ลูกเขยมังกร นิยาย บท 412

สรุปบท บทที่ 412 ทุกคนต่างมีแผนการ: ลูกเขยมังกร

ตอน บทที่ 412 ทุกคนต่างมีแผนการ จาก ลูกเขยมังกร – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 412 ทุกคนต่างมีแผนการ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ลูกเขยมังกร ที่เขียนโดย เมฆทอง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 412 ทุกคนต่างมีแผนการ

ในเมื่อเป็นแบบนี้ อธิบายได้เพียงแค่หนึ่งคำถาม

เบื้องหลังของหลินหวั่นชีว มีมหาปรมาจารย์ท่านหนึ่ง!

อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างมหาปรมาจารย์กับหลินหวั่นชีว ไม่ธรรมดา

พลังต้นที่มหาปรมาจารย์เก็บเอาไว้ในตัวหลินหวั่นชีว อย่างน้อยต้องฝึกฝนนานกว่าห้าปีจึงจะสะสมมาได้

พลังต้นของมหาปรมาจารย์ที่ใช้เวลาฝึกฝนนานกว่าห้าปีจึงจะสามารถสะสมมาได้นั้นเป็นพลังต้นอย่างไร คนส่วนมากไม่รู้

สามารถกล่าวได้ว่า หากมหาปรมาจารย์ที่อยู่เบื้องหลังหลินหวั่นชีว ใช้พลังที่เขาฝึกฝนบำเพ็ญเพียรมานานกว่าห้าปี ใช้วิธีฉลาดถ่ายพลังให้กับคนธรรมดา คนธรรมดาคนนั้น ใช้เวลาสั้นๆ ในการขึ้นเป็นอ้านจิ้งชั้นสุด!

อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ว่าจะขึ้นเป็นหั้วจิ้งชั้นต้น!

แต่ตอนนี้ พลังนี้ กลับถูกใช้ในผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง

อย่างไม่ต้องสงสัย นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่

มหาปรมาจารย์ที่อยู่เบื้องหลังหลินหวั่นชีว เป็นใครกันแน่?

ทำไมเขาถึงไม่ถ่ายบูโดให้กับหลินหวั่นชีวโดยตรง ทำให้หลินหวั่นชีวกลายเป็นจอมยุทธ์ แต่กลับใช้วิธีของพลังต้น ปกป้องหลินหวั่นชีว?

หรือเป็นเพราะหลินหวั่นชีว มีความลับอะไร?

"คุณเฉิน?"

เจียงจุงถิงยื่นมือออกมาอีกครั้ง ผายมือไปมาตรงหน้าเฉินเฟิง เฉินเฟิงดึงสติตนเองกลับมาราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน เมื่อกี้เขาครุ่นคิดจนใจลอย

"คุณเฉินกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงได้ใจลอยขนาดนี้?" เจียงจุงถิงอดไม่ได้ที่จะถามสักหน่อย

"เปล่าครับ" เฉินเฟิงส่ายหน้า จากนั้นพูดขึ้น:“อาเจียง เรื่องของหวั่นชีว รบกวนคุณอย่าพูดออกไป"

"วางใจเถอะ ฉันไม่ใช่คนปากโป้ง" เจียงจุงถิงพยักหน้า เขากับสือโพ่จุนสนิทกัน ต้องรู้อยู่แล้ว บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เรียบง่ายเหมือนอย่างที่เห็น

นอกจากโลกของคนทั่วไปแล้ว ยังมีโลกของจอมยุทธ์

ในโลกของจมยุทธ์ อันตรายกว่าโลกของคนทั่วไปไม่เพียงแค่ร้อยเท่า

หลินหวั่นชีวในวันนี้ บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับความลับสำคัญของโลกจอมยุทธ์ก็ได้

หลังจากออกมาจากโรงพยาบาล สีหน้าของเฉินเฟิงเคร่งขรึมเล็กน้อย

ถึงแม้ตอนนี้หลินหวั่นชีวไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว แต่เรื่องที่เธอยอมเสี่ยงตายเพื่อช่วยตนเองเป็นความจริง

ถ้าไม่ใช่เพราะมีพลังต้นของมหาปรมาจารย์คอยปกป้องเอาไว้ หลินหวั่นชีวคงตายตั้งแต่ตอนที่ถูกรถชนแล้ว

หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฉินเฟิงกดโทรหาฉินเสวี่ยนหรัว

นี่เป็นครั้งแรก ที่เขามาจงไห่แล้วเป็นฝ่ายติดต่อหาฉินเสวี่ยนหรัวก่อน

เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เธอต้องให้คำตอบหลินหวั่นชีว

หลังจากปลายสายรับโทรศัพท์ ยังไม่ทันรอให้เฉินเฟิงพูด ปลายสายฉินเสวี่ยนหรัวก็พูดขึ้นมาก่อน:“ฉันรู้ว่านายจะถามอะไรฉัน แต่ฉันไม่สามารถบอกนายได้"

"ทำไมล้ะ?" น้ำเสียงของเฉินเฟิงนิ่งมาก นิ่งจนทำให้หัวใจของคนหนาวเย็น

"นายทำอะไรพวกเขาไม่ได้" น้ำเสียงของฉินเสวี่ยนหรัวดูเหน็ดเหนื่อย อีกทั้งยังเคล้าไปด้วยความจนปัญญา

ดวงตาของเฉินเฟิงหรี่ลง:“นี่ไม่ใช่เหตุผล"

"นี่คือเหตุผล!” ท่าทีของฉินเสวี่ยนหรัวดูแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

"เฉินเฟิง ฉันอยากให้นายเข้าใจหลักการอะไรอย่างหนึ่ง เวลากระต่ายอับจนหนทางมันจะกัดคน เวลาสุนัขอับจนหนทางมันจะกระโดดข้ามกำแพง"

"นายในตอนนี้ เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของตระกูลเฉินเท่านั้น"

"ฐานะของนาย ไม่ได้สูงส่งอย่างที่นายคิดเอาไว้"

"แม้แต่ฉู่ชีงฉือฝ่ายนั้นยังกล้าฆ่า ดังนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงนาย ถ้าบีบบังคับพวกมันจนเกินไป นายไม่มีวันได้เห็นพระอาทิตย์ของอีกวันแน่!”

"หวั่นชีวเกือบตาย" น้ำเสียงของเฉินเฟิงยังคงนิ่งเฉย

"เธอแค่เกือบตายเท่านั้น แต่เธอไม่ได้ตายจริงๆ!” น้ำเสียงของฉินเสวี่ยนหรัวเย็นยะเยือก

เธอตรวจสอบภูมิหลังของหลินหวั่นชีวมานานแล้ว ฐานะครอบครัวของเธอธรรมดาทั่วไป พ่อกับแม่เป็นแค่คนงานทอผ้าทั่วไป นอกจากหน้าตาที่สวยแล้ว หลินหวั่นชีวไม่มีอะไรน่าสงสัย

มีเพียงสิ่งเดียวที่เฉินเฟิงรู้ก็คือ จินเจี่ยจง เกี่ยวข้องกับสองตระกูลนี้

ในนี้ สิ่งที่จินเจี่ยจงแสดงนั้น มีความเป็นไปได้ว่ารับบทเป็นพวกอันธพาล

เขาสามารถเดาเรื่องพวกนี้ได้ ตระกูลฉู่เองก็สามารถเดาได้เหมือนกัน

บางทีตั้งแต่เริ่มแรก ฉู่ชีงฉือก็รู้อยู่แล้ว ว่าศัตรูที่แท้จริงของตนเป็นใครกันแน่

เหตุที่ไม่พูดออกมานั้น มีความเป็นไปได้สูงว่า เพื่อดึงเขาเข้าไปในค่ายของตระกูลฉู่

สลับซับซ้อน

ทุกคนล้วนมีแผนการ

นี่คือสถานการณ์ในปัจจุบัน

เฉินเฟิงหรี่ตาลง บางทีข่าวดีเดียวในตอนนี้ก็คือเขาพอจะรู้แล้วว่าใครเป็นศัตรู

อีกด้านหนึ่ง หลังจากเสี้ยเมิ่งเหยาออกมาจากฮงเยคลับ หลินหลันรีบตามหลังมา:“เมิ่งเหยา ลูกรอแม่ด้วย!แม่มีเรื่องจะพูดกับลูก!”

เวลานี้ รถมาเซราติสีแดงขับมาตรงหน้า แล้วจอดลงตรงหน้าเสี้ยเมิ่งเหยา

ประตูรถเปิดออก ชายหนุ่มวัยกลางคนที่ดูเหมือนคนขับรถเดินลงมา เขาเปิดประตูรถให้เสี้ยเมิ่งเหยา อีกทั้งผายมือเข้าไปในรถ

ภาพนี้ ทำให้หลินหลันตกใจไม่น้อย

รถมาเซราติคันนี้......มารับลูกสาวตนเอง?

"ประธานเสี้ย เชิญขึ้นรถครับ"

หนึ่งวินาทีถัดมา ท่าทีนอบน้อมเคารพของคนขับรถวัยกลางคนเป็นเครื่องยืนยันสิ่งที่หลินหลันคาดเดา

รถมาเซราติคันนี้ มารับลูกสาวของตนเองจริงๆ!

อีกทั้ง......ประธานเสี้ยนี่เป็นเรื่องอะไรกัน?

ลูกสาวของตนเอง กลายเป็นประธานเสี้ยตั้งแต่เมื่อไหร่?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร