บทที่ 483 ลูกผีลูกคน
“ฉันเห็นด้วย ที่ลูกเขยของแกลงมือได้ดี ลงมือได้ดีแล้วเป็นยังไง? เพราะว่าในสังคมยุคสมัยนี้เป็นสังคมที่ว่าด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ใครเก่งกาจการชกต่อยถือว่ามากความสามารถอยู่ในสังคม เขาจะต่อยได้ดีขนาดไหน ก็ยังไม่เท่าตำรวจกับทางทหารลงมือหรอก?”
“ช่างก่อเรื่องให้โรงแรมจินหม่าจริงๆ ถ้าพวกเขาโทรไปแจ้งทางตำรวจ งั้นชั่วชีวิตของเขาก็ไม่มีทางรอดออกมาแล้ว” เซ่หยูนฟางพูดอย่างเย็นชา ถึงแม้ว่าความสามารถของเฉินเฟิงจะอยู่นอกเหนือความคาดหมายไปเยอะ แต่เป็นไปตามที่เธอพูดนั่นแหละ ว่าจะต่อยได้สักกี่น้ำกันเชียว?
สังคมในปัจจุบันนี้ คือการหาเงิน และหาเส้นสายในสังคม ไม่ใช่สังคมของการชกต่อยกันแล้ว
ถ้าพูดถึงสถานะทางการเงินของโรงแรมจินหม่ามีเงินมากมาย ถ้าเอ่ยถึงเส้นสายด้วยแล้ว พวกเขาต้องการให้เฉินเฟิงตาย ขอแต่พวกเขายกสายโทรศัพท์ก็สิ้นเรื่องแล้ว
“เหอะๆ แกคอยดูต่อไปแล้วกัน” หลินหลันหัวเราะร่า เมื่อเอาเรื่องเงินหรือเส้นสายมาพูดกับเฉินเฟิงนั้น เกรงว่าโรงแรมจินหม่ายังขาดอีกเยอะแยะที่จะเทียบได้ เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง การที่เฉินเฟิงมาลงทุนในเมืองชางโจวตั้งห้าหมื่นล้าน สามารถซื้อโรงแรมจินหม่าได้ตั้งสิบโรงแรมยังเหลืออีกเยอะ
“ดูอะไร? ให้ดูอะไรต่อ เดี๋ยวตำรวจก็มาแล้ว” เมื่อเห็นว่าหลินหลันยังคงทำหน้าตาย เซ่หยูนฟางรู้สึกเริ่มไม่เป็นสุข ถ้าเฉินเฟิงสามารถเรียกร้องความยุติธรรมจากโรงแรมจินหม่าได้ งั้นคนที่ต้องเสียหน้าก็ต้องเป็นเธอแล้วสิ
“พ่อ เรารีบไปกันเถอะ ถ้าไม่งั้นเดี๋ยวตำรวจมา เราก็จะไปไหนไม่ได้แล้ว” เซ่หยูนฟางเบนสายตามาทางหลินเซียวเสียน วันนี้เป็นงานวันเกิดของหลินเซียวเสียน หลินเซียวเสียนก็คงไม่อยาก ที่ต้องเข้าไปพัวพันกับเฉินเฟิงให้ตนเองต้องเหนื่อยตามไปด้วย
“ไปไหน?” หลินเซียวเสียนมองเซ่หยูนฟางอยู่แวบหนึ่ง “ฉันอยากจะเห็นวิธีการของไอ้หลานเขยคนนี้อยู่เลย”
น้ำเสียงของหลินเซียวเสียนนั้นสงบนิ่งมาก ทุกคนที่อยู่ในเวลานั้นก็ไม่ได้ฟังว่า หลินเซียวเสียนพูดเยาะเย้ยถากถางเฉินเฟิงเลย แถมยังรอคอยการกระทำของเฉินเฟิงต่อไปด้วย
เรื่องที่เฉินเฟิงใช้เวลาไม่ถึงห้าวินาทีในการล้มรปภ.ถึงเจ็ดแปดคน ไม่นานผู้บริหารระดับสูงของโรงแรมจินหม่าก็รู้เรื่อง
หลังจากนั้นหนึ่งนาที ก็ชายวัยกลางคนแต่งชุดสูทหลายคนวิ่งกระหืดกระหอบมา
“หยางเทียนกั๋ว!”
เมื่อเห็นหน้าชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้า สีหน้าของหลินอู่ขรึมลงทันที
“มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” สีหน้าเคร่งขรึมของหยางเทียนกั๋วมองมาที่พนักงานเปิดประตูที่กำลังยืนอยู่สองคน
“ไอ้หมอนี่มันอยากเจอประธานหวาง พวกเราไม่ให้มันเข้าไป มันดันดื้อด้านจะเข้ามา พวกหัวหน้ารภป.หลิวเลยเข้ามาห้าม ไม่ถึงห้าวินาทีก็โดนไอ้หมอนี่มันจัดการจนล้มไม่เป็นท่า...”
พนักงานเปิดประตูต่างรีบอธิบาย เมื่อพูดได้แค่ครึ่ง เฉินเฟิงพูดตัดบทแทน...
“แก้ไขใหม่ให้ถูกต้อง ไม่ใช่ฉันอยากจะไปเจอหวางเต๋อฟา ฉันให้หวางเต๋อฟาลงมาพบฉันต่างหาก”
หยางเทียนกั๋วไม่ค่อยเข้าใจเฉินเฟิง แต่เบนสายตามาทางหัวหน้ารปภ.หลิวและบรรดาลูกน้องที่ร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ที่พื้น เมื่อเห็นว่าหัวหน้ารปภ.หลิวบนตัวได้รับบาดเจ็บ รูม่านตาของเขาหรี่ลง คนของหัวหน้ารปภ.หลิวและลูกน้อง ต่างเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยมืออาชีพทำการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี การลงมือของพวกเขา ก็ไม่ได้แตกต่างจากทหารที่ปลดประจำการสักเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อมาถึงมือเฉินเฟิง ใช้เวลาไม่ถึงห้าวินาทีก็ยังล้มระเนระนาด เฉินเฟิงนี่เป็นลูกผีลูกคนจริงๆ ...
“แจ้งตำรวจ” หลังจากสูดลมหายใจเข้าแล้ว หยางเทียนกั๋วก็พูดออกมา การที่ไม่สามารถคาดเดาความสามารถที่แท้จริงของเฉินเฟิงได้นั้น การแจ้งตำรวจ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“ฉันแนะนำว่าอย่าแจ้งตำรวจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด” เฉินเฟิงยิ้มให้ แล้วมองมาที่หยางเทียนกั๋วแวบหนึ่ง
“แกกลัวเหรอ?” หยางเทียนกั๋วทำเสียงเคร่งขรึมใส่เฉินเฟิง
“ไม่ได้กลัวเลยสักนิด” เฉินเฟิงส่ายหน้าปฏิเสธ
“ฉันแค่รู้สึกว่าการโทรไปแจ้งตำรวจมันเสียเวลา”
“ถ้าแกฉลาด ให้หวางเต๋อฟาลงมาหาฉันนั่นเป็นข้อดีที่สุด หรือว่า เอาห้องจัดเลี้ยงที่ทางเราจองเอาไว้ก่อน คืนให้พวกเราซะ”
คืนให้?
เมื่อรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของเฉินเฟิงเรื่องห้องจัดเลี้ยงแล้ว สีหน้าหยางเทียนกั๋วหวางยิ่งทำหน้าขรึมหนักกว่าเก่า ให้เขาเอาห้องจัดเลี้ยงชั้นหนึ่งเอามาให้ตระกูลหลิน มันก็เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ ถ้าเขาให้ตระกูลหลินเข้าไป ทางฝั่งหวางเต๋อฟาจะเป็นคนรับผิดชอบ?
เรื่องกระทบกระเทียบระหว่างรองประธานกรรมการบริษัทจงเสิ้งกับตระกูลหลินตระกูลเล็กๆ ในใจของเขายังคงชั่งใจอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...