแกแข่งบู้ชนะฉัน ต่อไปฉันจะเดินอ้อมหนีหวั่นชีวเลย!” ไป๋เหวินซั่วสีหน้าชั่วร้าย ขอแค่ซัดเฉินเฟิงตกเวทีได้ วันนี้เขาก็ไม่ถือว่าแพ้แล้ว!
เขายังมีโอกาสพลิกเกมส์กลับมาได้!
เฉินเฟิงส่ายหน้าบอก: “ฉันไม่อยากสู้กับคนอย่างนาย มันจะทำมือฉันสกปรก”
เฉินเฟิงพูดเสียงเรียบ แต่ไป๋เหวินซั่วกลับโกรธจนหน้าดำหน้าแดง: “อย่ามาโม้ แกก็แค่กลัวเท่านั้นแหละ!”
“ใช่ นายพูดถูก ฉันกลัวแล้ว” เฉินเฟิงยิ้มน้อยๆ ให้เขาแข่งเปียโนกับไป๋เหวินซั่วบนเวทีก็ทำตัวเขาเสียราคามากแล้ว ตอนนี้จะให้เขาแข่งบู้กับไป๋เหวินซั่วบนเวทีอีก เขาทำใจไม่ได้ จอมยุทธ์หั้วจิ้งอย่างเขาไม่กลัวขายหน้าหรือไง?
เฉินเฟิงพูดจบก็หมุนตัวเตรียมเดินลงจากเวทีเลย
ไป๋เหวินซั่วโดนเมินเฉย เขาโกรธจนใบหน้าบิดเบี้ยวชั่วร้ายมาก
“เหวินซั่ว ลงมาได้แล้ว เธอแพ้แล้ว” ด้านล่างเวที อธิการบดีเหอยืนขึ้นจากที่นั่งโซนวีไอพี พูดอย่างไม่ชอบใจนัก หน้าของมหาลัยจงไห่วันนี้โดนไป๋เหวินซั่วทำแตกย่อยยับไม่เหลือดีแล้ว
เหวินซั่วแพ้ให้กันคนทำงานธรรมดาอย่างเฉินเฟิงแล้ว แพ้ยังกะตีเนียนไม่ยอมรับ ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ไม่รู้มหาลัยจงไห่จะโดนโลกภายนอกวิจารณ์ว่ายังไงบ้าง
เดิมคิดว่าอธิการบดีเหอเอ่ยปากทั้งที ไป๋เหวินซั่วคงยอมลงจากเวทีอย่างว่าง่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...