บทที่ 423 ผมไม่สนิทกับเขา
คนที่อยู่ในห้องค่อนข้างเยอะ ดังนั้นหลังจากที่ไป๋เหวินซั่วเข้าไปข้างในเขาไม่ได้เห็นเฉินเฟิงเป็นคนแรก
แต่ก่วนฉู่อี้ในเวลานี้ก็ตะโกนส่งเสียงดังอีกครั้ง “ไอ้สัตว์กะหมา ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“คุณแน่ใจแล้วเหรอว่าจะให้ผมออกไป?” เสียงอดขำไม่ได้ของเฉินเฟิงดังขึ้นในห้อง
เมื่อได้ยินเสียงนี้ สีหน้าอันเฉยเมยของไป๋เหวินซั่วก็เปลี่ยนเป็นตกใจและรู้สึกใจไม่ดีขึ้นมาทันที
แต่ก่วนฉู่อี้กลับไม่รู้สึกอะไร เขายังคงยิ้มพูดอย่างประหม่า “เหอะ ๆ ไอ้สัตว์กะหมา มึงรู้สึกกลัวแล้วสินะ?”
“ถ้ามึงกลัวมึงก็ออกมาคุกเข่ากราบงาม ๆ ต่อหน้ากูสักสิบครั้ง แล้วให้เมียมึงไปนอนกับกูและคุณชายไป๋สักคืนหนึ่ง ถ้าเธอทำให้กูกับคุณชายไป๋มีความสุขได้ กูอาจจะไว้ชีวิตมึงสักครั้ง......”
“หุบปาก!”
เสียงอันเหลือทนของไป๋เหวินซั่วดังลั่นขึ้นจากด้านหลัง
เสียงตะโกนอย่างรุนแรงนี้ทำให้ทุกคนในห้องถึงกับสะดุ้งตกใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ก่วนฉู่อี้ที่ได้ยินเสียงนี้ถึงกับตกใจอ้าปากค้างจนคางแทบจะติดพื้น……ทำไมต้องให้เราหุบปากด้วย?
“คุณชายไป๋ คุณ…...” ก่วนฉู่อี้อดถามไม่ได้ แต่ไป๋เหวินซั่วกลับกัดฟันพูดด้วยความโกรธ “บอกว่าให้หุบปากได้ยินไหม?!”
ก่วนฉู่อี้เงียบไปชั่วขณะ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สีหน้าความกลัวที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของไป๋เหวินซั่วนั้นไม่อาจปิดบังได้
สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้คนในห้องต้องสับสนไปด้วย ทุกคนต่างก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่มาช่วยก่วนฉู่อี้กลับสั่งให้เขาหุบปากแบบนี้
ในขณะที่ทุกคนยังสงสัยอยู่ เฉินเฟิงก็ได้ยิ้มพูด “คุณชายไป๋ ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะ”
ไม่เจอกันตั้งนาน?!
คำพูดสั้น ๆ ที่ทำให้ทุกคนต้องตกใจอีกครั้ง
ทุกคนต่างก็ตกใจอ้าปากค้างราวกับว่ายัดไข่เข้าไปได้หลายฟอง คนที่มีเรื่องกับก่วนฉู่อี้คนนี้รู้จักไป๋เหวินซั่วด้วยหรือ?!
อะไรกันเนี่ย?
“คุณอยู่นี่ได้ไง?!” ไป๋เหวินซั่วขมวดคิ้วสายตาจับจ้องไปที่เฉินเฟิง เขาไม่กล้าคิดเลยจริง ๆ ว่าคนที่มีเรื่องกับก่วนฉู่อี้นั้นคือเฉินเฟิง!
ถ้าเขารู้ว่าเฉินเฟิงอยู่ด้วย ต่อให้ตายเขาก็ไม่ยอมมาที่นี่
คนที่เขาไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้ก็คือเฉินเฟิง!
“ผมจะไปไหนต้องรายงานคุณด้วยงั้นเหรอ?” เฉินเฟิงยิ้มจาง ๆ เขาสามารถเห็นความกลัวจากสีหน้าของไป๋เหวินซั่วได้ และพ่อของไป๋เหวินซั่วคงจะเคยเตือนเขาว่าห้ามยุ่งกับเฉินเฟิงอีก
เมื่อได้ยินน้ำเสียงเย้ยหยันของเฉินเฟิง ทุกคนในงานถึงกับตะลึง
เดิมทีคิดว่าเฉินเฟิงกับไป๋เหวินซั่วแค่รู้จักกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทั้งสองไม่เพียงแต่รู้จักกันเท่านั้นแล้ว!
ทั้งสองอาจจะเป็นศัตรูกันก็ได้!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ทุกคนต่างก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ
คนที่สามารถเป็นศัตรูและยังกดดันไป๋เหวินซั่วได้ขนาดนี้ ต้องเป็นคนแบบไหนกันแน่?
สีหน้าท่าทางของก่วนฉู่อี้เริ่มกังวล เขาไม่ได้โง่จนตามความคิดของทุกคนไม่ทัน
ก่อนหน้านี้เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมไป๋เหวินซั่วถึงสั่งให้เขาหุบปาก แต่ตอนนี้เขาเริ่มกระจ่างแล้ว
คนไร้น้ำยาคนนี้เริ่มไม่เหมือนที่คิดไว้แล้วสิ
เขาน่าจะเป็นจระเข้ยักษ์ในตำนานมากกว่า!
เป็นจระเข้ยักษ์ในตำนานที่ต้องกลัวแม้กระทั่งคนอย่างไป๋เหวินซั่ว!
ดังที่ก่วนฉู่อี้คิดไว้ไม่ผิด ไป๋เหวินซั่วในตอนนี้เริ่มกลัวเฉินเฟิงแล้วจริง ๆ
แม้ว่าเขาจะเคยพูดอย่างสวยหรูก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเจอหน้าเฉินเฟิงเข้าจริง ๆ เขาก็ต้องผวาเหมือนกัน
เพราะตั้งแต่เล็กจนโต เฉินเฟิงเป็นคนแรกที่ทำให้เขาต้องทุกข์ทรมาน
และที่สำคัญที่สุดคือปฏิกิริยาของพ่อของเขา
ในฐานะผู้ค้าอัญมณีรายใหญ่ที่สุดในเมืองจงไห่ พ่อของเขาเป็นผู้ได้รับตำแหน่งนี้เป็นระยะเวลามากกว่าสิบปี นอกจากสี่ตระกูลใหญ่แล้วไม่มีใครเคยทำให้พ่อของเขากลัวมาก่อน
จนกระทั่งได้เจอกับเฉินเฟิง
เพราะเฉินเฟิงคนเดียวทำให้พ่อของเขาไม่กล้าปล่อยเขาออกไปไหนและยังกักตัวเขาเป็นเวลาสิบห้าวันด้วย ความนัยแบบนี้ทำให้เขาไม่กล้าคิดไปไกลกว่านี้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...