บทที่ 422 เรื่องบังเอิญ
หลังจากถูกน้ำชาลวกก่วนฉู่อี้ก็กลายเป็นคนใจเย็นมากขึ้น แม้สายตาที่มองเฉินเฟิงยังอาฆาตอยู่ แต่เขาไม่กล้าพูดคำหยาบคายต่อหน้าผู้คนอีก
ในเวลาเดียวกัน ย่านเจริญในเมืองจงไห่ รถเก๋งสีดำสามคันได้ขับเรียงกันออกไป
รถคันแรกที่ขับนำเป็นรถเบนซ์รุ่น S600
รถคันหลังที่ปิดท้ายเป็นรถแลนด์โรเวอร์
ส่วนรถที่แล่นอยู่ตรงกลางเป็นรถโรลส์รอยซ์สีดำ
ที่นั่งแถวหลังในรถโรลส์รอยซ์สีดำคันนั้นเป็นชายหนุ่มรูปหล่อในเสื้อเชิ้ต Gucci รุ่นลิมิเต็ดซึ่งกำลังสูบซิการ์และมองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างสบายใจ
ด้านข้างชายหนุ่มคนนั้นเป็นชายวัยกลางคนในชุดสูทนั่งอยู่อย่างกระสับกระส่าย “คุณชายครับ นายท่านเคยบอกแล้วว่าไม่ให้คุณออกไปไหนนะครับ......”
“ลุงฝูหนิง……”
ชายหนุ่มจงใจลากเสียงยาวด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
จากนั้นเขาเก็บอารมณ์แล้วพูดอย่างใจเย็นอีกครั้ง “ลุงฝูหนิง ผมไปไม่นานหรอก ช่วยเพื่อนเก็บกวาดสิ่งของไร้ค่าเสร็จผมก็จะกลับมาทันที ผมสัญญาว่าจะไม่สร้างปัญหาอีก”
“คุณชาย ผมไม่ได้กลัวคุณชายจะสร้างปัญหาหรอก แต่นายท่านสั่งผมไว้ว่าต้องให้คุณชายอยู่บ้านครบสิบห้าวันก่อนถึงจะออกไปไหนได้ ถ้านายท่านรู้ว่าคุณชายออกไปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตแบบนี้แกคงไม่ปล่อยผมไว้แน่......” วั่นฝูหนิงเหลือทนจริง ๆ จนวันนี้แล้วทำไมคุณชายยังไม่ยอมเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้สักที เพราะคนที่เขาท้าทายด้วยในครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา
“ลุงฝูหนิง กฎนั้นเป็นของตาย แต่คนไม่ใช่ ผมออกไปไม่นานหรอก ลุงอย่าบอกคุณพ่อก็พอ” ชายหนุ่มเป่าควันซิการ์ออกมา เขารู้สึกว่าการตัดสินใจของพ่ออาจจะเกินเหตุไปหน่อย ฉู่ชีงฉือมีเพื่อนตั้งมากมาย แล้วจะมีใครหน้าไหนที่ตระกูลไป๋ของเขาโค่นล้มไม่ได้
“แต่......” วั่นฝูหนิงอยากพูดต่อ แต่ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกเหลือทนแล้ว “หยุดแต่ได้แล้ว ลุงฝูหนิง ถ้าพ่อผมรู้เข้าจริง ๆ ก็บอกแกว่าผมตั้งใจออกมาเคลียร์ปัญหาให้กับลูกชายของก่วนจ้งเฟย คุณพ่อจะเข้าใจเอง”
“ก่วนจ้งเฟย?”
วั่นฝูหนิงถึงกับผงะไปครู่ “ก่วนจ้งเฟยที่อยู่ในเมืองเจียงตงเหรอ?”
“ใช่แล้ว” ชายหนุ่มพยักหน้า
“แล้วคุณชายไปรู้จักลูกชายของก่วนจ้งเฟยได้ยังไง?” วั่นฝูหนิงรู้สึกสงสัย ลูกชายของก่วนจ้งเฟยไม่เท่าไหร่ แต่ก่วนจ้งเฟยนั้นเป็นถึงผู้มีอำนาจของตระกูลจินที่ซึ่งเป็นตระกูลร่ำรวยที่สุดในมณฑลเจียงตงเชียวนะ เคยมีคนเล่ากันว่าเขาเคยช่วยชีวิตหัวหน้าครอบครัวตระกูลจินไว้ ดังนั้นเขากับหัวหน้าตระกูลจินในสมัยนี้ก็สนิทกันดั่งพี่น้องท้องเดียวกัน
ถ้าหากสามารถเข้าถึงก่วนจ้งเฟยผ่านลูกชายของเขาและสามารถใช้ความสัมพันธ์ของก่วนจ้งเฟยเข้าถึงตระกูลจินได้ เครดิตของคุณชายครั้งนี้ต้องเป็นที่น่าภูมิใจของวงศ์ตระกูลอย่างแน่นอน
และตระกูลจินในเมืองเจียงตงนั้นไม่ได้ด้อยกว่าสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองจงไห่เลย ดังนั้นถ้าหากตระกูลไป๋สามารถเข้าถึงตระกูลจินได้นั่นก็หมายความว่าพวกเขาได้ก้าวไปอีกระดับอย่างแน่นอน
“รู้จักในคลับหมิงเหมิน” ไป๋เหวินซั่วตอบอย่างเกียจคร้าน “ลูกชายของก่วนจ้งเฟยบอกว่าเขาอยากมาพัฒนาที่จงไห่ แต่ภูมิฐานที่นี่ของเขาไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ผมจึงนัดเพื่อน ๆ หลายคนมาเพื่อทำความรู้จักกับเขาในคลับหมิงเหมิน……”
“แบบนี้นี่เอง” วั่นฝูหนิงพยักหน้าเบา ๆ แสดงถึงความเข้าใจ
ตระกูลไป๋ต้องการใช้ความสัมพันธ์ของก่วนจ้งเฟยเพื่อเข้าถึงตระกูลจิน ส่วนลูกชายของก่วนจ้งเฟยก็ต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลไป๋เพื่อเจาะตลาดที่จงไห่
ทั้งสองตระกูลต่างก็มีความต้องการของตน ส่วนไป๋เหวินซั่วก็จะถือโอกาสนี้สร้างชื่อเสียงให้กับตนได้
และหลังจากเขากลับไปทั้งหมดทั้งปวงนี้ก็จะเป็นข้อแก้ตัวกับไป๋เสี้ยวเทียนได้
ไม่กี่นาทีต่อมา รถหรูสามคันได้หยุดลงที่หน้าประตูเจียงหมั่นโล๋
ชายบอดี้การ์ดชุดดำเจ็ดแปดคนลงจากรถพร้อมกับหูฟังวิทยุสื่อสาร พวกเขากวาดมองไปทั่วทุกมุมด้วยสายตาที่เหมือนเหยี่ยวเพื่อมันใจถึงความปลอดภัย จากนั้นค่อยเดินไปที่รถของไป๋เหวินซั่วแล้วเปิดประตูให้เขา
ไป๋เหวินซั่วค่อย ๆ ลงจากรถ จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
“พี่ก่วน ผมถึงแล้วครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...