บทที่419 ก่วนฉู่อี้ผู้แสนโอเวอร์
"หลี่เล่อ แกทำแบบนี้ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอ เมื่อกี้ตอนที่ฉันอยู่ด้านนอก แกเรียกใครว่าพี่เฟิง" ชายหนุ่มผมทองทำหน้าบูดบึ้ง คล้ายไม่พอใจ
"เขาคือพี่เฟิงที่แกเรียกใช่ไหม?" ยังไม่ทันรอให้หลี่เล่อพูด ชายหนุ่มผมทองหันไปมองทางเฉินเฟิง เพราะในห้องอาหารแห่งนี้ มีแค่เฉินเฟิงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้ชาย
"ใช่......" หลี่เล่อลำบากใจเล็กน้อย ชายหนุ่มผมทองคนนี้ชื่อว่าก่วนฉู่อี้ เป็นทายาทของคนรวย ครอบครัวของเขาทั้งมีเงินและมีอำนาจ เขาไม่สามารถมีเรื่องกับผู้ชายคนนี้ได้ ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าก่วนฉู่อี้หมายตาเพื่อนของเฉินเฟิงแล้ว เขาควรทำยังไงดี?
"ใช่ก็ดี ในเมื่อพี่เฟิงคนนี้เป็นเพื่อนของนาย ถ้าอย่างนั้นก็คือเพื่อนของฉัน ทุกคนเป็นเพื่อนกัน นั่งกินข้าวด้วยกันสักมื้อ คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้ง?" คำพูดนี้ของก่วนฉู่อี้เหมือนกำลังถามหลี่เล่อ แต่ความเป็นจริง เขาไม่ได้มองหลี่เล่อเป็นคนเลยด้วยซ้ำไป ยังไม่รอให้หลี่เล่อพูดจบ ก่วนฉู่อี้ดึงเก้าอี้ออกมา แล้วนั่งที่โต๊ะ
"สาวสวยทั้งหลาย คงไม่ถือสาที่ผมจะนั่งร่วมโต๊ะกับพวกคุณหรอกใช่ไหมครับ?"
ก่วนฉู่อี้คลายยิ้มบางๆ เขาเลิกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นนาฬิกาวาเชอรองกงสุลตองแตงบนข้อมือ
เขาเชื่อ ขอแค่ผู้หญิงพวกนี้ไม่ได้ตาบอด ก็น่าจะเข้าใจ ว่าสิ่งที่เขาทำมันหมายความว่าอะไร
หูเซอร์หยวนคลายยิ้มบางๆ หยิบแก้วตรงหน้าขึ้นมา แล้วดื่มไวน์เข้าไปหนึ่งอึก เธอไม่ได้สนใจก่วนฉู่อี้
เซียวรั่วขมวดคิ้วเป็นปม เธอหันไปมองเฉินเฟิง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเฉินเฟิง ก่วนฉู่อี้คนนี้ ถึงแม้ไม่มีมารยาท แต่ถ้าไล่เขาออกไปแบบนี้ จะเป็นการไม่ไว้หน้าหลี่เล่อ ถึงอย่างไรหลี่เล่อก็เป็นเพื่อนของเฉินเฟิง
"เอ่อ พี่ก่วน เอาไว้วันหลังพวกเราค่อยมากินข้าวด้วยกันเถอะครับ พี่เฟิงไม่ชอบกินข้าวกับคนแปลกหน้า" ไม่รอให้เฉินเฟิงพูด หลี่เล่อรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมาก่อน สามารถมองออกว่า เพื่อที่หลี่เล่อจะพูดคำนี้ออกมา เขาต้องรวบรวมความกล้า
ความสัมพันธ์ของเขากับก่วนฉู่อี้ ความเป็นจริงก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ วันนี้เขารบกวนเวลาจีบสาวของก่วนฉู่อี้ ถือว่าทำผิดต่อก่วนฉู่อี้ ทำผิดต่อลูกคนรวยอย่างก่วนฉู่อี้ ในใจของหลี่เล่อรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
แต่ว่าเขาเองก็ไม่มีทางเลือก ถ้าเขาไม่ลุกขึ้นมาพูดอะไร แล้วปล่อยให้ก่วนฉู่อี้นั่งจีบเซียวรั่วและหูเซอร์หยวน ความสัมพันธ์ของเขากับเฉินเฟิง เกรงว่าจะมีปัญหาแล้ว
"ถ้าฉันจะกินวันนี้ให้ได้ละ?" น้ำเสียงของก่วนฉู่อี้เย็นยะเยือก ตอนแรกเขานึกว่า หลังจากที่ตนพูดแบบนั้นออกไป คนที่จะขัดใจเขาต้องเป็นเฉินเฟิง ทว่าคิดไม่ถึง กลับเป็นไอ้คนไร้ประโยชน์อย่างหลี่เล่อ เขาไม่มีสิทธิ์อะไรไม่ให้เกียรติตน?
เมื่อถูกก่วนฉู่อี้โมโหต่อหน้าทุกคน สีหน้าของหลี่เล่อดูลำบากใจขึ้นมาทันที แต่ว่าก่วนฉู่อี้มีคนคอยหนุนหลัง เขาเองก็ไม่กล้าทำอะไร
"พี่เฟิงใช่ไหมครับ?" ก่วนฉู่อี้หันไปมองเฉินเฟิง น้ำเสียงของเขาเคล้าไปด้วยความท้าทาย:“ผมจะกินข้าวกับสาวๆสวยๆ พี่คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?"
"ไม่หรอก" เฉินเฟิงคลายยิ้มบางๆ ราวกับไม่สนใจความท้าทายของก่วนฉู่อี้
"ไม่หรอก?" ก่วนฉู่อี้กระตุกยิ้มมุมปาก:“พี่รู้ดีหนิว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ”
"พี่เฟิง?" หลี่เล่อประหลาดใจเล็กน้อย นิสัยของเฉินเฟิง ไม่ใช่คนที่ยอมใครง่ายๆ แม้แต่หลี่สื้อผิงเขายังกล้ามีเรื่องด้วย ทำไมพอกับก่วนฉู่อี้ เขากลับนิ่งไปละ
ก่วนฉู่อี้ไม่รู้ว่าในใจของหลี่เล่อกำลังคิดอะไร จากที่เขาดู เฉินเฟิงยอมคนง่ายๆแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะถึงยังไงก็เห็นๆกันอยู่แล้ว ขอแค่มีตา ล้วนสามารถดูออกว่า ภูมิหลังของเขาไม่ธรรมดา
คนอย่างเขาอยากจะจีบสาว เฉินเฟิงก็ควรประเคนผู้หญิงพวกนั้นมาตรงหน้าเขา
"พวกเธอเป็นนักศึกษากันหมดเลยใช่ไหม?"
หลังจากก่วนฉู่อี้มองเซียวรั่วและหูเซอร์หยวนอย่างพิจารณาโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว เขาก็พูดขึ้นพร้อมกับคลายยิ้ม
เซียวรั่วขมวดคิ้ว นัยน์ตาคู่สวยฉายความรังเกียจออกมาเล็กน้อย เธอไม่ได้ตอบคำถาม
กลับกลายเป็นหูเซอร์หยวน ที่เหมือนจะสนใจก่วนฉู่อี้ เธอยิ้มแล้วพูดขึ้น:“คุณมองออกได้ยังไงคะ?"
เมื่อเห็นหูเซอร์หยวนตอบ ดวงตาของก่วนฉู๋อี้เปล่งประกายขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...